จากกรณี นายสุชาติ ขาวล้วน อายุ 53 ปี ชาว อ.ลำทับ จ.กระบี่ หายตัวปริศนาไปตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า โคโรน่า สีขาว ทะเบียน กน 6552 กระบี่ ต่อมาลูกสาวและญาติเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ลำทับ ให้ช่วยติดตาม แต่ผ่านไปประมาณ 10 วันก็ยังไม่พบตัว ซึ่งทางญาติให้ข้อมูลกับทางตำรวจว่าน่าจะถูกปองร้ายจนอาจเสียชีวิต เพราะได้ไปตามทวงหนี้ 3 แสนบาท จากบังฟิตที่ตำบลหนองทะเล และมีเบาะแสล่าสุดเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่อู่ใน ต.ทับปริก อ.เมืองกระบี่ ที่นายสุชาติเดินทางไปหาเพื่อนเจ้าของอู่เพื่อรับไปทวงหนี้ด้วยกัน แต่เจ้าของอู่ไม่อยู่ จึงเดินทางไปคนเดียวและหายตัวไปในที่สุด ต่อมาได้มีแชตลับแจ้งทางญาติว่า นายสุชาติถูกฆ่าและฝังดินทั้งรถทั้งคนที่ ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่
ล่าสุด เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา (13 พฤษภาคม) เจ้าหน้าที่พบร่องรอยการเผาและขุดฝังห่างจากบ้านบังฟิตในหมู่ 1 ต.หนองทะเล ประมาณ 200 เมตร และพบรถของนายสุชาติในสภาพถูกเผาฝังดินไว้
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ซึ่งได้มีการสนธิกำลังจากกองปราบปราม สืบสวนภาค 8 สืบสวนจังหวัด และสืบสวนอ่าวนาง ออกกระจายกำลังเดินหาหลักฐานเพิ่ม เพราะเชื่อว่านายสุชาติน่าจะเสียชีวิตแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้ไปพบถุงขนมและขวดน้ำดื่มริมเชิงเขา ห่างจากบ้านบังฟิตประมาณ 2 กม. จึงได้เดินเข้าไปดูพบมีปลอกกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 2 ปลอก ตกอยู่ น่าเชื่อว่าเป็นเรื่องต่อเนื่องกันจึงได้ระดมกำลังเดินหาร่องรอยจนไปพบว่ามีร่องรอยการขุดหลุมห่างจากจุดเจอปลอกกระสุนประมาณ 100 เมตร จึงได้ใช้จอบขุดลงไปดูก็พบศีรษะคน
อ่านข่าว : สาวกระบี่ วอนช่วยพ่อหายตัวปริศนานาน 1 สัปดาห์ เผยมีแชตลึกลับบอกถูกฆ่าฝังดินแล้ว
จากนั้นได้แจ้งไปยังญาติและหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกระบี่พิทักษ์ประชา ร่วมกับแพทย์เวรเดินทางมาตรวจสอบ โดยมี พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เดินทางมาตรวจที่เกิดเหตุ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ขุดศพซึ่งอยู่ในสภาพนอนคว่ำหน้าอยู่ในหลุม และพบน้ำส้มฆ่ายาง หรือกรดน้ำส้ม จำนวน 24 ขวด ถูกเทราดใส่ศพ ส่วนศพมีสภาพเริ่มเน่าเปื่อย และพบชิ้นส่วนของกางเกงสีแดง แพทย์ตรวจสอบเบื้องต้นพบมีร่องรอยหัวกระสุนยิงเข้าที่ขมับซ้าย 1 นัด และที่หน้าอกซ้าย 1 นัด แต่ยังจะต้องนำไปชันสูตรตรวจดีเอ็นเอยืนยันกับทางญาติเพิ่มเติมอีกรอบหนึ่งด้วย
ขณะที่แนวทางการสืบสวนหลังจากพบศพ เจ้าหน้าที่ได้ให้พนักงานสอบสวนไปขอหมายจับจากศาลจังหวัดกระบี่เพื่อติดตามจับกุมบังฟิต ที่น่าเชื่อว่าเป็นผู้ก่อเหตุ และมีผู้ร่วมขบวนการไม่ต่ำกว่า 5 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับแล้ว
ส่วนปมเหตุสังหารนั้น เจ้าหน้าที่ยังมุ่งไปที่การขัดแย้งส่วนตัวของบังฟิต และนายสุชาติ ซึ่งเป็นเรื่องเงินที่ยืมกันและเป็นธุรกิจที่ไม่เปิดเผยบางอย่าง
ขณะที่ลูกสาวของนายสุชาติหลังเห็นศพร่ำไห้บอกว่าขอให้ทางตำรวจเร่งล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว เนื่องจากเป็นการลงมือที่โหดเหี้ยมอย่างมาก
