เรือนจำกลางเชียงใหม่ แถลง ผู้ต้องขังติดเชื้อ 3,793 ราย ย้ำซีลสนิท พร้อมคืนพื้นที่ปลอดโรค 28 พ.ค.นี้

เมื่อเวลา 10.40 น.​ วันที่ 17 พฤษภาคม ที่หอประชุม 80 พรรษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานแถลงข่าวเรื่องความร่วมมือในการบริหารจัดการโรงพยาบาลสนามเรือนจำกลางเชียงใหม่ โดยมี พล.ต.ถนัดพล โกศัยเสวี รองแม่ทัพภาคที่ 3 นพ.จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่

พล.ต.วุฒิไชย อิศระ รองเจ้ากรมการแพทย์ทหารบก/ผู้บัญชาการเหตุการณ์ด้านการแพทย์ เรือนจำกลางเชียงใหม่ นายสุรศักดิ์ เผื่อนคำ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเชียงใหม่ นายอรรถวุฒิ พึ่งเนียม นายอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมให้ข้อมูล หลังพบการแพร่ระบาดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 เมษายน ได้รับแจ้งจากเรือนจำกลางเชียงใหม่ว่า พบผู้ต้องขังติดเชื้อ 37 ราย จาก 82 ราย แดนแรกรับ มีการแพร่กระจายต่อเนื่องเพราะผู้ต้องขังต้องทำกิจกรรมร่วมกันในแดนอื่น จึงมีการลงพื้นที่หาแนวทางจัดตั้งโรงพยาบาลสนามภายในเรือนจำ เพราะมีการระบาดเพิ่มขึ้น โดยใช้ระบบ Bubble & seal เพื่อปิดกั้นการระบาดออกสู่ภายนอก แต่สถานการณ์ยังคงทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนล่าสุดผู้ต้องขังที่ติดเชื้อมีตัวเลขสูงถึงกว่า 3 พันราย

อ่านข่าว : ตะลึง! นักโทษคุกเชียงใหม่ ติดเชื้อแล้วเกือบ 4 พันราย ผู้ว่าฯ เต้น จ่อแถลงพรุ่งนี้

นายเจริญฤทธิ์ กล่าวว่า จากที่มีหลายคนกังวล แต่เชียงใหม่ตรวจพบผู้ต้องขังติดเชื้อในพื้นที่ปิด จึงมีการหารือและใช้วิธีการควบคุมโรคในวันที่ 26 เมษายน ระยะเวลา 28 วัน แบบล็อกดาวน์ทุกห้อง ทุกแดน และตรวจค้นผู้ต้องขังทุกคน ตรวจการสร้างภูมิคุ้มกันโรคทุก 14 วัน 2 รอบ จนกระทั่งรอบสุดท้ายที่ตั้งไว้ให้เหลือผู้ไม่มีภูมิคุ้มกัน 10% มีการตรวจหาเชื้อทั้งหมดและสามารถส่งคืนได้ครบ 28 วัน และจะใช้เวลาในการปฏิบัตการอีก 5 วัน คาดว่าเรือนจำกลางเชียงใหม่จะปลอดโรคในวันที่ 28 พฤษภาคมนี้

Advertisement

นายเจริญฤทธิ์กล่าวว่า ช่วงนี้เข้าสู่อาทิตย์ที่ 3 สถานการณ์น่าพอใจ และมีทิศทางไปตามแผนงานในการดูแลรักษาและดูแลการแพร่ระบาด ความสำเร็จเป็นไปในทางที่น่าพอใจนี้ ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ประสานงานและสนับสนุนทีมแพทย์กองเสนารักษ์ กองทัพบก และเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่เข้าดำเนินการในพื้นที่ โดยเฉพาะกรมราชทัณฑ์ที่เปิดให้ใช้พื้นที่เต็มที่

“ญาติผู้ต้องขังไม่ต้องห่วง เพราะผู้ต้องขังได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี ตัวเลข 3 พันกว่าคนที่ติดเชื้อ ทั้งหมดอยู่ภายใต้การดูแลรักษาอย่างเต็มที่ทุกคน แม้แต่คนที่พ้นโทษยังต้องกักตัว 14 วัน ขอให้มั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อภายนอก

Advertisement

“จากความร่วมมือที่ทำให้การควบคุมเป็นไปตามแผนและเชื่อมั่นว่าจะไม่มีผลกระทบในเชิงการแพร่ระบาดของการใช้ชีวิตตามปกติของพี่น้องประชาชน” นายเจริญฤทธิ์กล่าว

พล.ต.ถนัดพล กล่าวว่า วันนี้ผ่านไป 17 วันแล้ว หลังได้รับคำสั่งจากกองทัพบกให้เข้าช่วยเหลือ การสนับสนุนอุปกรณ์และกำลังพลทุกชนิดเข้าช่วยเหลือ รวมไปถึงความวิตกกังวลของประชาชนภายนอก เรามีขั้นตอนในการดำเนินการชัดเจน เป็นไปตามกระบวนการ โดยยกตัวอย่างเรือนจำนราธิวาสเป็นต้นแบบ ตอนนี้เรามีเตียงรองรับ 200-300 เตียง แบ่งเป็น โซนอาการไม่หลัก หรือสีส้มที่อาการหนัก ซึ่งกองทัพบกเข้าดำเนินการ และทั้งหมดยังอยู่ในแดนของตนเอง ภายในเรือนจำมีทั้งหมด 10 แดน รวมแดนแรกรับและประกอบอาหาร ซึ่งสาเหตุการติดเริ่มมาจากญาติมาเยี่ยม จึงมีการระดมคนมาช่วย โดยต้นเดือนมิถุนายนวัคซีนจะเข้าถึง

“คุณหมอเสี่ยงสูงมากที่เข้าไปช่วยเหลือกัน ขอให้ประชาชนช่วยกันเป็นกำลังใจและขอให้มั่นใจทีมงานที่ช่วยกันเต็มที่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้พี่น้องประชาชนได้

“อยากเรียนว่าขออย่าตระหนก หรือตื่นเต้นอะไรมาก เพราะมีขั้นตอนปฏิบัติของสาธารณสุขอยู่ ทหารมีหน้าที่สนับสนุนอย่างเต็มที่ตามนโยบาย เราประเมินว่าผู้ต้องขังทุกคนโดนหมด เสี่ยงสูงทุกคน แต่อยู่ในแดนที่มีหมอและเจ้าหน้าที่ควบคุมอยู่ เราต้องช่วยกัน

“หากเป็นไปตามที่เราประเมินก็ทั้ง 6 พันกว่าคน เพียงแต่ขณะนี้มีหายและอาการดีขึ้นเรื่อยๆ ภายใน 14 วันก็น่าจะหายและย้ายออก” พล.ต.ถนัดพลกล่าว

พ.อ.ชัยเนตรอาร์ เนตรพิชิต ผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายกาวิละ กล่าวว่า เราหวังว่าจะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ในท้ายที่สุด โดยที่เฝ้าระวังในกลุ่มที่เปราะบาง กลุ่มที่มีโรคประจำตัว และกลุ่มที่อาการหนัก เป้าประสงค์คือ ควบคุมในพื้นที่ให้เบ็ดเสร็จได้ ไม่ออกมาเป็นภาระต่อสาธารณสุขภายนอก ช่วงแรกมีปัญหามาจากการติดต่อสื่อสารที่ลำบากกว่าภายนอกที่มีการจำกัดการโทรศัพท์ การลำเลียงออกซิเจน ตอนนี้มีระบบมากขึ้นแล้วไม่น่าห่วงมากนัก ทีมแพทย์ลงเต็มที่แล้วขอให้เชื่อมั่นในระบบสาธารณสุข แต่ที่ตัวเลขผู้ป่วยสูงขึ้นแบบก้าวกระโดดน่าจะมาจากความแออัดของพื้นที่

นพ.จตุชัย กล่าวว่า ลักษณะการควบคุมโรคในเรือนจำมี 2 ลักษณะ คือพื้นที่เปิด เช่น ในเมือง สังคม และพื้นที่มีเศรษฐกิจที่ซับซ้อน เป็นที่อยู่อาศัย ที่จะใช้แนวทางของ ศบค.เป็นหลัก แต่อีกลักษณะคือพื้นที่ปิด เช่น เกาะขนาดเล็ก เรือสำราญ โรงงานบางแห่งที่มีที่พักภายในรวมทั้งเรือนจำ มีกิจกรรมสังคมไม่ซับซ้อน จะใช้มาตรการอีกแบบที่ต่างกัน ซึ่งการระบาดในเรือนจำกลางตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน จึงขออนุมัติใช้ในระบบพื้นที่ปิดแบบ จุดเริ่มต้นเกิดในช่วงเชียงใหม่ระบาดครั้งใหญ่ ทำให้อาจมีการติดเชื้อไปกับผู้ต้องขัง ที่ผ่านมาเราดูแลได้ทั้งหมด แต่ครั้งนี้มีการระบากมากและเชื้อมาก มีโอกาสเล็ดลอดเข้าไปได้

“ตั้งแต่วันที่ 26 เมษายนที่เราเข้าพื้นที่ กระทรวงสาธารณสุขส่งผู้เชี่ยวชาญมาพื้นที่ในวันที่ 27 เมษายนทันที มีสมมุติฐานว่า เมื่อพบการระบาดในประชากรหนาแน่น แสดงว่าทุกคนมีโอกาสได้รับเชื้อแล้ว ดังนั้น การทำแบบ Bubble & seal เรื่องแรกคือการจำกัดขอบเขตการระบาดไม่ให้มีการะบาดจากแดนสู่แดน และไม่ให้กระจายออกสู่ภายนอก มีการล็อกดาวน์ 14 วันสองรอบ คือสองเท่าระยะะฟักตัว รวม 28 วัน

“ระหว่างนั้นจะเราค้นหาผู้มีอาการ เพื่อนำเข้ารักษาที่รวดเร็วที่สุด และจัดตั้งโรงพยาบาลสนามภายในเรือนจำที่มีขีดความสามรถสูง และสามารถรักษาทั้งผู้ป่วย ระดับเขียว เหลือง ส้ม ยกเว้นแดงที่ต้องส่งต่อ

“ถึงวันนี้ 3 สัปดาห์ มีสีแดง 6 ราย หากเทียบจำนวนก็ถือว่าไม่มากนัก เราตรวจสอบภูมิคุ้มกัน 2 รอบ หลังครบ 14 วัน หากในตามทฤษฎี จะเหลือผู้ไม่มีภูมิคุ้มกัน 10% และจะทำการตาจหาเชื้อทุกคน เพื่อแยก จะสิ้นสุดโครงการและสามาถคืนพื้นที่ปราศจากโควิด ให้เรือนจำได้ เหลือเวลา 1 สัปดาห์ จะครบ 28 วัน เพื่อใช้เวลาตรวจหาคนที่ไม่มีภูมิคุ้มกันอีก 5 วัน คาดว่าจะคืนพื้นที่ได้ในวันที่ 28 พฤษภาคม และทุกอย่างเป็นไปตามแผนการที่ได้วางไว้” นพ.จตุชัยกล่าว

อ่านข่าว : ช็อก! ไทยติดเชื้อวันเดียวเฉียดหมื่น แตะนิวไฮอีกรอบ 9,635 ราย ดับ 25 ราย

พล.ต.วุฒิไชย กล่าวว่า ภารกิจสายแพทย์ครั้งนี้มีการจัดผู้เชี่ยวชาญพิเศษเข้าบริหารจัดการรักษาพยาบาลและสนับสนุนพิทักษ์รักษาผู้ต้องขัง ค้นหาผู้ติดเชื้อเพื่อรักษาเต็มรูปแบบตามมาตรฐานเหมือนประชาชนทั่วไป เรามีหน้าที่เชื่อมโยงการดูแลระหว่างเจ้าหน้าที่ สธ. เรือนจำ และเชื่อมไปยังเจ้าหน้าที่ศักยภาพสูง ในสถานที่จำกัด และลดการส่งออกให้ได้มากสุด เช่น การจัดตั้งโรงพยาบาลสนามกองทัพบกภายในเรือนจำกลาง เพื่อดูแลระดับใส่เครื่องช่วยหายใจ ท่อหายใจ มินิไอซียู เป็นข้อต่อกลางที่เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด หลังจากนั้นก็เข้าควบคุมการแพร่ระบาด และมาตรการเชิงรุกเพื่อให้ปลอดโรคโดยเร็วที่สุด

“ตัวเลขผู้ป่วยปัจจุบันที่ประชานอยากรู้ที่สำคัญคือการระบาดในพื้นที่ขีดจำกัด ปริมาณผู้ต้องขังมาก จากยอด 6 พันคน มีภูมิแล้ว 1 ใน 4 ไม่มีโอกาสติดเชื้อ 24.7% มีภูมิคุ้มกันแล้ว จากกระบวนการสาธารณสุขที่ตรวจวิเคราะห์อย่างมีระบบและมาตรฐาน ขณะนี้ยังมี 60% ยังติดเชื้ออยู่ แต่ไม่กี่วันจะมี 44% จะพ้นระยะ หรือ 1,600 กว่าคนจะพ้น และไม่มีโอกาสแพร่เชื้อ ทำให้การควบคุมประสบความสำเร็จ ลดอัตราการบาดเจ็บของผู้ต้องขังได้อย่างเด่นชัด

“และเบื้องหลังที่มีสายพระเนตรยาวไกลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือโครงการาชทัณฑ์ปันสุข รถเอกซเรย์เคลื่อนที่ รถตรวจวิเคราะห์ชีวนิรภัย ที่นำมาใช้เอื้อประโยชน์ต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกคนอย่างมาก เราจบงานได้เร็ว ทำให้สภาวะการแพร่ระบาดไม่เกิดขึ้นจากเรือนจำแน่นอน” พล.ต.วุฒิไชยกล่าว

พล.ต.วุฒิไชยกล่าวอีกว่า ตัวเลขไม่นิ่ง มีผู้ต้องขังไหลเข้าทุกวัน ผลตรวจวิเคราะห์มีทุกวัน อาจคาดเคลื่อนได้จากการรับข้อมูล เรามียอดผู้ต้องขัง 6,311 คน พบการติดเชื้อ 3,793 คน มีภูมิคุ้มกันแล้ว 1,532 คน และ 923 คน ไม่ติดเชื้อแล้ว ผู้คุมติด 7 คน จากทั้งหมด 23 คน ได้รับการดูแลเต็มที่ เราพยายามดูแลผู้ป่วยจากสีเหลืองไปส้ม ได้ 10% ถือว่าทำได้ดีมาก

พล.ต.วุฒิไชยกล่าวว่า สาเหตุที่ตัวเลขพุ่งสูง เพราะเรือนจำต่างจากภายนอกคือแพทย์ต้องเข้าไปหาผู้ป่วย มีขีดจำกัด ต้องปูพรมเจาะทุกคน ทำให้ตัวเลขกระโดดได้จากหลายปัจจัย และทีมงานจะวิเคราะห์ทุกอย่าง และไม่ให้แพร่ระบาดออกไปได้ ไม่ว่าจากตัวคน น้ำ หรือสิ่งคัดหลั่ง

ขณะที่ นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า เรือนจำกลางเชียงใหม่เป็นเรือนจำมั่นคง มีผู้ต้องขังจำนวน 6.4 พันคน มีทั้งหมด 10 แดน แดน 4 ที่เกิดเหตุ คือ แดนแรกรับ แต่มีการแยกขัง 14 วัน 7 ห้อง ดูแลตามมารตรฐาน เราผ่านโควิดมาแล้ว 2 รอบ แต่ครั้งนี้สภาวะสิ่งแวดล้อมทำให้เกิด ขอแสดงความเสียใจและขอโทษประชาชน เรามีวิกฤต แต่เรามีเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยเข้ามาช่วยเหลือพี่น้องในเรือนจำ บรรยากาศ ณ ปัจจุบัน เกิดเหตุจากแดน 4 ไปเรียนแดน 6 และแดน 5 แดน 7 ก็มีไปเพื่อเรียนหนังสือที่แดน 6 ทำให้เกิดการติดเชื้ออย่างรวดเร็ว ถือเป็นบทเรียน

นายสุรศักดิ์กล่าวว่า ต่อไปจะกักตัวแค่ 14 วัน ไม่ได้แล้ว ต้องเพิ่มเป็น 21-30 วัน และตรวจหาเชื้อทุกวัน พี่น้องประชาชนอาจตกใจ แต่เรามีผู้ต้องขังไม่ติดเชื้ออีกมาก เพราะเราได้ให้กินยาฟ้าทะลายโจร วิตามินซี น้ำขิง น้ำกระชายขาว มีภูมิคุ้มกัน 3 พันคน ทำให้เกิดกำลังใจแก่ผู้ต้องขังแดนอื่นว่าการรักษาโรคขึ้นอยู่ที่การปฏิบัติตัว และทุกคนต่างอยู่กันในความสงบและให้ความร่วมมืออย่างดี ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์ในการใช้สมุนไพรไทย เพราะมีภูมิคุ้มกันจริง น่าจะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนคนไทย จึงอยากให้มีการวิจัยเรื่องนี้ให้จริงจังมากขึ้น

“เจ้าหน้าที่ของเราติดเชื้อ 7 คน และมีภูมิคุ้มกันแล้ว 9 คน แต่ขณะนี้การปฏิบัติมีมาตรฐานดีขึ้นมาก และจะเข้มงวดมากขึ้น เราจะพยายามไม่ให้ผู้ต้องขังใหม่เข้าไปในแดนวิกฤต แต่การจะย้ายไปที่อื่นอาจพลาด นำคนติดเชื้อไปก็จะเป็นปัญหาอีก จึงปรับแดน 2 เป็นแดนแรกรับ ไม่ให้เข้าแดน 4 ที่เกิดการระบาด สามารถแก้ปัญหาได้” นายสรุศักดิ์กล่าว

นายอรรถวุฒิ กล่าวว่า เราตั้ง Local quarantine มี 4 ศูนย์ ค่ายนเรศวนมหาราช เทศบาลตำบลสันมหาพน บ้านพักรับรองเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล และ ร้อย ตชด.33 เป็นจุด local quarantine รับคนที่ออกมาจากเรือนจำกลาง เพื่อสังเกตอาการบุคคลที่พ้นโทษ กักตัวและตรวจหาเชื้อ หากพบว่าเป็นบวกส่งโรงพยาบาลสนามศูนย์ประชุมนานาชาติเพื่อรับการรักษา หากผลเป็นลบก็ส่งต่อไปกักตัวต่อที่ 4 ศูนย์ดังกล่าว ซึ่งขณะนี้มี 57 คน ผลบวก 30 คนส่งรักษาตัวแล้ว และมีผู้ที่กักกันครบและไม่มีเชื้อ 4 คน คืนกลับสู่สังคมแล้ว วันนี้จึงมีผู้กักตัวเหลืออยู่ 24 คน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image