พ่อค้าขายของชำในหมู่บ้าน อ.ลำปลายมาศ บุรีรัมย์ เตือนลูกค้าที่มาซื้อของให้ใส่แมสก์ เพราะเห็นว่ามาจากต่างจังหวัด พร้อมโพสต์ย้ำเตือนลงเฟซ แต่อีกวันเมียคนโดนเตือนบุกถึงร้านต่อว่าสารพัด
วันที่ 21 พ.ค.64 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากเจ้าของร้านขายของชำแห่งหนึ่ง ที่ อ.ลำปลายมาศ ว่าได้มีเรื่องกับลูกค้าที่ไม่สวมแมสก์เข้ามาในร้านแล้วเกิดเรื่องกระทบกระทั่งกันขึ้น อยากจะให้มาร่วมตรวจสอบและอยากให้หน่วยงานเกี่ยวข้องหาแนวทางป้องกันและแก้ไข
จากการตรวจสอบ เป็นร้านค้าขายของชำในหมู่บ้านหัวสะพาน ต.หินโคน อ.ลำปลายมาศ พบนายเสกสรร เฉื่อยมะเริง อายุ 51 ปี บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 6 ต.หินโคน อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ โดยเจ้าของร้าน พาผู้สื่อข่าวไปดูหลักฐานจากกล้องวงจรปิด เป็นภาพลูกค้าชายไม่สวมแมสก์มาซื้อของภายในร้าน แล้วมีการตักเตือน และวันถัดมาได้มีภรรยาของคนที่ถูกเตือนมาต่อว่าถึงร้านแบบเสียหาย
โดยนายเสกสรร เล่าว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนซึ่งเปิดขายของตามปกติ เวลาประมาณ 09.00 น.ได้มีนายบุญทัน สามีของคนในหมู่บ้านซึ่งเดินทางมาจากจังหวัดนครราชสีมา มาซื้อของโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย เมื่อตนเห็นจึงเตือนไปว่า “ทำไมไม่ใส่แมสก์” นายบุญทัน ไม่ได้สนใจ ภรรยาตนจึงรีบขายของให้เพื่อให้รีบออกจากร้าน จากนั้นตนได้เอาภาพจากกล้องวงจรปิดไปโพสต์ในเฟชบุ๊กส่วนตัว เพื่อเตือนชาวบ้านให้ระวัง เพราะโรคโควิด-19 กำลังระบาด
พอรุ่งเช้าของวันที่ 15 พ.ค. ได้มีนางมะลิ ภรรยานายบุญทัน เดินมาที่หน้าร้าน พร้อมต่อว่าต่างๆ นานาว่าเรื่องแค่นี้ทำไมต้องเอาไปโพสต์ ตนพยายามอธิบายว่าเป็นการเตือนให้ชาวบ้านระวังตัว แต่การอธิบายดังกล่าวของตน นางมะลิไม่สน พร้อมกับขึ้นเสียงด่าแบบไม่สนใจใคร ตนรู้สึกไม่พอใจเพราะมีคำหยาบสารพัด ทำให้ตนโมโห ปรี่เข้าไปชี้หน้า จากนั้นประมาณ 5 นาที นางมะลิจึงเดินออกจากร้านไปด้วยความไม่พอใจ
นายเสกสรร กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาตั้งแต่มีโรคระบาด ตนได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของสาธารณสุขจังหวัดและ อสม.ในพื้นที่อย่างเคร่งครัด นำป้ายและสติ๊กเกอร์แจ้งเตือนมาติดร้านหลายแผ่น
ถึงตอนนี้อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาช่วยแก้ไขปัญหา กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และกรณีนี้อยากให้มีบทลงโทษ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง
