หญิงสิบสองปันนาขอบคุณทั้งน้ำตา กลุ่มเยาวชนเชียงคำขนของมาบริจาคเต็มบ้าน พร้อมจ่ายค่าเช่าที่ค้างให้

หญิงสิบสองปันนาขอบคุณทั้งน้ำตา กลุ่มเยาวชนเชียงคำขนของมาบริจาคเต็มบ้าน พร้อมจ่ายค่าเช่าที่ค้างให้

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภูวนัย หัวนา อายุ 27 ปี ได้ชักชวนสมาชิกเครือข่ายกลุ่มสวนลุงคง ในเขต อ.เชียงคำ กว่า 30 คน เดินทางนำของใช้ที่จำเป็นอาทิ น้ำดื่ม กาต้มน้ำ ข้าวสาร อาหารแห้ง ที่นอน และอื่นๆ รวมทั้งเงินอีกจำนวนหนึ่ง มามอบให้กับผู้ยากไร้ ซึ่งทราบชื่อต่อมาคือนางอ่อน พยศแก้ว อายุ 56 ปี เป็นชาวสิบสองปันนา ประเทศจีน ได้มาอาศัยเช่าบ้านอยู่ใน ต.อ่างทอง อ.เชียงคำ จ.พะเยา

นายภูวนัยกล่าวว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ทางน้องๆ ในกลุ่มที่อยู่บริเวณบ้านจำบอน หมู่ 7 แห่งนี้ได้เห็นความลำบากของนางอ่อนเป็นอย่างมาก เพราะนางอ่อนแฟนพิการทางสายตา หนำซ้ำลูกสาวยังคลอดลูกทิ้งไว้ให้เลี้ยงเพียงลำพัง โดยไม่มีการส่งเสียเลยสักครั้ง นอกจากนี้ยังทราบมาว่าบ้านนางอ่อนที่อาศัยอยู่นี้ต้องเช่าอยู่เดือนละ 1,000 บาท โดยเจ้าของบ้านชื่อนางจำนง กาติ๊บ ได้ให้เช่ามาเป็นระยะเกือบ 1 ปี

นายภูวนัยกล่าวว่า ส่วนที่นอนยังพบว่าเก่ามาก พร้อมทั้งมีข้าวของเครื่องใช้ที่ชำรุดทรุดโทรมหลายชิ้น หลังจากที่ตนทราบเรื่องก็ได้ลงพื้นที่เข้าไปเยี่ยมก่อนและพบว่าสิ่งที่เด็กๆ ในกลุ่มพูดมานั้นเป็นความจริง จึงได้ระดมขอรับบริจาคสิ่งของที่จำเป็นให้กับนางอ่อนเป็นการเร่งด่วน ซึ่งวันนี้ได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่ายเป็นอย่างดี ทั้งนี้ ทางผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 พร้อมทั้งทีม อสม.ประจำหมู่บ้านก็มาอำนวยความสะดวกให้

Advertisement

“เรารู้มาว่านางอ่อนยังค้างค่าเช่าอยู่หลายเดือน จึงรวมเงินจำนวนหนึ่งมาใช้หนี้ค่าเช่าที่ยังคงค้างของนางอ่อน และมอบให้กับเจ้าของบ้านเป็นที่เรียบร้อย ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วงบริจาคของให้กับนางอ่อนในครั้งนี้” นายภูวนัยกล่าว

ด้านนางอ่อนเล่าทั้งน้ำตาว่า ตนเป็นคนสิบสองปันนา เข้ามาอยู่เมืองไทยตั้งแต่อายุ 18 ปี จนตอนนี้อายุ 56 ปีแล้ว มีแฟน 1 คน ซึ่งพิการทางสายตา และมีลูกสาว 1 คน แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรลูกสาวได้คลอดหลานมาให้เลี้ยงถึง 2 คน โดยไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อเด็ก ส่วนลูกสาวก็ได้หนีหายออกจากไป และไม่ได้กลับมาดูแลลูกอีกเลย ทิ้งให้ตนทนเลี้ยงหลานด้วยความลำบากตลอดมา

Advertisement

นางอ่อนกล่าวว่า เมื่อก่อนอาศัยอยู่บ้านเช่าที่บ้านร่องส้าน ต.ร่มเย็น อ.เชียงคำ จ.พะเยา แต่พักหลังๆ ระบบน้ำกินน้ำใช้ไม่ค่อยดี จึงย้ายครอบครัวมาที่บ้านจำบอน หมู่ 7 แห่งนี้ โดยไม่ได้แจ้งให้ผู้นำชุมชนทราบแต่อย่างใด พร้อมทั้งได้เช่าบ้านอยู่ซึ่งเป็นบ้านของลูกสาวนางจำนงนี้ ด้วยค่าเช่าเดือนละ 1 พันบาท และก่อนหน้านั้นตนเองได้พาสามีเดินทางไปร้องเพลงตามตลาด หวังให้คนใจบุญเห็นใจและช่วยเหลือ แต่เมื่อมาเกิดสถานการณ์โควิดชาวบ้านละแวกข้างเคียงก็เกรงว่าตัวเองจะไปติดเชื้อโควิดแล้วมาแพร่ในหมู่บ้านจึงขอไม่ให้ตนเองออกไป

นางอ่อนกล่าวอีกว่า เพื่อนบ้านที่อยู่ข้างเคียงก็นำข้าวปลามาให้ตนและหลานได้กินประทังชีวิตบ้างในบางครั้ง ทุกวันนี้หลานชายคนโตก็ได้เรียนหนังสือที่โรงเรียนบ้านจำบอนแล้ว ทำให้ตนเองสบายใจขึ้นบ้าง สำหรับกลุ่มเด็กๆ ที่มามอบของให้ตนเองในวันนี้ตนเองซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก เพราะชีวิตนี้ไม่เคยมีใครนำข้าวของมาให้เยอะขนาดนี้ ขอขอบคุณเด็กๆ กลุ่มนี้ที่มาช่วยเหลือด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่ง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image