เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ที่ห้องประชุมชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานประชุมประจำเดือน โดยมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทั้ง 13 อำเภอ จำนวนกว่า 50 คน โดยในที่ประชุมได้มีสาระสอดแทรกเร่งด่วน กรณีอาวุธปืน AK102 จำนวน 28 กระบอก ของกองร้อย อส.ที่ 2 ได้หายไป ซึ่งทางผู้ว่าราชการ จ.นราธิวาส ได้สั่งกำชับให้อีก 12 อำเภอ ทำการตรวจสอบและหากพบว่ามีการสูญหายให้เข้าแจ้งความดำเนินคดี พร้อมรายงานให้ตนได้รับทราบทันที ตลอดจนคาดโทษผู้เกี่ยวข้องแต่ละอำเภอหากมีการปล่อยปละละเลย นายอำเภอแต่ละอำเภอเดือดร้อนแน่
หลังจากประชุมแล้วเสร็จ นายเจษฎาเปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีหนังสือสั่งการไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการดูแลรักษาอาวุธปืนที่ว่าการอำเภอทั้ง 13 อำเภอ ให้ตรวจสอบคลังอาวุธ ซึ่งไม่ใช่แค่ตรวจสอบเฉพาะปืน AK 102 แต่รวมไปถึงให้ตรวจสอบอาวุธปืนทุกชนิด ทุกยี่ห้อ ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นอาวุธปืนสั้น ปืนพกสั้น และปืนยาว ที่อยู่ในความดูแลที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลและหน่วยงานราชการ โดยการตรวจสอบนั้นให้ตรวจสอบว่าอยู่ที่ไหนอย่างไร ใครคือผู้ครอบครอง ซึ่งถ้าพบว่ามีการนำออกไปด้วยใครก็ตามโดยผิดกฎหมายให้แจ้งความดำเนินคดีทุกกรณี และต้องสืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำผิดมาให้ได้โดยเร็วที่สุด
อ่านข่าว : “ผู้การนราฯ” เผย ปืน AK 102 หายจากคลังแสงอส.ใน 5 อำเภอ รวม 37 กระบอก เร่งหารายละเอียด
– ผู้ว่าฯ นราธิวาส ตั้งกรรมการสอบปม ปืนหาย ชี้ไม่ได้หายพร้อมกัน แต่ทยอยนำออกตั้งแต่ปี 2555
นายเจษฎากล่าวว่า ให้ทุกอำเภอดูแลอาวุธปืนว่ามีหลุดรอดไปได้อย่างไร ซึ่งถ้าตรวจสอบสอบแล้วพบว่าอาวุธปืนหายต้องแจ้งความโดยทันที ซึ่งเป็นมาตรฐานที่จะต้องยึดถือปฏิบัติ โดยจะมีการตั้งคณะกรรมการแยกเป็นระดับจังหวัดอีกชุด เข้ามาตรวจสอบเพื่อความเป็นธรรม เพื่อหาข้อเท็จจริงของแต่ละอำเภอให้ชัดเจน โดยในส่วนของอำเภอเมืองนั้นครบ 7 วันแล้ว คงจะได้ข้อสรุปบางประการ
ด้าน พ.ต.อ.ศุภกร พึ่งรศ ผกก.สภ.เมืองนราธิวาส กล่าวว่า เรื่องอาวุธปืนที่สูญหายนั้น ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการประสานกับเจ้าหน้าที่ผู้ที่เกี่ยวข้องของอำเภอเมืองนราธิวาสแล้ว แต่ยังไม่ได้มีการสืบสวนสอบสวนบุคคลใดๆ ทั้งสิ้น เพียงแต่ทางผู้เสียหายหรือผู้รับผิดชอบในกรณีดังกล่าวเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ซึ่งเป็นตามกระบวนการทางกฎหมาย และหากทางเจ้าหน้าที่ อ.เมืองนราธิวาส ที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืนที่สูญหาย รวบรวมส่งเอกสารหลักฐานต่างๆ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เราก็จะเร่งทำการสืบสวนสอบสวนตามข้อมูลพยานหลักฐานที่ได้ในทันที
พ.ต.อ.ศุภกรกล่าวว่า จากคดีที่เกิดขึ้นอาจต้องใช้เวลาในการหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ เพราะเจ้าหน้าที่ต้องทำคดีอาวุธปืนที่สูญหายทีละกระบอก จนครบทุกกระบอกคงใช้เวลานานพอสมควรที่จะนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี
