ผู้ว่าฯรุดแก้ปัญหา ผู้ติดเชื้อเมียนมา รพ.สนามแคลคอมพ์ ประท้วง โดยตั้งเครื่องทำน้ำร้อน ปรับอาหาร ตั้งอุปกรณ์สื่อสารผ่านล่าม พร้อมเตรียมพิจารณาปิดโรงงานต่อหรือไม่
สถานการณ์ความคืบหน้า กรณีเหตุชุลมุนที่ผู้ป่วยชาวเมียนมาร์ภายในโรงพยาบาลสนาม ในโรงงานแคล-คอมพ์ อ.เขาย้อย ซึ่งเป็นคลัสเตอร์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ขนาดใหญ่ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ที่ออกมาประท้วงเนื่องจากไฟฟ้าดับ ทำให้อากาศภายในร้อน และเรียกร้องเพิ่มเติมเรื่องอาหารเมื่อคืนวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น
ต่อมาเมื่อเวลา 9.30 น.วันที่ 28 พฤษภาคม นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผวจ.เพชรบุรี เดินทางมายังโรงงานแคล คอมพ์ ต.สระพัง เชิญ นายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร รอง ผวจ.เพชรบุรี นางวิพร แววศรีผ่อง นายอำเภอเขาย้อย ผู้บริหารและผู้มีอำนาจของบริษัทแคลคอมพ์ ร่วมประชุมพร้อมกับคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ เจ้าที่สาธารณสุข ตำรวจ สภ.เขาย้อย และเจ้าหน้าที่ทหารจาก มทบ. 15 โดยสรุปการประชุมส่วนสำคัญ 2 ประเด็น คือสาเหตุและแนวทางแก้ไขกรณีปัญหาที่เกิดขึ้น เมื่อคืนวันทิ่27พ.ค. และ ในส่วนของกำหนดการเปิดโรงงานแคลคอม ซึ่งจังหวัดเพชรบุรีโดยคณะกรรมการโรคติดต่อได้มีคำสั่งปิดโรงงานไปเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม เป็นเวลา 14 วัน และจะครบกำหนดเปิดในวันที่ 4 มิถุนายนนี้
หลังการประชุม นายภัคพงศ์เปิดเผยว่า กรณีการชุมนุมของแรงงานต่างด้าวผู้ติดเชื้อ ซึ่งพักรักษาตัวอยู่ในอาคาร 11 ที่เป็นโรงพยาบาลสนามภายในโรงงานแคลคอมพ์ ตรวจสอบพบว่าปัญหาการเกิดเนื่องจาก ก่อนหน้านี้ในระยะเวลากักตัว ผู้ติดเชื้อมีการนำพัดลม หม้อต้มน้ำ กระทะไฟฟ้าและเครื่องใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดต่างๆ จำนวนมากเข้าไปใช้ ในพื้นที่โรงพยาบาลสนาม ส่งผลให้ปริมาณกำลังไฟฟ้า ไม่เพียงพอทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าขัดข้อง เบื้องต้นที่ประชุม ได้ประสานผู้ประกอบการ ให้จัดเตรียมเครื่องทำน้ำร้อนขนาดใหญ่ความจุไม่ต่ำกว่า 15 ลิตร วางกระจายตามพื้นที่ต่างๆจำนวน 25 จุด เพื่อลดการใช้ปริมาณอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและลดปริมาณการใช้ไฟฟ้า และจะติดตั้งรถผลิตกระแสไฟฟ้าชั่วคราวเพิ่มเติม
ส่วนในกรณีอาหารที่มีการร้องขอให้จัดเปลี่ยนอาหารไทยเป็นอาหารเมียนมาร์ โรงงานได้ประสานบริษัทผู้จัดหาแรงงานชาวเมียนมาร์เข้ามาทำงาน ให้จัดเตรียมอาหารเมียนมาร์มาสนับสนุน ถ้าไม่เพียงพอโรงงานจะจัดสรรเพิ่มเติม และประสานงานเครื่องปรุงสำเร็จรูป อาทิ ปลาป่น ที่ชาวเมียนมาร์ร้องขอเพิ่มเติมให้
นอกจากนี้ ยังจะมีการติดตั้งไมโครโฟน แบบอินเตอร์คอมเพื่อให้ตัวแทนผู้ติดเชื้อซึ่งสามารถพูดไทยประสานเป็นล่าม ภายในเพื่อทราบความต้องการและ ปัญหาอุปสรรค ต่อไป และคาดว่าหากแก้ปัญหาทั้งหมดได้คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ในส่วนของการพิจารณาการ เปิดหรือปิดของโรงงานแคลคอมพ์ ซึ่งจังหวัดเพชรบุรีโดยคณะกรรมการโรคติดต่อได้มีคำสั่งปิดโรงงานไปเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม เป็นเวลา 14 วัน และจะครบกำหนดเปิดในวันที่ 4 มิถุนายนนี้ สาธารณสุขจะนำข้อมูลผู้ติดเชื้อทั้งหมดมาร่วมหารือ
ส่วนมาตรการเชิงรุก ขณะนี้ได้มีการสุ่มตรวจเชื้อในโรงงานขนาดใหญ่ซึ่งมีคนงานเกิน 500 คนขึ้นไป หากพบว่ามีผู้ติดเชื้อเกิน 10 % ก็จะให้มาตรการเดียวกันกับโรงงานที่ จ.สมุทรสาคร คือการกักตัวดูแลผู้ติดเชื้อในโรงงานทันที โดย จะเป็น วาระการประชุม ในคณะกรรมการ โรคติดต่อระดับจังหวัดเพื่อพิจารณาในช่วงบ่ายวันนี้ต่อไป เชื่อมั่นว่าไม่น่าจะมีโรงงานปกปิดข้อมูลเพราะหากเกิดการแพร่ระบาดจะมีโทษทางกฎหมายทั้งโทษจำคุกและปรับ ที่สำคัญหากเกิดการแพร่ระบาดจะเกิดผลเสียกับโรงงานมากกว่า
