หนุ่มวัย 27 ปี จุดไฟเผาบ้านยายตัวเองวอดทั้งหลัง เพราะไม่พอใจหลานวัย 11 ปีไปฟ้องยายว่าไม่ปิดฝาชีโต๊ะอาหารทำให้แมวมากินปลาทู เผยหลังจุดไฟเผานั่งไขว่ห้างดูผลงาน
เมื่อวันที่ 31 พ.ค.64 ร.ต.อ. บัณฑิต อาจอ้อม รองสวป. สภ.นางรอง อ.นางรอง รับแจ้งเหตุ มีชายคลุ้มคลั่งเผาบ้านตัวเอง จึงประสานหน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ และรถดับเพลิงใกล้เคียงเข้าร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ เป็นบ้านสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ เลขที่ 99 หมู่ 6 ต. หนองโสน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบ้านของนางสมพร เที่ยงกระโทก อายุ 61 ปี พบไฟกำลังลุกไหม้อย่างรวดเร็ว รถดับเพลิงเข้ามาช่วยแต่ไม่ทัน เนื่องจากบ้านเป็นอาคารไม้ ทำให้ลุกไหม้วอดไปทั้งหลัง
บริเวณใกล้ที่เกิดเหตุพบนายสุรัตน์ รัตนาธิวัตน์ (เหน่ง)อายุ 27 ปี หลานเจ้าของบ้าน นั่งไขว่ห้างอยู่หน้ากระท่อมของตัวเอง ซึ่งอยู่ตรงข้ามบ้านที่ถูกไฟไหม้ นั่งมองไฟที่กำลังโหมไหม้อย่างมีความสุข ในมือถือมีดอีโต้ ตำรวจเข้าไปควบคุมตัว เพราะจากรายงานที่ได้รับ น่าจะเป็นคนจุดไฟเผาบ้านหลังดังกล่าว
โดยนายเหน่ง รับสารภาพว่า ได้เป็นคนจุดไฟเผาบ้านจริง เพราะไม่พอใจหลานของตัวเองวัย 11 ปี ที่ไปฟ้องยายว่าไม่ยอมปิดฝาชีโต๊ะอาหาร ทำให้แมวมากินปลาทูไป 1 ตัว จึงเกิดความแค้น
สอบนางสมพร เจ้าของบ้าน เล่าว่า ภายในบ้านอาศัยอยู่ด้วยกัน 4 คน มีตน นายเหน่งเป็นลูกน้องสาว และหลานชายอายุ 11 และ 7 ปี วันนี้ได้นั่งล้อมวงกินข้าวด้วยกันตามปกติแต่หลังจากกินข้าวเสร็จ หลานวัย 11 ปี ได้จับแมวมาโยนออกนอกบ้าน จึงตำหนิหลานว่า ”ทำไมทำแมวแบบนี้”หลานตอบว่าแมวตัวนี้ไปกินปลาทูที่อยู่ในโต๊ะอาหาร เพราะลุงเหน่ง ซึ่งกินข้าวเป็นคนสุดท้ายไม่ปิดฝาชี
ทำให้นายเหน่งไม่พอใจ ประกาศในตอนนั้นว่า”จะเผาบ้าน”พร้อมกับเอาเสียมจะมาทำร้ายหลาน 11 ปี ตนจึงเข้าไปห้าม แต่กลัวว่าจะไม่ปลอดภัยเพราะนายเหน่ง มีอาการคลุ้มคลั่ง จึงพาหลานอีก2 คน วิ่งหนีไปอาศัยบ้านญาติใกล้กัน ประมาณ 5 นาที ได้เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นทันที เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนรับไม่ได้ ต้องปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการตามกฎหมายโดยไม่ขอประกันตัว
