นายก อบจ.ประจวบฯพร้อมซื้อวัคซีนทางเลือก หนุนหัวหินเร่งเปิดเมืองท่องเที่ยว หลังทุ่มงบ 5 ล้านซื้อเครื่องตรวจหาเชื้อโควิดให้โรงพยาบาล
วันที่ 31 พฤษภาคม นายสราวุธ ลิ้มอรุณรักษ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า จากกรณีผู้บริหารองค์กรปกครองท้องถิ่น (อปท.) หลายจังหวัดทั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เทศบาลนคร เทศบาลเมือง มีความประสงค์จะซื้อวัคซีนชิโนฟาร์ม โดยทำหนังสือถึงเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เพื่อสั่งจองวัคซีนทางเลือก ยืนยันว่าขณะนี้ อบจ.ประจวบฯมีงบประมาณพร้อมในการจัดซื้อวัคซีนทางเลือก หากหน่วยงานในส่วนกลางยืนยันว่าไม่มีปัญหาติดขัดในระเบียบหรือกฎหมาย และไม่ถูกทักท้วง ตามที่สมาคม อบจ.แห่งประเทศไทยมีหนังสือสอบถามถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อบจ.พร้อมซื้อทันทีโดยวางแผนร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด หน่วยงานสาธารณสุข รวมทั้ง อบต.และเทศบาลในพื้นที่ เนื่องจาก จ.ประจวบฯ เป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก ซึ่งขณะนี้มีการจัดทำโครงการหัวหินรีชาร์ท เพื่อเปิดเมืองท่องเที่ยวและรับนักท่องเที่ยวต่างขาติโดยไม่ต้องกักตัวตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้ เป็นต้นไป
“ หากมีวัคซีนทางเลือกเข้ามาเสริมจะทำให้การสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ทำได้รวดเร็วมากขึ้น โดยอาจจะมีเทศบาลหัวหินจัดร่วมซื้อวัคซีนด้วย และที่ผ่านมาเมื่อเดือนเมษายน 2563 อบจ.ได้อุดหนุนงบประมาณ 5 ล้านบาท มอบให้ รพ.ประจวบคีรีขันธ์ ดำเนินการปรับปรุงห้องปฏิบัติการ และจัดซื้อเครื่องตรวจวินิจฉัยทางอณูชีวโมเลกุล พร้อมอุปกรณ์หาสารพันธุกรรมโควิด 19 ตามมาตรฐานของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วนที่ต้องมีใช้ใน รพ.ประจวบคีรีขันธ์ ทำให้ปัจจุบันประชาชนได้รับความสะดวกในการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด 19 โดยเฉพาะชาว อ.บางสะพานน้อย อ.บางสะพาน และ อ.ทับสะแก สถานพยาบาลในพื้นที่สามารถนำเชื้อไปตรวจที่ รพ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้โดยไม่ต้องเดินทางไปตรวจที่ รพ.หัวหิน ทำให้การระบาดในระยะที่ 3 ประชาชนทราบผลการตรวจได้อย่างรวดเร็ว มีผลดีกับการวางแผนควบคุมโรค นอกจากนั้นได้จัดชุดปฏิบัติการสนับสนุนพ่นยาฆ่าเชื้อในสถานที่ต่างๆ”นายสราวุธ กล่าว
นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด(สสจ.) ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า หาก อปท.ในจังหวัดจัดซื้อได้ 50,000 – 1 แสนโดสก็จะดีมาก เพื่อนำวัคซีนทางเลือกเข้ามาสนับสนุนกระจายให้กับประชาชนทุกกลุ่มเสี่ยงจะได้รับวัคซีนเร็วขึ้น พร้อมกับการฉีดวัคซีนตามยอดที่รัฐจัดสรรให้ในแต่ละสัปดาห์ และ หาก อปท.จัดซื้อขั้นตอนการขนส่งหรือจัดเก็บวัคซีนจำนวนมากไม่มีปัญหาในการควบคุมคุณภาพ ทุกโรงพยาบาลมีความพร้อม
ส่วนการกระจายวัคซีนที่องค์กรท้องถิ่นจัดซื้อไปฉีดให้ประชาชน จะใช้บุคลากรของโรงพยาบาลและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล( รพ.สต.) ขณะเดียวเจ้าหน้าที่ อปท.ต้องเข้ามาเป็นจิตอาสาเพื่อช่วยเหลือการทำงานของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ทำงานด้านหน้า และขณะนี้ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เลือกว่าจะฉีดยี่ห้อวัคซีนใด เพื่อป้องกันตนเอง ดังนั้นรัฐบาลจึงควรใช้โอกาสนี้สนับสุนนวัคซีนให้มีเพียงพอกับความต้องการ
