เมื่อวันที่ 6 กันยายน จากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดรถไฟสายกรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก จนโบกี้และรางรถไฟได้รับความเสียหาย และมีผู้เสียชีวิตและรับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณสถานีย่อยบ้านนิคมโคกโพธิ์ ม.9 ต.โคกโพธิ์ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เมื่อ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุดการกู้และซ่อมแซมเส้นทางรถไฟในวันที่ 2 หลังทีมชุดเครื่องจักรขนาดใหญ่ในการซ่อมแซมบำรุงทางรถไฟมาถึง ได้ทยอยขนโบกี้ที่ 5 ซึ่งเสียหายไม่มากบรรทุกลากกลับไปเก็บไว้ชั่วคราวที่สถานีรถไฟเทพา จ.สงขลา คงเหลือเพียงโบกี้ที่ 6 ซึ่งเสียหายขาด 2 ท่อน ยังคงไม่สามารถกู้นำกลับได้ โดยบ่ายวันนี้ทางทีมช่างจะเข้ามายกโบกี้เบี่ยงออกไว้ข้างทางก่อน เพื่อให้ทีมซ่อมบำรุงทางสามารถเข้ามาเปลี่ยนหมอนและร่างรถไฟที่เสียตรงจุดเกิดเหตุระเบิดให้ได้ โดยมีการแยกการซ่อมแซมเปลี่ยนรางที่เกิดคดเคี้ยวและหมอนรองรางรถไฟจาก 2 ฟากเข้าหาจุดเกิดเหตุระเบิด จำนวน 600 หมอน ระยะทางเกือบ 1 กิโลเมตร
ทั้งนี้ ทีมช่างซ่อมและกู้โบกี้ขอเวลา 4 วัน ในการวางแผนเตรี่ยมผ่าแยกซากชิ้นส่วนโบกี้ทั้งหมดออกเป็นชิ้น ให้สามารถขนนำกลับไปยังอู่ซ่อมที่สถานีรถไฟทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช แต่จากการสอบถามพบว่าโบกี้ที่ 6 นี้ไม่สามารถซ่อมแซมกลับมาใช้งานได้อีกเพราะแรงระเบิดทำให้เกิดความเสียหายมาก จึงต้องจำหน่ายทิ้งเป็นซากเหล็ก โดยล่าสุดจากการกู้ซากโบกี้ขบวนรถไฟที่เสียหายพบเป็นข้อมือของผู้เสียชีวิตยังอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงได้ตรวจเก็บและนำไปส่งให้กับทางญาติที่จัดงานตั้งศพอยู่ในพื้นที่ จ.สงขลาแล้ว
นายสุชาติ ชัยทอง สารวัตรแขวงบำรุงทางเทพา กล่าวว่า บ่ายนี้จะต้องให้รถเครนมายกโบกี้ที่ 6 ที่ถูกระเบิดเบี่ยงออกตั้งข้างทางก่อน เพื่อให้ชุดที่เข้ามาซ่อมทางสามารถซ่อมรางรถไฟได้ ส่วนสภาพของโบกี้ที่ 6 นี้ สภาพเสียหายและไม่สมารถใช้การได้และต้องทิ้ง โดยทางทีมช่างขอเวลา 4 วัน ยกซากโบกี้ออกและจะตัดแยกออกเป็นชิ้นส่วน เพื่อซอยเป็นชิ้นส่วนนำกลับไปเก็บ หากสามารถยกโบกี้ที่ 6 ได้วันนี้ก็จะเริ่มซ่อมแซมเปลี่ยนหมอนและรางในจุดที่เกิดระเบิดได้เสร็จในครึ่งวัน โดยส่วนที่เสียหายอื่นๆ ก็จะทำการซ่อมแซมเข้ามาหากัน ทั้งนี้ทางผู้ใหญ่ให้เร่งการซ่อมแซมจนรถไฟสามารถวิ่งได้ก่อนวันรายอที่จะถึงในวันจันทร์หน้านี้ เพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความเดือดร้อนและมีความสะดวกในการเดินทาง ส่วนขวัญกำลังใจทุกคนที่ทำงานในพื้นที่ขณะนี้ยังคงมีขวัญกำลังใจดีมาก จะทำงานตามปกติและสู้ต่อไป
ด้านความคืบหน้าทางคดี ขณะนี้ พล.ท.วิวรรธน์ ปฐมภาคย์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งจัดชุดปฏิบัติการพิเศษออกติดตามหากลุ่มผู้ร่วมกระทำผิดในครั้งนี้ทันทีหลังเกิดเหตุการณ์ โดยความคืบหน้าในแนวทางการสืบสวนสอบสวนที่จัดเจนมากขึ้น และยังคงให้มีการไล่ภาพจากกล้องวงจรปิดหาเบาะแสกลุ่มคนร้ายที่มีการเกาะติดเป้าหมายมากับขบวนรถไฟ นอกเหนือจากชายต้องสงสัยที่ขึ้นมากับขบวนจากสถานีรถไปยะลามาลงยังสถานีรถไฟปัตตานี โดยให้ขยายการหาเบาะแสตั้งแต่สถานีรถไฟโก-ลก จ.นราธิวาส เพิ่มเติม
