เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 มิถุนายน ที่ห้องพระยารัษฎา ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดตรัง นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานประชุมการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่จังหวัดตรัง (การบริหารจัดการวัคซีน) ซึ่งจังหวัดตรังได้รับวัคซีน 3,600 โดส ทั้งแอสตร้าเซนเนก้าและซิโนแวค โดยจะมีการกระจายวัคซีนไปตามอำเภอต่างๆ อย่างเท่าเทียมกัน และจะฉีดให้ผู้ที่ลงทะเบียนหมอพร้อมที่ได้รับการยืนยันก่อน
นายขจรศักดิ์กล่าวว่า การทำงานของทุกหน่วยงานต้องเป็นหนึ่งเดียว นายอำเภอ ผู้นำชุมชนต้องติดตามข่าวสารข้อมูลฉับไว สร้างความกระจ่างให้กับประชาชน ซึ่งคลัสเตอร์กลุ่มใหญ่ที่เกิดขึ้น ประชาชนให้ความสนใจว่าทางจังหวัดจะมีกระบวนการแก้ไขอย่างไร ถึงแม้ว่าทางจังหวัดและทางโรงงานจะเร่งดำเนินการอย่างรวดเร็วและทันท่วงที ดังนั้น ต้องเร่งปิดช่องว่างการแพร่ระบาดไปยังโรงงานอื่นๆ ซึ่งได้มีการแพร่ระบาดไปยังโรงไม้ยางพาราแล้ว
นายขจรศักดิ์กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขว่าหลังจากเจ้าหน้าที่เร่งตรวจเชื้ออย่างเต็มที่ ขณะนี้เครื่องปั่นตรวจเชื้อชำรุด ต้องนำเชื้อไปส่งตรวจที่จังหวัดสงขลา ทั้งนี้ ได้สั่งนายอำเภอทุกอำเภอให้กำชับท้องถิ่นเรื่องอำนวยความสะดวกให้ประชาชนในการฉีดวัคซีนและถุงยังชีพ ให้ช่วยดูแลพื้นที่ที่รับผิดชอบอย่างใกล้ชิด และกำชับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขต้องฉีดวัคซีนเรียงลำดับตามบัญชีลงทะเบียน ห้ามคนไม่มีชื่อเข้ามาฉีดโดยเด็ดขาด ป้องกันปัญหาการดราม่าที่จะเกิดขึ้น ซึ่งวัคซีนมาเพียง 3,600 โดส ไม่เพียงพอจำนวนคน ดังนั้นจะฉีดให้กับคนลงทะเบียนหมอพร้อมก่อน และจะเตรียมรายชื่อแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ขณะที่โรงพนายามสนามที่ 5 โรงฝึกกีฬาอเนกประสงค์ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตตรัง ซึ่งตามกำหนดการจะมีการส่งมอบในช่วงเช้าวันนี้ แต่ปรากฏว่า นายก อบจ.ตรัง ไม่มารับส่งมอบ แจ้งปฏิเสธแบบกะทันหัน ทำให้เจ้าหน้าที่ บุคลากรทางการแพทย์มารอเก้อ ดังนั้น เพื่อความไม่ประมาท ผู้ว่าราชการจังหวัดได้เร่งลงพื้นที่หาโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 6 ในการรองรับผู้ติดเชื้อ ทั้งนี้ มีข่าวดีว่านายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ได้บริจาคเตียง รพ.สนาม จำนวน 200 เตียง ซึ่งอาจจะนำไปใช้ในโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 6 ต่อไป
นายขจรศักดิ์กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิดตรัง มีคลัสเตอร์ใหญ่ที่โรงงานถุงมือยาง ซึ่งได้เตรียม รพ.สนามไว้ 5 แห่ง รองรับได้ 595 เตียง ซึ่งการกักตัวคนงานต้องแยกส่วนว่าผู้ที่ไม่ติดเชื้อ ทางโรงงานรับผิดชอบกักตัวที่โรงงาน ส่วนผู้ติดเชื้อมีผลบวกส่งมากักตัวที่ รพ.สนาม ยอดรวมคลัสเตอร์จากโรงงานถุงมือยางมีผู้ติดเชื้อแล้ว 461 คน ซึ่งจะถูกส่งตัวไป รพ.สนามของจังหวัด ซึ่งขณะนี้ รพ.สนามที่ 1 และ รพ.สนามที่ 4 เต็ม และวันนี้จะนำผู้ติดเชื้อย้ายเข้าไป รพ.สนามที่ 5 เดิมทีสามารถรองรับได้ 240 เตียง แต่เมื่อไปดูสถานที่ซึ่งเป็น 2 ชั้น ชั้นบนสามารถขยายได้ 300 เตียง ชั้นล่างขยายได้ 400 เตียง ซึ่งภาพรวม รพ.ที่ 5 รองรับได้ 700 เตียง คิดว่าเพียงพอต่อคลัสเตอร์โรงงานถุงมือยางและยังเหลืออยู่ อย่างไรก็ตาม คาดว่าต้องจัดเตรียม รพ.สนามเป็นแห่งที่ 6 เป็นห้องประชุมวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง สามารถรองรับได้ 300 เตียง เป็นแผนสำรองจัดเตรียมไว้ล่วงหน้า
“สำหรับคลัสเตอร์โรงงานถุงมือยาง ผลสวอบสุดท้ายน่าจะออกวันนี้ คาดว่าเหลืออีก 120 คน ทั้งนี้ จากที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ต้องเข้าใจว่าจังหวัดตรังมีกิจกรรมทั้งภาคเกษตร ท่องเที่ยว และอุตสาหกรรม มีโรงงาน 413 โรง มีคนงานในโรงงานทั้งหมด 2 หมื่นกว่าคน ฉะนั้นในเรื่องการแพร่ระบาดครั้งนี้จึงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงกับพนักงานลูกจ้างในโรงงานอุตสาหกรรมได้
“จากที่ได้รับรายงานจากคลัสเตอร์โรงงานอื่นๆ คนตรังก็ไปทำงานในโรงงานที่เชื้อแพร่ระบาด ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่เชื้อจะแพร่ในโรงงานได้ ซึ่งได้เชิญผู้ประกอบการโรงงาน 42 แห่งมาพูดคุยทำความเข้าใจเพิ่มเรื่องมาตรการเข้มงวดเข้มข้นสูงสุดในการที่โรงงานต้องรับผิดชอบในการป้องกัน รวมถึงซักซ้อมการปฏิบัติเตรียมการรองรับ รพ.สนาม หรือการสอบสวนโรค ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดี ทางโรงงานแจ้งว่าจะลดการผลิตลงรับคนมาทำงานน้อยลง และงดรับแรงงานเพิ่มเติมโดยเด็ดขาด
“สำหรับวัคซีน ได้นัดเจ้าหน้าที่มาซักซ้อมแนวปฏิบัติ จัดเตรียมคน รวมถึงจะให้องค์กรท้องถิ่นช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ไม่สะดวก โดยการลงไปพบประชาชน อำนวยความสะดวกฉีดตามสถานที่ที่กำหนด ในส่วน อบจ.สั่งวัคซีนเองนั้น ตอนนี้ต้องรอกระทรวงมหาดไทยและ ศบค. หากได้รับสัญญาณจากส่วนกลางว่าท้องถิ่นสามารถจัดซื้อได้ ทาง อบจ.ก็ยินดี พร้อมจะสนับสนุนการฉีดวัคซีน และสนับสนุนในการจองซื้อจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์” นายขจรศักดิ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 รายใหม่ ของ จ.ตรัง วันนี้มีจำนวน 92 ราย ยอดรวมสะสม 933 ราย ส่งผลให้ จ.ตรัง มีจำนวนผู้ติดเชื้ออันดับ 5 ของประเทศ และอยู่อันดับ 1 ของภาคใต้กว่า 4 วันแล้ว
