นักธุรกิจ บ้านโป่ง เครียดโควิดทำธุรกิจชะงัก ปลิดชีวิตตัวเองดับ ระหว่างกักตัวหลังหายโควิด
เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ วงค์เกตุใจ ผู้กำกับการ สภ.บ้านโป่ง พ.ต.ท.ธารา ศรีพรหมคำ รองผู้กำกับการปราบปราม พ.ต.ท.มานพ น้ำประสานไทย รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.พิษณุ เชิดโฉม สว.สส. พ.ต.ท.จรูญ มหาพล สว. (สอบสวน) สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี พร้อมด้วย กำลังชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.ราชบุรี แพทย์เวร รพ.บ้านโป่ง และมูลนิธิรวมใจการกุศลราชบุรี ตรวจสอบที่เกิดเหตุหลังได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต ภายในบ้านพัก อ.บ้านโป่ง
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านพักชั้นเดียวมีบริเวณ ภายในห้องนอนพบร่างของนายเซดอักบาร์ ปาทาน อายุ 51 ปี หรือ บังกัส เจ้าของบ้าน สภาพศพนอนหงายบนเตียง สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีเทา นุ่งกางเกงสแล็คสีดำ มีรอยถูกกระสุนปืนที่หน้าอกซ้าย 1 นัด และขมับขวา 1 นัด ข้างตัวพบอาวุธปืนขนาด 9 มม. และปลอกกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 2 ปลอกตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ภายในห้องไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือการถูกทำร้าย
จากสอบสวน น.ส.จันทร์จิรา โชคพรหมอนันต์ อายุ 41 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต ให้การว่า สามีทำธุรกิจโรงฆ่าสัตว์ และแผงค้าเนื้อวัวในกรุงเทพฯ หลังการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ตลาดถูกปิด ธุรกิจต้องหยุดชะงัก ต่อมาเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้ตายติดเชื้อโควิด-19 ก่อนเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสนามจันทร์ จ.นครปฐม กระทั่งหายดีกลับมากักตัวเองที่บ้านอีก 14 วัน ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ 8 ของการกักตัว
เมื่อช่วงสายตนเข้าไปหาที่ห้องนอน ต้องตกใจเมื่อพบว่าสามีใช้อาวุธปืนยิงตัวเองจนเสียชีวิต ตั้งแต่ครอบครัวได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้สามีเกิดความเครียดจากผลกระทบทางธุรกิจ และโรครุมเร้า ทั้งโรคเบาหวาน ความดัน และชาบริเวณซีกขวาของร่างกาย จนกลายเป็นโรคซึมเศร้า แต่ไม่คิดว่าสามีจะมาคิดสั้นฆ่าตัวตายดังกล่าว
ซึ่งทางญาติไม่ได้ติดใจในสาเหตุการตาย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดผู้ตายเครียดเกี่ยวกับธุรกิจและอาการป่วย ก่อนใช้ปืนยิงเข้าหน้าอกซ้ายแต่พลาด จึงตัดสินใจยิงเข้าที่ขมับขวาอีกครั้งจนเสียชีวิต เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนส่งมอบร่างผู้เสียชีวิตให้ทางญาติดำเนินการตามศาสนาต่อไป
