เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 10 มิถุนายน นายธีระวัฒน์ นิมมาศุภวงศ์รัฐ อายุ 32 ปี ผู้ประกอบการร้านค้าส่ง-ค้าปลีก รายใหญ่ใน จ.ขอนแก่น และอุดรธานี นำเอกสารหลักฐานการซื้อสินค้าจาก ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง ในเขต จ.อุดรธานี เข้าร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน ถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบให้เข้ามาแก้ไขปัญหาและตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากสั่งซื้อสินค้ากับห้างสรรพสินค้าแห่งนี้แล้วไม่ได้รับสินค้า เมื่อมีการทวงถามก็ไม่มีการแสดงความรับผิดชอบใดๆ อ้างว่าเป็นการกระทำของพนักงาน ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัท
เบื้องต้นพบว่ามีร้านค้าส่ง ค้าปลีก ถูกห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ยักยอกเงินไป รวม 9 ราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย รวม 6.9 ล้านบาท
นายธีระวัฒน์ ผู้เสียหาย กล่าวว่า ร้านได้สั่งซื้อสินค้ากับห้างสรรพสินค้าแห่งนี้มานานกว่า 10 ปี โดยมีผู้จัดการแผนกขายส่งสินค้าของห้างมารับรายการและดำเนินการในขั้นตอนต่างๆ ในกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่ แต่เหตุเกิดผิดปกติขึ้นครั้งแรกเมื่อช่วงต้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ได้สั่งซื้อสินค้าประเภทนมโอเมก้า กาแฟกระป๋อง และโซดา โดยได้โอนเงินให้กับพนักงานของห้างที่มารับรายการสินค้าไป จำนวน 79,000 บาท
นายธีระวัฒน์กล่าวว่า ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ทยอยส่งสินค้าให้ภายหลังได้โอนเงินไป ภายใน 7-15 วัน แต่ส่งสินค้าไม่ครบ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายในครั้งแรกอยู่ประมาณ 25,200 บาท ซึ่งก็มีการติดตามทวงถามมาตลอด จากนั้นจึงได้ติดต่อทวงถามกับห้างสรรพสินค้า ที่สำนักงาน ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับสะพานยกระดับเลี่ยงเมืองสายอุดรธานี-สกลนคร ก็ไม่ได้รับคำตอบใดๆ
นายธีระวัฒน์กล่าวว่า แต่ด้วยการที่ไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างร้านกับห้างก็ยังไม่ติดใจ จนกระทั่งมาในวันที่ 27 มี.ค. ได้เข้าไปที่ห้าง ซื้อโซดา, น้ำอัดลม และเครื่องดื่มชูกำลัง ยอดรวม 145,500 บาท โดยทำการรูดบัตรเครดิตไปกับช่องชำระเงินของห้างแบบลูกค้าทั่วไป และห้างจะทำการจัดส่งแบบดิลิเวอรีให้ถึงร้านที่ อ.กุมภวาปี แต่จนถึงขณะนี้สินค้าได้รับไม่ครบ ในกลุ่มของเครื่องดื่มชูกำลังที่สั่งซื้อไป 500 ลัง ได้รับสินค้าเพียง 300 ลัง อีก 200 ลัง ไม่ได้รับ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายในรอบที่ 2 นี้รวม 39,400 บาท
“มาเสียหายหนักที่สุดคือวันที่ 5 เม.ย. ที่ร้านต้องเตรียมสินค้าไว้จำหน่ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จึงได้เดินทางไปที่ห้างเพื่อซื้อเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ โดยได้ทำการรูดบัตรเครดิตไป 8 ครั้งที่ช่องชำระเงินปกติของห้าง ยอดเงินรวม 484,800 บาท ในกลุ่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ แยกเป็น สุราขาวเล็ก 200 ลัง ได้รับสินค้าเพียง 37 ลัง และสุราขาวใหญ่ 200 ลัง ไม่ได้รับสินค้าเลย จึงได้ทวงถามมาอย่างต่อเนื่อง พนักงานก็บ่ายเบี่ยง
“กระทั่งช่วงสิ้นเดือน เม.ย. จึงขอไปตรวจสอบเอกสารต่างๆ กับห้างพบว่าสินค้าที่ร้านสั่งซื้อไปมีการชำระผ่านบัตรเครดิตระหว่างร้านกับห้าง มีการลงรับเอกสารต่างๆ เรียบร้อย และพบว่ามีการเบิกของทั้งหมดไปแล้วก็ของไม่ได้นำมาส่งที่ร้าน ทั้งยังคงมีการปลอมลายมือชื่อ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นของใครที่เซ็นรับของไป จึงท้วงติงกับห้างสรรพสินค้าดังกล่าวไปและขอให้มาแสดงความรับผิดชอบ เพราะร้านซื้อสินค้ากับห้างโดยตรงทำไมจึงมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น” นายธีระวัฒน์กล่าว
นายธีระวัฒน์กล่าวอีกว่า จากการพูดคุยกันกับผู้ประกอบการในพื้นที่พบว่ามีร้านค้าที่ถูกห้างและพนักงานของห้างกระทำการในลักษณะเช่นนี้ และได้เข้าแจ้งความแล้ว รวม 9 ราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายที่เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งความ รวม 6.9 ล้านบาท เฉพาะในส่วนร้านของตนเองนั้นเสียหายไปรวมกว่า 500,000 บาท จึงอยากให้ห้างได้มารับผิดชอบนำส่งสินค้าให้ครบ หรือคืนเงินก็ได้ เพราะร้านซื้อสินค้ากับห้างโดยตรงและซื้อมานานกว่า 10 ปี ด้วยความเชื่อใจและเชื่อมั่นในความเป็นห้างใหญ่ โดยมีการชำระเงินกับทางห้างผ่านช่องทางชำระเงินที่ถูกต้อง มีเอกสารยืนยันการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตอย่างถูกต้อง มีใบเสร็จรับเงินจากห้างอย่างถูกต้อง แต่ได้รับสินค้าไม่ครบ
“ทุกวันนี้การค้าขายก็ยากลำบากอยู่แล้วจากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น กลับมาถูกห้างสรรพสินค้าชื่อดังที่ใหญ่โต มีมาตรฐานระดับสากล กระทำการในลักษณะเช่นนี้ อยากให้ห้างแสดงความรับผิดชอบที่เกิดขึ้นด้วย
“รู้ว่าการต่อสู้ การเรียกร้องกับห้างขนาดใหญ่นั้นอาจจะเสียเปรียบ เพราะเป็นร้านค้ารายย่อย เป็นร้านค้าในแถบชานเมือง แต่เงินกว่า 500,000 บาท ที่ต้องหายไปในช่วงเศรษฐกิจฝืดเคืองเช่นนี้ใครไม่เจอกับตัวไม่รู้หรอกว่าลำบากเพียงใด” นายธีระวัฒน์กล่าว
