ผู้เลี้ยงปลานิลนครพนมช้ำ พายุโซนร้อนโคะงุมะถล่ม ปลาในกระชังน็อกน้ำตายเป็นแพ

ผู้เลี้ยงปลานิลนครพนมช้ำ พายุโซนร้อนโคะงุมะถล่ม ปลาในกระชังน็อกน้ำตายเป็นแพ เคราะห์ซ้ำกรรมซัดหลังปลาราคาตกต่ำสุดรอบหลายปี

วันที่ 13 มิถุนายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเฟซบุ๊กผู้ใช้ชื่อ Soontharee Sriwichai ได้ลงภาพเศร้าพร้อมโพสต์ข้อความว่า “ตกมาปีนี้เกษตรกรคนเลี้ยงปลาในกระชัง ทุกข์หนักอีหลีน้อพี่น้องเอ่ย ราคาปลาต่ำสุดในรอบ 10 ปี หน้ากระชังโลละ 40-45 บาท ปลาตายทุกมื้อ…มื้อละ 200-300 โต มามื้อนี้มาน็อกเบิดอีก ปีที่2แล้วกับปลาน็อกนิ พี่น้องเอ่ยไผอยากได้ปลาไปเอ็ดปลาแดกมาช่วยซื้อแน่เด้อจ้า #ตายใหม่ๆ โลละ 20 บาทกะมาช่วยกันแน่เด้อจ้า #ฝากแชร์ช่วยกันแน่เด้อพี่น้อง” โดยพิกัดดังกล่าวอยู่บ้านหาดกวน ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ติดกับแม่น้ำสงคราม ซึ่งเป็นลำน้ำสาขาของแม่น้ำโขง

ทั้งนี้ คาดว่าเกิดจากกรณีพายุดีเปรสชั่นบริเวณเกาะไหหลำ ประเทศจีน ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “โคะงุมะ” (koguma) ได้เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งประเทศเวียดนาม ส่งผลให้ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศลาวตอนบน จึงเกิดฝนตกหนักในพื้นที่อีสานตอนบน รวมทั้งจังหวัดนครพนม โดยมีฝนตกสะสมตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน ทำให้ปลานิลของเกษตรกรผู้เลี้ยงในกระชัง ขาดออกซิเจนอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศแปรปรวน เช่น มีอากาศร้อนมาก หรือช่วงหลังฝนตกบ่อยๆ ติดต่อกันหลายวัน จึงส่งผลของค่าออกซิเจนในน้ำต่ำ เกิดอาการน็อกน้ำจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ปลาตาย คราวละมากๆ ในเวลาที่รวดเร็ว ดังนั้น เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชัง จึงตักปลาที่ตายขึ้นมาขายในราคาที่ต่ำกว่าต้นทุน คือกิโลกรัมละ 20 บาท ส่วนใหญ่มีผู้มาซื้อเพื่อนำไปทำปลาร้า ถึงกระนั้นปลาที่ตายก็ยังเหลืออยู่อีกจำนวนมาก ซึ่งพบว่ามีปลาน็อกน้ำไม่น้อยกว่า 1 พันกิโลกรัม

ก่อนหน้านี้ เกษตรกรผู้เลี้ยงปลานิลในพื้นที่จังหวัดนครพนม เพิ่งประสบภาวะขาดทุนจากราคาปลาในท้องตลาดตกต่ำ ทางจังหวัดฯจึงยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ด้วยการเปิดตลาดนัดปลาชั่วคราวบริเวณฟุตปาธถนนอภิบาลบัญชา เขตเทศบาลเมืองนครพนม หน้าศาลากลางจังหวัด ในราคากิโลกรัมละ 50 บาท นอกจากนี้ ก็ยังนำไปจำหน่ายต่างอำเภอ เพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน ปรากฏว่าเหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด เจอพายุพัดกระหน่ำจนปลาน็อกน้ำตายเป็นเบือดังกล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image