เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ว่า ขณะนี้สามารถจำกัดกลุ่มเสี่ยงได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งกลุ่มเสี่ยงที่น่าเป็นห่วงตลอดช่วงที่ผ่านมาประกอบด้วยกลุ่มแคมป์คนงาน พนักงานโรงงาน และกลุ่มผู้ต้องขังในเรือนจำ ทั้งนี้ ได้มีการไปตรวจสอบในพื้นที่เรือนจำอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูทั้งมาตรการสำหรับผู้ต้องขังและมาตรการสำหรับเจ้าหน้าที่ที่เข้าออกเรือนจำอยู่เป็นประจำ รวมทั้งการตั้งศูนย์ควบคุม หรือกักตัวผู้ต้องขังรายใหม่ เพื่อคัดกรอง ตรวจหาเชื้อ ก่อนส่งเข้าสู่เรือนจำหลักทุกพื้นที่ทั้ง 6 เรือนจำ ได้มีการตรวจหาเชื้อครบแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งไม่พบเชื้อแต่อย่างใด
นายกอบชัยกล่าวว่า ขณะเดียวกันยังมีพื้นที่ที่น่าเป็นห่วงคือชุมชนต่างๆ เพราะเป็นพื้นที่ที่มีประชาชนอยู่เป็นจำนวนมาก ตนได้เน้นย้ำไปทางเทศบาล อบต. หรือท้องถิ่นใหญ่ๆ ให้รณรงค์เรื่องการรักษาระยะห่างอย่างเต็มที่ หากสามารถควบคุมกลุ่มเสี่ยงหรือพื้นที่เสี่ยงเหล่านี้ได้ นครราชสีมาก็พร้อมจะเปิดสถานที่ต่างๆ ธุรกิจต่างๆ ได้ รวมทั้งการท่องเที่ยวก็พร้อมจะเปิดรับนักท่องเที่ยวทันทีหากสถานการณ์เป็นที่น่าพอใจ
นายกอบชัยกล่าวอีกว่า ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเริ่มมีมาตรการผ่อนคลายบางอย่างแล้ว ภายใต้มาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เช่น เปิดให้มีการจัดกิจกรรมหมู่ได้ไม่เกิน 100 คน ไม่ว่าจะเป็นการประชุม สัมมนา งานพิธีต่างๆ รวมถึงการท่องเที่ยว โดยผู้จัดงานต้องมากับเจ้าของสถานที่เพื่อเสนอแผนป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ให้กับคณะกรรมโรคติดต่อระดับจังหวัดหรือระดับอำเภอ อีกทั้งตลอดการจัดงานจะมีเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขเข้าไปตรวจสอบ หากพบว่ามีความเสี่ยงจะสั่งให้มีการหยุดกิจกรรม/กิจการเหล่านั้นทันที ส่วนภาคสถานบันเทิง ขณะนี้ยังไม่มีแนวทางในการผ่อนคลาย ขอให้อดทนอีกนิด หากชาวโคราชร่วมกันทำให้พื้นที่ปลอดภัย ปลอดเชื้อ ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเข้มแข็งก็จะสามารถปลดล็อกทุกกิจการได้
นอกจากนี้ นายกอบชัยยังกล่าวถึงการจัดหาวัคซีนทางเลือกให้กับประชาชนชาวนครราชสีมาว่า เรื่องวัคซีนหลักและวัคซีนทางเลือกรัฐบาลได้ดำเนินการจัดหาอย่างเต็มที่ ซึ่งการฉีดวัคซีนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เป็นไปได้ด้วยดี ยังไม่มีวันไหนหยุดชะงัก ส่วนวัคซีนทางเลือกได้รับความร่วมมือจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งได้สั่งจองกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จำนวน 100,000 โดส ทั้งนี้ ตามแผนงานของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ คาดว่าหลังวันที่ 20 มิ.ย.เป็นต้นไป จะรู้ผลว่าจะได้รับวัคซีนเท่าไรและช่วงเวลาใด ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ที่สั่งจองด้วย
“เบื้องต้นรอบแรกการสั่งวัคซีนเข้ามาของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ มีประมาณ 1,000,000 โดส ซึ่งปริมาณการสั่งจองจากทุกจังหวัดน่าจะมีมากกว่า จึงต้องอยู่ที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จะมีกำหนดการแจกจ่ายยังไง อย่างไรก็ตาม ในส่วนจังหวัดหากได้วัคซีนทางเลือกมาตามจำนวนที่สั่งจองไปจะมีการแจกจ่าย ฉีดให้กับประชาชนอย่างเป็นธรรม” นายกอบชัยกล่าว
ด้านนายหัสดิน สุวัฒนะพงศ์เชฏ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ในส่วนของภาคเอกชน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยได้มีการทำเรื่องสั่งจองวัคซีนทางเลือกคือวัคซีนซิโนฟาร์มไปที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์แล้ว ในล็อตแรกจำนวน 300,000 โดส โดยจะกระจายไปให้สภาอุตสาหกรรมจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งทางสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมาก็ได้สั่งจองไปประมาณ 49,000 โดส โดยโอนเงินไปจองแล้วจำนวนกว่า 40 ล้านบาท เพื่อจะนำวัคซีนมากระจายฉีดให้กับพนักงนในโรงงานต่างๆ ในพื้นที่ที่สั่งจองเข้ามา คาดว่าจะทราบผลจำนวนวัคซีนที่ได้รับการจัดสรรมาในวันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน
