ตร.เผย z4 บึ่งรถฝ่าฝน 133 กม.ต่อชม. ชี้ไม่ตั้งข้อกล่าวหาสาว 18 เชียร์ให้ซิ่ง เหตุคนละส่วน

ตร.เผย z4 บึ่งรถฝ่าฝน 133 กม.ต่อชม. ชี้ไม่ตั้งข้อกล่าวหาสาว 18 เชียร์ให้ซิ่ง เหตุคนละส่วน

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ (ผบก.ภ.จ.เพชรบูรณ์) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีรถเก๋งสปอร์ต BMW Z4 ซิ่งฝ่าสายฝนปีนเกาะกลางถนนพุ่งชนรถเก๋งซูซูกิสวิฟต์ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และผู้บาดเจ็บ 1 รายว่า ในทางคดีค่อนข้างมั่นใจไม่ได้มีอะไรซับซ้อน โดยเฉพาะหากดูจากประจักษ์พยาน ทั้งภาพวิดีโอและพยานบุคคล ค่อนข้างชี้ชัดว่าฝ่ายประมาทคือฝ่ายรถเก๋งสปอร์ต BMW Z4 ซึ่งพุ่งข้ามเลนไปชนรถเก๋งสวิฟต์ และเป็นการขับรถเร็วและไม่ชะลอความเร็วขณะฝนตก

โดยภาพที่ปรากฏค่อนข้างเด่นชัดก็คือ ภาพวิดีโอวงจรปิดจากส่วนราชการและภาพจากคลิปที่พยานที่มอบให้มา ขณะเดียวกันยังมีพยานที่เห็นรถเก๋งสปอร์ต Z4 วิ่งด้วยความเร็ว และยังเห็นรถเสียหลักข้ามเกาะกลางเก๋งสวิฟต์ แต่ทั้งนี้อุบัติเหตุไม่มีใครอยากให้เกิด จึงขอแสดงความเสียใจกับทุกฝ่ายที่เกิดความสูญเสีย

พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์กล่าวว่า สำหรับการเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตนั้น ทาง คปภ.เพชรบูรณ์ ได้ยื่นไปช่วยดูแลญาติของผู้เสียชีวิตฝ่ายรถเก๋งซูซูกิสวิฟต์ โดยตนได้มอบหมายให้รอง ผบก.ภ.จ.เพชรบูรณ์ไปช่วยประสาน เบื้องต้นทราบว่าตาม พ.ร.บ.ประกันภัยภาคบังคับ ผู้เสียหายรถเก๋งสวิฟต์ จะได้รับเงินทดแทนบริษัทอาคเนย์ประกันภัยรายละ 500,000 บาท และประกันภัยสมัครใจประเภท 1 ของบริษัทคุ้มภัยโตเกียวมารีนจะให้ 200,000 บาท ส่วนฝ่ายรถเก๋ง BMW Z4 จะเยียวยาอย่างไรนั้นก็คงว่ากันอีกครั้ง ส่วนผู้บาดเจ็บขณะนี้ยังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ก็ยังไม่สะดวกที่จะให้ปากคำแก่พนักงานสอบสวน

Advertisement

“ส่วนกรณีที่ตำรวจมีหลักฐานรถเก๋งสปอร์ต Z4 วิ่งฝ่ายสายฝนความเร็ว 133 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนั้น ก็เป็นส่วนประกอบหนึ่ง ที่ก่อนเกิดเหตุมีกล้องของทางหลวงตัวหนึ่งที่จับความเร็วได้ 133 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่อีกหลายตัวที่จับความเร็วได้ ตอนนี้รวบรวมส่งไปยังกองพิสูจน์หลักฐานที่ กทม. เพื่อให้ยืนยันความเร็วอีกครั้ง” พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์กล่าว

ผบก.จ.เพชรบูรณ์กล่าวอีกว่า คดีนี้ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนถือเป็นคดีรถชนปกติ หากเป็นถนนสองเลนและไม่มีเกาะกลางถนนก็จะต้องไปที่พิจารณากันโดยละเอียดว่า สาหตุเกิดจากอะไรใครผิดใครถูก แต่เหตุการณ์นี้รถเก๋งซูซูกิสวิฟต์ขับมาดีๆ แต่ถูกเก๋งสปอร์ต BMW Z4 พุ่งข้ามไปชนแบบนี้ ก็ค่อนข้างชัดเจนอยู่แล้วว่า รถเก๋งสวิฟต์ไม่ได้มีส่วนผิดอยู่แล้ว สำหรับคดีนี้ผู้ขับขี่ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาเสียชีวิตนั้น ในการดำเนินคดีอาญานั้นเมื่อผู้ต้องหาเสียชีวิต สิทธิในการนำผู้ต้องหาไปฟ้องย่อมถูกระงับไป ส่วนทางแพ่งผู้เสียหายยังสามารถดำเนินการได้อยู่

พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ยังตอบข้อถามถึงกรณีสาวผู้บาดเจ็บนั่งเก๋งสปอร์ต Z4 และส่งเสียงเสียงเชียร์ให้ขับจะถูกตั้งข้อหาหรือไม่ว่า ในอารมณ์ขณะนั้นน้องผู้หญิงรายนี้อาจมีความสุขจนพูดออกไปเช่นนั้น แต่ในข้อเท็จจริงจุดที่เกิดที่ ต.นาเฉลียง กับจุดที่น้องผู้หญิงบอกให้ซิ่งเลยซิ่งเลย อยู่ที่เขาค้อห่างกันราว 70 กิโลเมตร เป็นคนละส่วนกัน จึงไม่มีผลที่ว่าไปสนับสนุนให้ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย จึงไม่มีการตั้งกล่าวหากับน้องผู้หญิงรายนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image