งานศพตาวัย 85 เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีน 2 วัน เงียบเหงา ไร้หน่วยงานเยียวยา

งานศพตาวัย 85 เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีน 2 วัน เงียบเหงา ไร้หน่วยงานเยียวยา สสจ.ยันกำลังลงพื้นที่

ความคืบหน้ากรณี นายนึก ขันศรี อายุ 85 ปี ชาวชุมชนหนองแก้ช้าง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ไปฉีดวัคซีนซิโนแวค ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซานครราชสีมา ซึ่งเป็นจุดฉีดวัคซีนของโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน หลังจากนั้นช่วงค่ำของคืนวันที่ 15 มิ.ย. ได้มีอาการหายใจติดขัดและเหงื่อออกเต็มตัว ก่อนที่ลูกสาวจะเรียกรถกู้ภัยให้นำไปส่งโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และเสียชีวิตในเวลา 01.22 น.วันที่ 16 มิ.ย. ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด วันที่ 17 มิถุนายน ที่ศาลาบำเพ็ญกุศล 4 วัดหนองจะบก ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งญาติได้นำศพนายนึกมาตั้งบำเพ็ญกุศลตามประเพณี บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดยมี นางสมบุญ ขันศรี อายุ 84 ปี ที่เป็นภรรยา และลูกๆ อีก 3 คน อยู่เฝ้าต้อนรับแขกที่มางานบำเพ็ญกุศลศพ

นางผกากอง ภูการณ์ อายุ 57 ปี ลูกสาวนายสมนึก ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตั้งแต่พ่อเสียชีวิต และได้นำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดหนองจะบก เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.นั้น ก็ยังไม่มีหน่วยงานระดับจังหวัดใดเข้ามาสอบถามหรือช่วยเหลือเยียวยาแต่อย่างใด ทั้งที่วัดหนองจะบกก็อยู่ในเขตใจกลางเมืองโคราช ตอนนี้มีเพียงเพื่อนบ้านและผู้นำชุมชนเท่านั้นที่มาร่วมงาน

ซึ่งตอนแรกตนไม่ได้คาดหวังหน่วยงานภาครัฐ แต่เมื่อมาคิดดูภายหลังก็รู้สึกว่าถ้าเกิดกับครอบครัวอื่นแล้วไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาสอบถามข้อเท็จจริง มาแนะนำให้คำปรึกษา เพื่อช่วยเหลือเยียวยาใดๆ เลย คงจะเป็นเรื่องที่ไม่เป็นธรรม เพราะชาวบ้านจะไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง

Advertisement

ทั้งนี้ ก่อนที่พ่อจะไปฉีดวัคซีนก็แข็งแรงดี แต่หลังฉีดผ่านไปแค่ 2 วันก็เสียชีวิต โดยแพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตในใบมรณบัตรว่า “ระบบไหลเวียนโลหิตและการหายใจล้มเหลว” ซึ่งก็ทำให้ตนและหลายๆ คนสงสัยว่าเป็นผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนหรือไม่ จนถึงขณะนี้ก็ไม่มีใครมาสอบถามหรือให้คำตอบที่ชัดเจน

ตอนนี้มีคนแนะนำว่าให้โทร 1330 เพื่อปรึกษากับ สปสช. ซึ่งก็เป็นคำแนะนำจากเพื่อนบ้าน ไม่ใช่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเลย

ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังนายแพทย์นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ได้รับคำตอบว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างส่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขลงพื้นที่ไปสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว ยืนยันว่าหน่วยงานสาธารณสุขไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่ต้องขอเวลาในการตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงก่อน

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image