เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ กลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ หมวดขนส่ง รถเช่า บริการ กว่า 50 คัน นำโดยนายอภิลาภ บุญโสภา อุปนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะประธานชมรมอินเตอร์ไกด์ ได้ยื่นหนังสือกับนางศิริพร รือเรือง ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด สำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ ผ่านไปยังนายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอความอนุเคราะห์ช่วยประสานบริษัทไฟแนนซ์ และสถาบันการเงินเพื่อพักหนี้ โดยมีนายวสันต์ เดชะกัน รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมผู้ประกอบการรถเช่าและบริการกว่า 100 คน โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง
ทั้งนี้ หนังสือที่ยื่นผ่านจังหวัด ระบุให้สถาบันการเงิน และบริษัทไฟแนนซ์พักชำระหนี้ผู้ประกอบการรถเช่า 6 เดือน หลังครบระยะเวลา ให้ผ่อนจ่ายดอกเบี้ย 1 ปี หลังครบ 1 ปี ให้ปรับโครงสร้างหนี้ พร้อมหาแหล่งเงินทุนหมุนเวียน เพื่อประคองธุรกิจให้พ้นวิกฤตโควิด-19 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน เนื่องจากผู้ประกอบการไม่มีรายได้จากท่องเที่ยว หากฉีดวัคซีนได้ครบ 100% และเปิดท่องเที่ยวเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว สามารถชำระหนี้สถาบันการเงิน หรือไฟแนนซ์ได้เร็วขึ้น
นายอภิลาภกล่าวว่า ผู้ประกอบการรถเช่าได้รับผลกระทบจากโควิดมาปีกว่าแล้ว โดยเฉพาะรอบที่ 3 ไม่มีนักท่องเที่ยวและรายได้เป็น 0 ซึ่งรัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือเยียวยาภาคท่องเที่ยว ในรอบแรกมีผู้ประกอบการรถเช่าได้รับการช่วยเหลือเพียง 20% ของผู้ได้รับผลกระทบกว่า 1,000 ราย ยังเหลืออีก 80 % ที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือดังกล่าว ซึ่งผู้ประกอบการต้องการพักชำระหนี้ 6-12 เดือน เพราะยังมีหนี้คงชำระกว่า 300-400 ล้านบาท ดังนั้น อยากให้รัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาอย่างเร่งด่วน หากล่าช้าอาจทำให้ผู้ประกอบ
การปิดกิจการ ส่งผลกระทบต่อพนักงานขับรถและมัคคุเทศก์นำเที่ยวกว่า 2,000 รายด้วย
นายวสันต์กล่าวต่อว่า สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัด ร่วมกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัด และภาคท่องเที่ยว ได้ประสานช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการรถเช่าของเชียงใหม่ เพื่อประคองธุรกิจดังกล่าวให้อยู่รอด ดังนั้น เรียกร้องสถาบันการเงิน หรือไฟแนนซ์ อย่ายึดรถตู้จากผู้ประกอบการ โดยอ้างไม่ฟ้องดำเนินคดี แต่ยังฟ้องดำเนินคดีและนำรถตู้ดังกล่าวไปขายทอดตลาดในราคาถูก ทำให้ผู้ประกอบการต้องรับผิดชอบส่วนต่างหนี้คงค้างที่เหลืออยู่ ทำให้ได้รับความเดือดร้อนมากขึ้น
“ล่าสุด มีผู้ประกอบการรถเช่าที่ได้รับความเดือดร้อนกว่า 100 ราย บางรายที่ถูกยึดรถตู้ ต้องหันไปประกอบอาชีพอื่นแทน อาทิ รับจ้าง ก่อสร้าง และขายแรงงาน มีรายได้วันละ 300 บาทเท่านั้น บางรายที่ยังมีทุนเหลืออยู่บ้าง หันไปทำร้านขายส้มตำ กาแฟ หรือร้านของชำแทน เพื่อเลี้ยงครอบครัว ขณะที่ยังต้องผ่อนชำระค่ารถกับไฟแนนซ์เดือนละ 7,000-10,000 บาท ดังนั้น ขอให้สำนักงานอัยการจังหวัด เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ภาคเหนือ จัดตั้งกองทุนช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประกอบการรถเช่าด้วย” นายวสันต์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้นกลุ่มดังกล่าวได้รวมตัวกันที่สวนหลวง ร. 9 ก่อนเคลื่อนขบวนรถตู้ไปยังศาลากลางจังหวัด ที่อยู่ห่างออกไป 3 กิโลเมตร เพื่อชุมนุมและยื่นหนังสือดังกล่าว จากนั้นได้เคลื่อนขบวนไปยังธนาคารทิสโก้ สาขาเชียงใหม่ เพื่อยื่นหนังสือขอผ่อนผันชำระหนี้อีกทางหนึ่ง ซึ่งผู้ประกอบการรถเช่าบางราย ได้ยกมือไหว้ เพื่อวิงวอนไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ช่วยเหลือและเยียวยา เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนผู้ประกอบการรถเช่าต่อไป
