ชาวเลราไวย์ทำพิธีสาปแช่งนายทุน-คนคิดร้าย ปมพิพาทที่ดิน-ปิดกั้นทางสาธารณะ (คลิป)

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 6 กุมภาพันธ์ บริเวณโต๊ะบาลัย ซึ่งเป็นสถานที่ในการประกอบพิธีกรรมกลุ่มชาวไทยใหม่ราไวย์ พร้อมด้วยพี่น้องเครือข่าย ภาคีสนับสนุนและพี่น้องชนเผ่าจากชุมชนใน จ.ภูเก็ต พังงา และกระบี่จำนวนมาก ร่วมประกอบพิธีซาโวย สุปะ อาโบย โดยโต๊ะหมอหรือผู้นำความเชื่อทางจิตวิญญาณได้นำเครื่องเซ่นไหว้ อาทิ ไก่ต้ม ข้าวเหนียว น้ำ เป็นต้น มาใช้ประกอบพิธีขอพรและเป็นขวัญกำลังใจให้กับพี่น้องชาวไทยใหม่ราไวย์ และขอให้ผู้ที่คิดร้ายเลิกคิดร้ายต่อชาวไทยใหม่ รวมทั้งยังได้มีการเผาพริกเผาเกลือสาปแช่งศัตรูผู้ที่มาคิดร้ายหรือผู้ไม่หวังดีกับชาวไทยใหม่ให้ได้รับความเดือดร้อน นอกจากนี้ยังได้มีการนำเอาดินจากป่าช้ามาโปรยบริเวณที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานที่ประกอบพิธีกรรมและใกล้เคียง เพื่อเป็นการบอกให้รู้ว่าบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าช้าตามความเชื่อที่มีมาอย่างยาวนาน

201602061437353-20150427133841

การทำพิธีครั้งนี้ สืบเนื่องจากกรณีข้อพิพาทระหว่างบริษัท บารอน เวิลด์ เทรด จำกัด และชาวไทยใหม่ (ชาวเล) ราไวย์ หมู่ 2 อ.เมือง จ.ภูเก็ต เรื่องการปิดกั้นทางเดินสาธารณะไปยังสถานที่ประกอบพิธีกรรมโต๊ะบาลัย ตลอดจนพื้นที่ซ่อมแซมเรือและอุปกรณ์การทำประมง จนมีเหตุปะทะกันเมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา ทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายรายและนำไปสู่การประชุมแก้ปัญหาของ จ.ภูเก็ต แต่ยังไม่ได้ข้อยุติ เพราะทั้งสองฝ่ายต่างยังไม่รับข้อเสนอในบางข้อ จนมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเอกสารสิทธิที่ดินของบริษัทบารอนฯ ซึ่งมีหลักฐานเป็นโฉนดที่ดินเลขที่ 12592 และ 2616 ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย โดยอยู่ระหว่างการดำเนินการ

Advertisement

201602061437355-20150427133841

นายจรูญ กอบโกย โต๊ะหมอประจำหมู่บ้านชาวไทยใหม่ราไวย์ กล่าวว่า เนื่องจากชาวบ้านมีความไม่สบายใจ และมองว่าที่ดินบริเวณที่เคยใช้ประกอบพิธีกรรมและอาชีพมีความไม่ปกติ จึงบอกให้โต๊ะหมอทราบ และให้ช่วยเหลือเพื่อให้ได้ที่ดินที่เคยใช้มาตั้งแต่อดีตกลับคืนมา และสาปแช่งให้ผู้ที่จะเอาที่ดินดังกล่าวอยู่ไม่เป็นสุขยิ่งกว่าพวกเราชาวเล เพราะขนาดใช้วิธีทางกฎหมายก็ไม่สำเร็จ จึงจำเป็นต้องใช้วิธีนี้

ขณะที่นายหงีม ดำรงเกษตร อายุ 71 ปี ประธานในการประกอบพิธีกรรมของชุมชนชาวไทยใหม่ราไวย์   ระบุว่า พิธีเผาพริกเผาเกลือของชาวเลนั้นมีมาตั้งแต่โบราณนานนับ100 ปีแล้ว เป็นความเชื่อทางจิตใจ จะกระทำเฉพาะช่วงที่มีเหตุการณ์ร้ายแรงที่ถูกกระทำถึงขั้นเสียน้ำตา เลือดตกยางออก ถึงจุดที่หาทางออกไม่ได้แล้วจึงจะประกอบพิธีกรรมนี้ขึ้น ซึ่งเมื่อหลายปีก่อนเคยทำพิธีนี้ขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง เนื่องจากมีปัญหาเรื่องข้อพิพาทที่ดินกับนายทุนเจ้าของที่ดินเช่นกัน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image