ยาย 4 พี่น้อง เริ่มสบายใจขึ้น หลังศาลให้อยู่ต่ออีก 30 วัน ลูกเผย เตรียมมองหาที่อยู่ใหม่

ยาย 4 พี่น้อง เริ่มสบายใจขึ้น หลังศาลให้อยู่ต่ออีก 30 วัน ลูกเผย เตรียมมองหาที่อยู่ใหม่

เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ที่บ้านของยาย 4 พี่น้อง คือนางโปรย อนุเคราะห์ อายุ 94 ปี น.ส.ศรีนวล ทิมแย้ม อายุ 82 ปี น.ส.แฉล้ม ทิมแย้ม อายุ 80 ปี และนางตะล่อม ทิมแย้ม อายุ 77 ปี บรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา มี ลูกๆ หลานและญาติๆ มานั่งเล่นพูดคุยด้วย

นางตะล่อม น้องสาวคนสุดท้อง ของ 4 ยาย เล่าว่า หลังจากที่เมื่อวานตนและนายลวง อนุเคราะห์ อายุ 54 ปี และนายสมศักดิ์ โตจริง อายุ 49 ปี ได้เดินทางไปศาลจังหวัดสุโขทัยและได้รับเมตตาให้อยู่ที่บ้านต่อได้อีก 30 วัน ทำให้พี่น้องทุกคนต่างดีใจจนทุกคนเริ่มกินได้ นอนหลับบ้าง มีเพียง น.ส.ศรีนวล พี่สาวคนที่ 2 ที่ล้มป่วย มีอาการหน้ามืดเป็นลม และมีอาการเครียดจากการคิดมาก ที่ตัวเองและพี่น้องจำต้องย้ายออกจากบ้านหลังเดิมในเร็วๆ นี้ ทำให้กินไม่ได้ นอนน้อย และเศร้าเสียใจ ทำใจไม่ได้ แต่ก็ได้นางตะล่อม น้องสาวคนเล็กคอยดูแลเช็ดเนื้อเช็ดตัว ป้อนข้าวป้อนน้ำให้

ส่วน น.ส.แฉล้ม ซึ่งเป็นพี่สาวคนที่ 3 ของยายตะล่อม ก็จะมาคอยนั่งดูหายาให้กิน ซึ่งเป็นภาพแหล่งความสุขของพี่น้องที่ดูแลกันยามแก่เฒ่า ส่วนยายโปรย ซึ่งเป็นพี่สาวคนโต ก็นั่งเล่นอยู่ใต้ถุนบ้านที่ติดกันโดยมีนายลวง ลูกชาย คอยดูแล

Advertisement

ยายโปรยกล่าวว่า ตอนนี้เริ่มสบายใจบ้างแล้ว และเมื่อเช้าก็กินข้าวกับหัวหมูต้ม ด้านนายลวงเล่าว่า เมื่อคืนตนเองก็เข้านอนตั้งแต่ 3 ทุ่ม ซึ่งตอนนี้เริ่มทำใจได้บ้างแล้ว แต่ก็ยังหวังอยู่เล็กๆ ว่าเจ้าหนี้อาจจะยอมขายบ้านและที่ดินคืนให้ แต่ก็ได้มีการพูดคุยกันในครอบครัวว่าคงจะต้องหาลู่ทาง มองหาที่สำหรับมาปลูกบ้านใหม่ให้กับแม่และน้าๆ ได้มีที่อยู่อาศัยยามบั้นปลายชีวิต ขณะนี้ยอดบริจาคที่ประชาชนผู้ใจบุญมีเมตตาบริจาคเข้ามาอยู่ที่ 1,600,000 บาท

ด้านนายปรีชา สุทนต์ นายอำเภอศรีสำโรง เปิดเผยว่า สำหรับเรื่องของเงินที่ได้รับบริจาคมานั้น ในการเบิกจ่ายขณะนี้ยังไม่สามารถเบิกจ่ายได้ ความคาดหวังของสังคมในขณะนี้ก็คือ การซื้อขายบ้านและที่ดิน ระหว่างเจ้าของที่ดินที่ถูกต้องตามกฎหมายกับ 4 แม่เฒ่า จะสามารถประนีประนอมยอมซื้อขายกันได้หรือไม่ ในเรื่องนี้ตนคิดว่าก็น่าจะจบกันด้วยดี แต่ถ้าวงเงินที่จะซื้อคืนไม่พอหรือเจ้าของที่ดินไม่ขายก็เป็นสิทธิอันชอบธรรมของเจ้าของตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามคิดว่ายังมีช่องทางเล็กๆ ที่ให้ดำเนินการตามห้วงระยะเวลา 30 วันที่เหลือ ก็ต้องรีบดำเนินการ แต่ถ้ากระบวนการพูดคุยเจรจาประนีประนอมภายในระยะเวลา ซึ่งคาดว่าไม่เกินวันที่ 24-25 มิถุนายนนี้

หากไม่สำเสร็จ กระบวนการหาที่อยู่ให้ใหม่ก็จะเกิดขึ้น ในจำนวนเงินที่ได้รับบริจาคมา 1 ล้านเศษก็จะพอดำเนินการได้ ซึ่งเงินที่ได้รับบริจาคนี้ ทางอำเภอศรีสำโรงจะมีการดำเนินการทางกฎหมายตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไร ซึ่งตนก็จะมีการตั้งคณะกรรมการเข้ามาดูแลในการใช้จ่ายเงินจำนวนนี้ เนื่องจากว่าเงินก้อนนี้ไม่สามารถเบิกจ่ายเองได้ การใช้เงินต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค ไม่เช่นนั้นจะเป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งทางนายอำเภอได้สั่งการให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าไปกำกับดูแลแล้ว ขอให้ประชาชนผู้บริจาคสบายใจได้ โดยทางนายปรีชา นายอำเภอศรีสำโรง มีการตั้งคณะกรรมการเข้ามาดูแลจำนวน 5 ท่าน และการจะเบิกจ่ายเงินได้ต้องมีลายเซ็นของกรรมการจำนวน 3 ท่านเป็นอย่างน้อย ขอให้ทุกฝ่ายสบายใจได้

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image