จากกรณีคุณยาย 4 พี่น้อง คือนางโปรย อนุเคราะห์ อายุ 94 ปี น.ส.ศรีนวล ทิมแย้ม อายุ 82 ปี น.ส.แฉล้ม ทิมแย้ม อายุ 80 ปี และนางตะล่อม ทิมแย้มอายุ 77 ปี ยังคงอยู่ในอาการซึงเศร้า หลังจากเป็นที่แน่นอนแล้วว่าไม่อาจซื้อที่และบ้านเก่าของพวกตนคืนกลับมาจากเจ้าของใหม่ได้
โดยล่าสุดวันนี้ (28 มิถุนายน) นายลวง อนุเคราะห์ อายุ 54 ปี ลูกชายของนางโปรย พาผู้สื่อข่าวไปดูที่อยู่ใหม่ที่มองไว้ บริเวณ หมู่ 6 ต.ปากน้ำ อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย ซึ่งเป็นบ้านที่ขายทอดตลาดของธนาคารออมสิน สาขาศรีสำโรง เป็นบ้านขนาดใหญ่ 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ มีเนื้อที่ให้ยายทั้ง 4 ได้นั่งเล่นและทำกิจกรรมได้ บนที่ดินประมาณ 2 งาน 32 ตารางวา พร้อมเข้าอยู่อาศัยได้เลย ราคา 1.48 ล้านบาท
และอีกที่หนึ่งเป็นที่ดินเปล่า อยู่หลังวัดบ้านกรุ ใกล้ๆ กับบ้านหลังเดิม เนื้อที่ 2 งาน ราคาที่ดินประมาณ 3 แสนบาท หากซื้อที่ดินตรงนี้จะต้องสร้างบ้านใหม่เพิ่มอีก 2 หลัง ซึ่งยังไม่ได้ประเมินราคาการก่อสร้างบ้าน ซึ่งหากก่อสร้างบ้าน 2 หลัง น่าจะอยู่ที่ราคา 8 แสนบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ยายศรีนวลมีอาการดีขึ้น สามารถลุกมาเก็บดอกอัญชันได้ หลังจากหลายวันก่อนมีอาการหน้ามืดเป็นลมจากภาวะเครียด และทำใจไม่ได้ที่จะต้องสูญเสียบ้านของตนไป
ยายศรีนวลบอกว่า ไม่ได้เก็บดอกอัญชันมาหลายวันแล้ว ปล่อยให้มันรกร้าง ปกติจะมีคนมารับซื้อดอกอัญชันตากแห้งในราคากิโลกรัมละ 350 บาท เป็นอาชีพเสริมปลูกไว้ไม่กี่ต้น ปีหนึ่งได้เงินใช้จ่ายหลายพันบาทอยู่ ทั้งนี้ เรื่องย้ายออกจากบ้านหลังนี้ต้องทำใจ ไปไหนก็ไป เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว แต่ไม่อยากอยู่ใกล้ที่ตรงนี้แล้ว เพราะว่ามันตำตาตำใจ ถ้าได้ผ่านหรือได้เห็นก็จะเสียใจ
ยายตะล่อมกล่าวว่า ยังนอนไม่ค่อยหลับและคิดมากอยู่ ทำใจไม่ค่อยได้ แต่ถ้าจำเป็นก็จะต้องออกไป นายลวง หลานชาย ได้พาไปดูที่ใหม่แล้ว นายลวงไปอยู่ไหนตนก็ไปอยู่นั่นด้วย
ส่วนยายแฉล้มระบุว่า เริ่มทำใจได้แล้ว จะไปอยู่กับนายลวง หลานชาย แต่ถ้าให้มาหาบ้านใหม่ใกล้ๆ บ้านเก่า ก็จะรู้สึกว่าสะท้อนในใจตัวเอง สะเทือนใจ ยังเสียดายบ้านที่ตนเองและครอบครัวอยู่มาตั้ง 80 ปีแล้ว แต่พี่น้องไปอยู่ไหนก็ไปอยู่ด้วยกันไม่ทิ้งกัน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขณะที่ยายโปรย พี่สาวคนโต เปิดเผยว่า ยังทำใจไม่ได้ นอนไม่ค่อยหลับ ตื่นขึ้นมาที่ไรก็อดคิดไม่ได้ และหากจำเป็นต้องย้ายออกไป อยู่ไหนก็ได้สุดแท้แต่ลูกไป น้องๆ ไปก็ไปด้วยกัน หม้อข้าวอันเดียวกัน แต่ไม่อยากอยู่ใกล้บ้านหลังนี้อีกแล้ว เพราะไม่อยากเห็นบ้านที่เคยอยู่เคยลงแรงสร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนและสามี เพราะถ้าเห็นก็คอยแต่จะร้องไห้ ส่วนเรื่องการเก็บของ ตอนนี้เหลือแต่เครื่องนอนตู้เย็น ตู้กับข้าว สิ่งของจำเป็นอีกเล็กน้อย และรูปของตาเหลียง ซึ่งจะต้องนำออกไปด้วยในวันย้ายออกจากบ้านหลังนี้
ด้านนายลวงกล่าวว่า ทำใจยอมรับได้แล้ว และได้มองหาที่อยู่ใหม่ให้กับครอบครัว โดยมองไว้ 2 ที่คือบ้านพร้อมที่ดินที่หมู่ 6 ต.ปากน้ำ อ.สวรรคโลก และที่ดิน 2 งาน เพื่อสร้างบ้านใหม่ 2 หลัง อยู่ใกล้ๆ บ้านเดิมด้านหลังวัดบ้านกรุ ส่วนยอดเงินที่ประชาชนช่วยกันบริจาคเพื่อใช้ในการซื้อบ้านใหม่ให้กับยายทั้ง 4 คน ขณะนี้ยอดเงินอยู่ที่ 172,525 บาท ซึ่งการที่จะตัดสินใจว่าจะไปอยู่บ้านที่จะซื้อใหม่ หรือปลูกบ้านใหม่นั้น ก็จะมีคณะกรรมการ โดยมีนายปรีชา สุทนต์ นายอำเภอศรีสำโรง เข้ามากำกับดูแลการใช้เงินให้คุ้มค่าและตรงตามวัตถุประสงค์อีกครั้ง
