เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 2 กรกฎาคม 2564 นายอุเทน หาแก้ว รองนายแพทย์สาธารณสุข (สสจ.)อุดรธานี พญ.สุรีรัตน์ วัชรสุวรรณเสรี อายุรแพทย์ โรคติดเชื้อ รพ.ศูนย์อุดรธานี ร่วมแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 พื้นที่ จ.อุดรธานี มีการค้นพบผู้ติดเชื้อมากขึ้น ต่อเนื่องมาตั้งแต่นโยบาย ปิดแคมป์คนงานในกรุงเทพฯและปริมณฑล แต่อุดรธานียังควบคุมได้ โดยใช้มาตรการคัดกรองและกักกัน ผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง 22 จว. ตรวจหาเชื้อและกักกันตัว 14 วัน ทุกคนเว้นได้รับวัคซีนตามประกาศ
นายอุเทน หาแก้ว รอง สสจ.อุดรธานี เปิดเผยว่า อุดรธานีตรวจพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 23 ราย ทำให้มียอดสะสม 783 ราย รักษาหายกลับบ้าน 513 ราย รักษาตัวอยู่ 215 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย สะสม 10 ราย หลังมาตรการปิดแคมป์คนงาน อุดรฯได้ตรวจคักกรองผู้มาจากพื้นที่เสี่ยง 22 จว. ที่สนามบอน , สถานีรถไฟ , สถานีขนส่ง , ด่านบนถนนมิตรภาพ อ.โนนสะอาด , ด่านถนนอุดรฯ-หนองบัวลำภู อ.หนองวัวซอ และการค้นหาด้วย ผญบ.-อสม.ในส่วนที่ไม่ผ่านการคัดกรอง
“อุดรฯตรวจหาเชื้อเพื่อคัดกรองผู้เดินทางมา เชิงรุกกลุ่มเสี่ยง และผู้ป่วยทางเดินหายใจ ช่วงนี้มากถึงวันละ 2,400 ราย โดยการตรวจแบบ PCR พบผู้ติดเชื้อสูงถึง 4.31 % โดยในช่วง 1-2 ก.ค.นี้ ตรวจพบผู้ติดเชื้อมากถึง 58 ราย เป็นรายที่ติดเชื้อภายในกันเอง เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอยู่แล้ว 8 ราย และมาจากพื้นที่เสี่ยง 50 ราย แยกเป็น กทม. 39 ราย , ระยอง 3 ราย , ประจวบฯ 2 ราย , ปทุมธานี 1 ราย , สมุทรสาคร 1 ราย , ยังไม่ชัดเจน 2 ราย โดยมี 2 เคส เดินทางมาด้วยกันหลายคน ติดเชื้อกันทั้งรถคันละ 7 คน และตรวจพบที่กรุงเทพฯ ติดต่อขอมารักษาที่อุดร 2 ราย ถูกส่งเข้า รพ.ทั้งหมดตัดวงจรแพร่เชื้อทันที ทำให้มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงน้อยมาก ”
รอง สสจ.อุดรธานี กล่าวต่อว่า ผู้ตรวจไม่พบการติดเชื้อ จะเข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ (Local Quarantine) ที่มีอยู่ในทุกอำเภอ บางอำเภอมีระดับตำบล เพื่อให้ใกล้กับภูมิลำเนา ตั้งแต่เย็น 28 มิ.ย.-1 ก.ค.64 มียอดสะสม 671 ราย อยู่ที่ศูนย์โฮมฮักอุดรธานี มรภ.อุดรธานี 147 ราย ศูนย์ฯตำบล อ.เมือง 77 ราย ที่เหลือกระจายอยู่ทุกอำเภอ ประกอบด้วย อ.บ้านดุง 160 ราย , อ.บ้านผือ 57 ราย อ.วังสามหมอ 46 ราย และอำเภออื่น ๆ ต่ำสุด อ.ประจักษ์ศิลปาคม ยังไม่มีผู้กักตัว ทุกวันจะได้รับการตรวจติดตามดูแลสุขภาพ และตรวจหาเชื่ออีกครั้งเมื่อครบ 7 วัน
นายอุเทน หาแก้ว รอง สสจ.อุดรธานี ตอบคำถามยอมรับว่า ขณะนี้ผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยของอุดรฯ ส่วนใหญ่เป็นเชื้อสายพันธุ์ “เดลตา” ที่มีลักษณะติดง่าย อาการรุนแรง และลดประสิทธิภาพของวัคซีน ทำให้กำหนดไว้ในมาตรการ ผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง 22 จว. หากฉีดวัคซีนซิโนแวค , ซิโนฟาร์ม 2 เข็ม ผ่านมาแล้ว 4 สัปดาห์ และวัคซีนแอสตาเซเนกา , จอนสันจอนสัน 1 เข็ม ผ่านมาแล้ว 4 สัปดาห์ จะได้รับสิทธิเข้าอุดรธานีโดยไม่ต้องกักตัว
พญ.สุรีรัตน์ วัชรสุวรรณเสรี อายุรแพทย์ โรคติดเชื้อ รพ.ศูนย์อุดรธานี เปิดเผยว่า วันนี้มีผู้ป่วยรายที่ 511 เป็นชาย อายุ 42 ปี ราษฎร ต.บุ่งแก้ว อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี อาชีพช่างเย็บผ้าที่กรุงเทพฯ มีอาการไอ หายใจไม่สะดวก ไปตรวจเชื้อที่ รพ.กลาง กทม.ไม่พบเชื้อ ได้เดินทางกลับบ้าน 13 มิ.ย.64 ไปตรวจที่ รพ.โนนสะอาด พบเชื้อถูกส่งต่อมา รพ.กุมภวาปี 23 มิ.ย.64 ถูกส่งตัวมา รพ.อุดรธานี ผู้ป่วยไม่มีโรคประจำตัว แต่มีประวัติใช้ยาเสพติดหลายชนิด มีอาการปลอดติดเชื้อ 09.42 น. 2 ก.ค.64 เสียชีวิต
“ รพ.ศูนย์อุดรธานี รับผู้ป่วยไว้รักษา 88 ราย เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 9 ราย ต้องใช้ท่อช่วยหายใจ 2 ราย ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจแรงดันสูง 7 ราย นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยต้องให้ออกซิเจน 14 ราย ภาพรวมผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นวัยกลางคน เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงสูง ติดเชื้อโควิดมาพอสมควร และมีอาการปอดเริ่มติดเชื้อ โดยเชื้อจะมีความรุนแรง มากกว่าเชื้อในผู้ป่วยกลุ่มแรกๆ ทำให้ รพ.ศูนย์อุดรธานี จะเปิดตึกผู้ป่วยโควิดเพิ่ม และมีแผนจะใช้ รพ.สนามที่ หอพัก มรภ.อุดรธานี (สามพร้าว) ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ ”
