(6 ก.พ.59) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ นายวัชรินทร์ สุตลาวดี นายอำเภอเมือง นายธนวรรธน์ เลิศสุคนธ์ อุตสาหกรรม จ.อุดรธานี นายวิทยา สีหานาวี กำนัน ต.เชียงยืน และตัวแทนของโรงงานแป้งมัน บ.ไทนำมันสำปะหลัง จก. ลงพื้นที่ติดตามแก้ไขคันดินบ่อน้ำเสีย พังเสียหายน้ำเสียมากกว่า 70,000 ลบม.ไหลลงสู่ลำห้วยหินลาด และไหลต่อไปยังลำห้วยหลวง ทำให้ปลาบริเวณบ้านป่อง ต.เชียงยืน ลอยขึ้นมาตายตลอดลำห้วย และกำลังไหลไปจุดสูบน้ำผลิตประปาหลายแห่ง ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อสงกรานต์ปีก่อน
จากนั้นมีคำสั่งให้โรงงานแป้งมันไทยนำ ทำการปิดกั้นลำน้ำป้องกันน้ำเสีย 3 จุดๆแรกนำกระสอบทรายปิดกั้นลำห้วยหินลาด บริเวณสะพานลอดใต้คลองชลประทาน ซึ่งเป็นช่วงที่ห้วยแคบที่สุด ให้สูงขึ้นจากระดับน้ำปกติ 50 ซม. เพื่อป้องกันน้ำเสียไหลลงไปในลำห้วยหลวง โดยสภาพน้ำในลำห้วยหินลาดมีสภาพเขียวขุ่น มีกลิ่นเหม็นแต่ไม่รุนแรงมากนัก , จุดที่สองนำเครื่องจักรทำเขื่อนดิน ขวางลำน้ำห้วยหลวงช่วงผ่าน บ.อีหลุ่ง สูงกว่าระดับน้ำ 1.5 เมตร และจุดที่สามนำกระสอบทราย ไปเสริมสันฝาย “ฝายบ้านทุ่งแร่” สูงขึ้นอีก 1 กระสอบ
นายวิทยา เปิดเผยว่า น้ำเสียที่ไหลออกมาจากโรงงาน ส่วนใหญ่ยังคงตกค้างอยู่ในห้วยหินลาด โดยน้ำสีเขียวขุ่นขังอยู่ตามจุดต่างๆ ระยะทางประมาณ 3-4 กม. และน้ำยังไหลมาที่ห้วยหลวงอยู่ ขณะน้ำที่ไหลลงมาในห้วยหลวงแล้ว โดยไหลผ่าน บ.ป่อง ไปถึง บ.จำปา โชคดีที่ทั้ง 2 หมู่บ้านไม่ได้ใช้น้ำในลำห้วยหลวงผลิตประปา ขณะนี้กำลังจะไหลมาที่ บ.อีหลุ่ง ซึ่งใช้น้ำผลิตประปา และมีอีกหลายหมู่บ้านจากนี้ไปก็ใช้ จึงต้องหาทางป้องกันน้ำดีไว้ก่อน
นายธนวรรธน์ เลิศสุคนธ์ อุตสาหกรรม จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า หลังจากนายสมหวัง พ่วงบางโพ รอง ผวจ.อุดรธานี ลงดูข้อเท็จจริงเย็นวาน ได้มีคำสั่งรักษาน้ำดิบแหล่งประปา จากการสำรวจก็เห็นควรทำ 3 จุด โดยเฉพาะจุดแรกที่ห้วยหินลาด ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว ส่วนอีกสองจุดกำลังจัดทำ เพื่อเตรียมรับกับเหตุเหนือความคาดหมาย โดยทางโรงงานไทนำแป้งมัน จะเข้ามารับผิดชอบในเรื่องค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ยังสั่งให้สำรวจความแข็งแรงบ่อน้ำเสีย และให้รื้อถอนท่อน้ำเสียส่งให้เกษตรกรออก
“ยังมีคำสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสิ่งแวดล้อม ภาค 9 , ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมจังหวัด , ประมงจังหวัด , อำเภอเมือง อำเภอกุมจับ องค์กรปกครองท้องถิ่นเกี่ยวข้อง และอุตสาหกรรมจังหวัด ลงสำรวจพื้นที่รวบรวมข้อมูล เหตุการณ์ครั้งนี้อย่างละเอียด เพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ ชุดขับเคลื่อนแผนฟื้นฟูลำน้ำห้วยหลวง ในวันอังคารที่จะถึงนี้ เพื่อพิจารณาความผิดจากระเบียบ และกฎหมายของแต่ละหน่วยงาน ซึ่งอาจจะต่างกับเหตุเมื่อปีก่อน” นายธนวรรธน์