วันที่ 16 ก.ค.64 นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า จังหวัดกาญจนบุรี จะได้รับการจัดสรรวัคซีนเพิ่มเติมให้กับประชาชน ประกอบด้วย วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า จำนวนประมาณ 4,000 คน วัคซีนซิโนแวค จำนวนประมาณ 16,000 คน และจะมีวัคซีนชิโนฟาร์ม ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่สั่งซื้อจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โดยจะได้รับการจัดสรรเพื่อมาให้บริการประชาชนในพื้นที่อีกจำนวนประมาณ 5,850 คน
จังหวัดกาญจนบุรีจึงมีนโยบายเพื่อให้การเข้าถึงวัคซีนของประชาชนโดยเร็วที่สุดตามจำนวนวัคซีนที่ได้รับจัดสรรศูนย์บริหารและประสานการปฏิบัติเพื่อเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จังหวัดกาญจนบุรี ดังนี้
1.วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า จัดสรรให้กลุ่มผู้ที่ลงทะเบียนหมอพร้อม ได้แก่ ประชาชนที่มีอายุเกิน 60 ปี และมีโรคประจำตัว 7 โรค
2.วัคซีนชิโนฟาร์ม จัดสรรให้แก่ประชาชนที่ได้ลงทะเบียนไว้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่
3.วัคซีนซิโนแวค จะนำมาบริหารด้วยการให้ฉีดวัคซีนสลับชนิดกัน โดยให้ฉีดวัคซีนซิโนแวค เป็นเข็มที่ 1 ตามด้วยวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เป็นเข็มที่ 2 ซึ่งเป็นไปตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. อนุมัติ
โดยการฉีดวัคซีนตามแนวทางนี้จะเป็นไปตามความสมัครใจของประชาชนผู้รับบริการ ซึ่งทางจังหวัดจะจัดจุดบริการฉีดวัคซีนแบบ Walk-in ให้กับประชาชนที่สมัครใจจะรับวัคซีนในรูปแบบดังกล่าว ทั้งนี้จะมีการประกาศแจ้งวัน เวลา สถานที่ และรายละเอียดการให้บริการให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ ขอให้ทุกคนมั่นใจในประสิทธิภาพของวัคซีนที่รัฐบาลได้คัดเลือกและจัดสรรมาดูแลพี่น้องประชาชนทุกคนว่าจะสามารถป้องกันความรุนแรงจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ พร้อมทั้งขอให้ประชาชนทุกคนปฏิบัติตัวตามหลักมาตรการป้องกัน D-M-H-T-T-A ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ซึ่งผู้บริหารของจังหวัด ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายอำเภอ และหัวหน้าส่วนราชการ ก็ได้รับวัคซีนชนิดเดียวกับประชาชนที่ได้รับเช่นกัน
