ครอบครัวลิเก-ดนตรีไทย เปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว ใส่ชุดลิเกขาย พร้อมเล่นดนตรีไทย ให้ลูกค้าบันเทิง
เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ที่จังหวัด อุทัยธานี หลังเกิดการแพร่ระบาดอย่างหนักของเชื้อไวรัส โควิด19 ในระลอกนี้ ส่งผลให้มีการงดจัดงานต่างๆ โดยเฉพาะ งานบวช งารแต่ง จึงทำให้อีกหนึ่งอาชีพอย่าง วงดนตรีไทย และคณะลิเก บ้านหนองมะกอก ในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลหนองนางนวล อำเภอ หนองฉาง จังหวัด อุทัยธานี ต่างได้รับผลกระทบ ในครั้งนี้เป็นอย่างมาก เมื่อไม่มีการจัดงานก็ไม่มีการจ้างงานเกิดขึ้น ทำให้ขาดรายได้เลี้ยงครอบครัว ก่อนตัดสินใจพากันมาเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว อาหารตามสั่ง และน้ำปั่น ขายกันในหมู่บ้าน เพื่อให้พอมีรายได้เข้ามาในครอบครัวทดแทนอาชีพหลักที่ต้องหยุดไป พร้อมทั้งสร้างจุดขายเรียกลูกค้าให้เข้าร้านด้วยการ แต่งชุดลิเกขายของที่ร้าน ไปพร้อมกับการตั้งวงเล่นดนตรีตะโพน เพื่อสร้างความบันเทิง ให้กับลูกค้าที่มาทานอาหารที่ร้าน ซึ่งหลังทำแบบนี้ ก็มีลูกค้าในหมู่บ้าน และหมู่บ้านใกล้เคียง พากันมาอุดหนุน กันอย่างต่อเนื่อง ทำให้ที่ร้านมียอดขายดีขึ้นกว่าเดิม
โดย นายบันเทิง อยู่หนองฉาง เล่าว่า หลังโควิด-19 ระลอกนี้ระบาด ทั้งงานลิเก และงานดนตรีไทย ก็ไม่งานจ้างเข้ามาเลย ทำให้ครอบครัวขาดรายได้ จึงพากันมาเปิดร้านขายอาหารดังกล่าว กันที่หน้าบ้านในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลหนองนางนวล แต่ก็ยังไม่ทิ้งอาชีพเก่า นำเครื่องดนตรีไทยอย่างตะโพน และฉิ่ง มาเล่นเพลงให้ลูกค้าได้ฟัง ซ้อมเล่นกันไปเรื่อยๆ เพื่อเรียกลูกค้า สร้างความบันเทิง ให้ลูกค้าระหว่างทานก๋วยเตี๋ยว และเผื่อจะมีใครสนจ้างงานด้วย นายบันเทิงกล่าว
ด้านนางสาวมิ่งขวัญ อยู่หนองฉาง อายุ 16 ปี ลูกสาว นายบันเทิง ซึ่งเป็นทั้งคนขายก๋วยเตี๋ยว อาหารตามสั่ง และน้ำปั่น เล่าว่า ได้ร่วมกับครอบครัวเปิดร้านอาหารนี้มาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งตอนแรกก็ขายไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก แต่พอปรับเปลี่ยน วิธีการ ขายด้วยการใว่ชุดลิเก และมีการเล่นดนตรีไทย ที่ร้านก็มีชาวบ้านมาอุดหนุน กันเพิ่มมากขึ้น โดยก๋วยเตี๋ยวจะขายที่ราคาชามละ 20 บาท อาหารตามสั่งจานละ 30 บาท เมนูน้ำปั่น 20 บาท และเมนูน้ำที่ขายดีมากที่สุดในตอนนี้ก็จะเป็น เมนูน้ำกระชาย ซึ่งกระชายนั้นเป็นกระชายที่ปลูกเองที่บ้าน ทำให้สามารถ ขายได้ในราคาไม่แพง โดยน้ำกระชายต้ม ผสมน้ำผึ้งมะนาว จะขายขวดละ 12 บาท หากปั่นผสมน้ำแข็ง ก็จะอยู่ที่แก้วละ 20 บาท ซึ่งมีลูกค้ามาซื้อไปทานกันทุกวัน ทำให้เมนูน้ำกระชายขายดีมากในช่วงนี้ นางสาวมิ่งขวัญกล่าว
