ค่ายมวยดังปรับเปลี่ยนเป็นร้านกาแฟ จากนักมวยสู่นักเสริฟ์ สู้วิกฤตโควิด (มีคลิป)

ค่ายมวยดังปรับเปลี่ยนเป็นร้านกาแฟ จากนักมวยสู่นักเสริฟ์ สู้วิกฤตโควิด

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดความรุนแรงลง ส่งผลกระทบต่อทุกสาขาอาชีพ โดยเฉพาะวงการมวยที่กระทบอย่างหนักมาตั้งแต่การระบาดระลอกแรก ต่อเนื่องมาจนถึงการระบาดระลอกเมษายน คนในวงการมวย ตั้งแต่เจ้าของค่ายมวย เทรนเนอร์ ไปจนถึงนักมวย ลงลึกไปถึงครอบครัวคนมวย ได้รับผลกระทบเป็นลูกโซ่ เรียกได้ว่าแทบล้มทั้งกระดาน นักมวยส่วนใหญ่รายได้มาจากการต่อยมวยเพียงอย่างเดียว แต่ทุกอย่างหยุดชะงักอย่างไม่มีกำหนด ก็ทำให้ได้รับผลกระทบไปเต็ม ๆ

ค่ายมวยดาบรันสารคาม ตั้งอยู่ที่ถนนมหาสารคาม-กมลาไสย ช่วงบ้านลาดพัฒนา ต.ลาดพัฒนา อ.เมือง จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นอีกค่ายหนึ่งที่ได้รับผลกระทบ เพราะไม่มีรายการชก และยังต้องหาเลี้ยงนักมวยในค่ายอีกเกือบ 10 ชีวิต

Advertisement

ร.ต.อ.นิรันดร์ ยศพล เจ้าของค่ายมวยดาบรันสารคาม จึงลงทุนควักเงินเก็บ ปรับเปลี่ยนสังเวียนมวย มาเปิดร้านคาเฟ่เล็ก ๆ ชื่อร้าน Dabrun Sarakham Camp& Café โดยใช้พื้นที่หน้าค่าย เนรมิตร้านขึ้นมาแวดล้อมไปด้วยบรรยากาศร่มรื่น ลมพัดเย็น ๆ ตลอดทั้งวัน โดยทางร้านมีทั้งโซนห้องแอร์ และโซนกลางแจ้งรับลม ซึ่งดาบรันบอกว่า ร้านนี้สร้างขึ้นเพราะครอบครัว

ครอบครัวตนเป็นครอบครัวใหญ่ นอกจากจะดูแลลูก ๆ นักมวยในค่ายแล้ว ยังต้องดูแลไปถึงครอบครัวของนักมวยด้วย จึงมาคิดว่าจากสถานการณ์เป็นแบบนี้ต่อไป ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ จึงได้ตัดสินใจเปิดร้านกาแฟเล็ก ๆ ขึ้นมา แล้วก็พาคนในครอบครัว ซึ่งก็เป็นพ่อแม่นักมวย ญาติพี่น้องของนักมวย ที่มีฝีมือ มาเป็นพ่อครัว แม่ครัว ผู้ช่วยกุ๊ก ใครมีฝีมือทำอาหาร ก็ให้มาทำอาหาร ใครชงกาแฟได้ ก็มาชงกาแฟ อย่างตอนนี้เทรนเนอร์มวย ก็มาเป็นมือชงกาแฟ

ส่วนลูก ๆ นักมวย ใครที่สามารถรับออเดอร์ลูกค้าได้ ก็ให้มารับออเดอร์ หรือใครคุยไม่เก่ง ก็ให้มาเสริฟ์อาหาร เสริฟ์กาแฟให้กับลูกค้า ซึ่งลูก ๆ นักมวยทุกคน นอกจากจะมาเสิรฟ์แล้ว การเตรียมร่างกายให้พร้อมอยู่ตลอดเวลา ก็ต้องทำควบคู่กันไป ยังคงออกกำลังกาย ซ้อมมวยทุกวัน เพื่อเตรียมพร้อมร่างกายหากมีรายการทันที ซึ่งลูก ๆ นักมวยก็เข้าใจสถานการณ์ดี ไม่มีใครบ่น หรือไม่อยากมาช่วย เพราะทุกคนอยู่กันเป็นครอบครัว

Advertisement

สำหรับซิเนเจอร์ของที่นี่คือกาแฟดริป เป็นกาแฟที่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง มาในรูปแบบของหวดจิ๋ว ที่สั่งผลิตพิเศษโดยกลุ่มจักสาน อ.แกดำ จ.มหาสารคาม เสริฟ์ในรูปแบบกาแฟดริป พร้อมขนมปังสุดอร่อย ส่วนเมล็ดกาแฟ ใช้กาเฟอาราบิก้า มาจากโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ตามพระราชดำริบ้านหนองห้า จ.พะเยา ที่มี่ความหอมเป็นเอกลักษณ์ ส่วนอาหารก็จะเป็นอาการพื้นบ้านอีสาน เช่น ปลาจุ่ม ไก่นึ่งสมุนไพร หมูมะนาว

นอกจากนี้ ด้านหลังค่ายมวยยังปรับเปลี่ยนเป็นไร่สวนผสม ปลูกผักสวนครัว เลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ เพื่อนำมาเป็นวัตถุดิบปรุงอาหารแบบปลอดสารพิษด้วย โดยเปิดให้บริการเวลา 10.00 น.-21.00 น.

ด้าน นายธนวัฒน์ กองเพชร หรือ ชูเจริญ ดาบรันสารคาม เล่าว่า หลังจากไม่มีรายการชกมวย ตนเหมือนคนตกงาน เพราะรายได้หลักก็มาจากการชกมวยเพียงอย่างเดียว ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมาก เพราะไม่มีรายได้มาจุนเจือนครอบครัว ตลอดจนมีภาระค่าใช้จ่ายภายในครอบครัวรออยู่ พอไม่มีงาน ก็ต้องนำเงินเก็บออกมาใช้ ซึ่งค่าตัวของตนในการชกแต่ละไฟลท์ ค่าตัวอยู่ที่ 140,000 บาท เมื่อแบ่งกับค่ายแล้วก็ถือว่าพอเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ แต่เมื่อไม่มีรายชกในช่วงนี้ก็เท่ากับว่ารายได้เท่ากับศูนย์ ซึ่งหลังจากที่พ่อรัน เปิดร้านอาหาร ตนก็มาช่วยเสริฟ์ในทุก ๆ วัน เพราะแม่ของตนก็มาเป็นแม่ครัวหลักให้ที่นี่ อย่างที่พ่อรันบอกไว้ว่า ทุกคนคือครอบครัว ที่จะต้องต่อสู้ไปด้วยกัน ก็ขอเชิญชวนแฟนมวย ตลอดจนคนที่ผ่านไปมา แวะมาชิมกาแฟ มาทานอาหารพื้นบ้านอีสานอร่อย ๆ ที่ร้าน Dabrun Sarakham Camp & Café

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image