เจ้าของร้านอาหาร ขายรถหรู 2 คัน หวังนำเงินมาเลี้ยงลูกน้อง ประคองร้านสู้โควิด
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี ยังพบการระบาดอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อ จำนวนกว่า 1,856 ราย เสียชีวิตรวม 38 ราย จังหวัดสุพรรณบุรี ได้ประกาศคำสั่งมาตราการต่างๆ ออกมา ทั้งในส่วนของผู้ประกอบการ ห้างร้าน ต่างๆ ขอความร่วมมือ ให้ปฏิบัติตามมาตราการอย่างเคร่งครัด ด้านผู้ประกอบการร้านอาหารเอง ทุกร้านในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี ได้ให้ความร่วมมือ อย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดที่ร้านอาหารชื่อดัง ร้านปากช่อง เรสเทอรองต์ ตั้งอยู่ในพื้นที่อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ท่ามกลางสถานการณ์โควิด 19 ที่กำลังระบาด ทำให้บรรยากาศร้านเงียบเหงา ไม่มีลูกค้าเข้ามานั่งรับประทานในร้าน เจ้าของร้าน ได้นำผ้ามาคลุมเก้าอี้ พร้อมมีการติดป้ายขายรถยนต์หรูของตัวเอง บริเวณหน้าร้านอาหาร
ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามไปยังเจ้าของร้านอาหารดังกล่าว ซึ่งได้รับการเปิดเผยจาก คุณมนัสยา (ยุ้ย) ไหลสกุล เจ้าของร้านอาหารปากช่อง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ได้เปิดใจเล่าให้ฟังว่า แต่ก่อนร้านอาหารปากช่อง มีลูกค้าเข้ามานั่งทานในร้านอาหารทุกวัน ยอดขายดี ถึงขนาดต้องจองโต้ะกัน พอตั้งแต่โควิดระบาดระลอกแรก ระลอก 2-3 ตามมา จนถึงระลอกนี้ ทางร้านก็ได้ให้ความร่วมมือมาโดยตลอด
ทั้งการประกาศล็อกดาวน์ การไม่ให้นั่งทานในร้าน ไม่จำหน่ายแอลกฮอลล์ ซึ่งเราต่อสู้กันมาทุกระลอก ปรับกลยุทธ์กันมาทุกครั้ง ทั้งการปรับลดพนักงาน สั่งพักหยุดน้องๆที่เล่นดนตรีในร้าน เด็กเสิร์ฟ ปรับตัวใหม่ เป็น ขายแบบออนไลน์ ไลพ์สดขายอาหาร เพิ่มโปรโมชั่น ลดราคา หั่นราคา การบริการส่งแบบเดลิเวอรี่ ทุกระบบ
และทางร้านก็ทำโปรโมชั่นส่งเอง ล่าสุด ทำน้ำพริกขาย ขายอาหารจานเดียว สู้จนทุกทาง ก็ไม่ไหว เพราะยอดขายไม่ดีเลย พอขายได้บ้าง แต่ก็ไม่พอ เพราะการทำร้านอาหาร ต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะ ทั้งค่าพนักงานแม่ครัว เด็กในร้าน ซึ่งที่ร้านบางคนก็ทำงานกันมาเป็น 10 ปี เราจะทิ้งเค้าไว้ยังไง ในวันที่สถานการณ์เป็นแบบนี้ คือ ถามว่า ถ้าปิดกิจการไป ลูกน้องที่เหลือ เราก็ทิ้งเค้าไม่ลง ก็จับมือสู้กันต่อ
แต่พอมาถึงระลอกนี้ มันไม่ไหวแล้วจริงๆ แล้ว เพราะด้วยสถานการณ์เรื่องวัคซีน เรื่องการระบาด ที่ยังควบคุมไม่ได้ ทำให้พนักงานทุกคนเกิดความเสี่ยง ทุกคนอยู่ในภาวะกลัว ตื่นตระหนกกันไปหมด พอใครรู้สึกไม่สบายขึ้นมา ทุกคนก็จิตตกหมด กลัวว่าจะเอาเชื้อมาแพร่กันในร้าน บางคนต้องออกไปซื้อของ ส่งของ ก็เกิดความเสี่ยง เพราะหากใครคนใดคนหนึ่งเป็นขึ้นมา ทุกคนก็ต้องเสี่ยงกันหมด ดังนั้น เจ้าของร้านเอง ก็เครียดไปหมด เพราะตอนนี้ เตียงก็ไม่มีรักษา ที่ตรวจก็แพง อันละ 450 บาท
ทุกคนอยู่ในภาวะตื่นตระหนกกันหมด เราก็ให้กำลังใจกันทุกวัน แต่ลูกน้อง เค้าก็ต้องมีค่าใช้จ่าย ค่าเช่าห้อง ค่ากิน ค่าเลี้ยงดูครอบครัว ไม่ทำงานที่นี่ เค้าก็ไม่รู็จะไปทำงานที่ไหนตอนนี้ เราก็แบกรับภาระค่าใช้จ่ายมาหลายระลอก จนถึงระลอกนี้
ตนจึงตัดสินใจขายรถหรู ทั้ง 2 คัน ทั้งรถเบนซ์ และ รถ BMW ติดป้ายขายไว้หน้าร้าน คิดว่าเพื่อนำเงินมาประคองร้าน และ เลี้ยงดูลูกน้อง พนักงานในร้านไว้ก่อน แต่ตอนนี้ก็ยังขายรถไม่ได้ เลย เพราะด้วยสถานการณ์แบบนี้ ตนก็แก้ปัญหาไปทีละอย่าง เพราะหากยอดขายไม่ดี เราก็ต้องมีเงินสำรอง ในการจ่ายพนักงานในร้าน เพื่อช่วยกันประคับประคอง ร้านไปก่อน โดยเรื่องขายร้าน ปิดกิจการ คือ เอาไว้เป็นทางเลือกสุดท้าย ซึ่งตนไม่อยากให้ถึงจุดนั้น และไม่อยากทำเลย จึงเลือกตัดสินใจขายรถก่อน
คุณมนัสยา กล่าวต่อว่า ในฐานะผู้ประกอบการ ทำร้านอาหารมานับ 10 ปี ระลอกนี้ ถือว่าร้ายแรงที่สุดในชีวิต เราต่อสู้มาทุกระลอก ไม่มีรอบไหนเลย ที่เราไม่ต่อสู้ เราพยายามเต็มที่แล้ว เราบอบช้ำ และก็ลากกันมาถึงขีดสุด เรายังมองไม่เห็นทางออก ตอนแรกเราคิดว่าเดี๋ยวสถานการณ์น่าจะดีขึ้น ก็ให้กำลังใจกันเองมาโดยตลอด แต่ทำไปทำมา มันเหมือนกลับมาเริ่มต้นใหม่อีกแล้ว ยิ่งซ้ำร้ายตอนี้ทุกคนอยู่ในภาวะตื่นตระหนก คือ อยู่กับความกลัว กลัวไม่มีกิน กลัวติดเชื้อ กลัวไม่มีที่รักษา กลัวตาย ทำให้สภาพจิตใจย่ำแย่
จากที่ทำมหากินได้ ตอนนี้ก็คือไม่ได้ เราในฐานะผู้ประกอบการเอง ก็ต้องห่วงทุกคน ห่วงพนักงาน ห่วงลูกน้อง ที่สู้กันมาตลอด จำเป็นต้องหาทางรอด ตนไม่อายเลย หากต้องตัดสินใจขายรถเพื่อให้ร้านอยู่รอด เพื่อ ประคับประคองลูกน้องให้มีรายได้ไปก่อน สู้ไปให้สุด ในสถานการณ์นี้ หากใครสนใจก็สามารถติดต่อ ซื้อรถที่ตนได้ ที่เบอร์โทรศัพท์ 087-1715111 เจ้าของร้านปากช่องกล่าวทิ้งท้าย
