ผู้ว่าฯภูเก็ต ชี้แจงสาเหตุต้องออกคำสั่ง 3 ฉบับ ยกระดับเข้มขึ้น หวังรักษาภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์
เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ได้ออกคำสั่งจังหวัดภูเก็ต ลงนามเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2564 ขึ้นมา 3 คำสั่ง ประกอบด้วย 1. คำสั่งที่ 4202/2564 ยกระดับมาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019
2. คำสั่งที่ 4203/2564 สั่งปิดสถานที่หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยง 3.คำสั่งที่ 4204/2564 กำหนดมาตรการควบคุมการเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อต้องการ Save Phuket Save Sandbox และ Save Thailand
จังหวัดภูเก็ต เป็นเมือง สำคัญ ที่ขับเคลื่อน โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ที่ผ่านมาทำอย่างไรจะมีการควบคุมโรคโควิด ให้มีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจได้ด้วย ซึ่ง มาตรการที่ทำมามีหลายข้อ คือ 1.เคลียร์แอนด์คลีนภายใน 2. สกัดกั้นเชื้อโรคที่จะเข้ามาจากข้างนอก 3.สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ 4.การดูแลผู้ยากลำบากในช่วงวิกฤตโควิด 5.การสื่อสารทำความเข้าใจกับสังคม ซึ่ง ประเด็นการสื่อสารฯยังทำได้ไม่ดีนักยังมีการถามมาเยอะ จึงจำเป็นต้องชี้แจงในครั้งนี้
การเข้ามาของนักท่องเที่ยวภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ข้อมูล ตั้งแต่วันที่ 1-29 กรกฎาคม 2564 จำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามา 12,599คน คัดกรองพบติดเชื้อ 30 คน ใน 30 คนนี้ ทางกรมควบคุมโรคได้สรุปว่าติดมาจากข้างนอก หรือติดกันเอง ไม่ได้มาติดต่อกับภายในภูเก็ต
โดยมีคนเข้ามาเฉลี่ยวันละ 300-400คน มีเที่ยวบิน10เที่ยวบินและจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มี ยอดจองเข้าพัก โรงแรม SHA Plus ในเดือน กรกฎาคม-กันยายน 2564 จำนวน 298,858 ห้อง แยกเป็นเดือน กรกฎาคม 192,403ห้อง เดือนสิงหาคม 98,735 เดือนกันยายน 7,720 ห้อง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
จากการวิเคราะห์ไปได้ด้วยดี แม้ว่าสถานการณ์ของโลกและในประเทศจะมีภาพการแพร่ระบาดอยู่บ้าง โดยมีเที่ยวบินสนใจเข้ามาเพิ่มขึ้น คิดว่า 1 ตุลาคม นี้ถ้าสามารถสร้างความเชื่อมั่นได้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาซึ่งเป็นหน้าท่องเที่ยวปกติ
นายณรงค์ กล่าวต่อไปว่า สถานการณ์ช่วงนี้ในประเทศ มีผู้ติดเชื้อจำนวน 17,000กว่าราย มีแนวโน้มว่าระดับนี้ไปอีกสักพัก ขณะที่ ในจังหวัดภูเก็ต คาดว่าแนวโน้มทรงตัวอยู่ แม้สัปดาห์หลังจะขึ้นมาแต่ทำให้ทรงตัวได้ ดังนั้น ตั้งแต่ วันที่ 3-16 ส.ค. นี้จำเป็นต้องยกระดับมาตรการขึ้นมา จำกัดคนเข้าทุกช่องทาง ในแต่ละทาง
ในส่วนการบิน จะมีบินบางช่วง จากอู่ตะเภา-ภูเก็ต และ บินสมุย-ภูเก็ต บ้างแต่ไม่ทุกวัน ตอนนี้ เครื่องบินแทบหยุดบินในประเทศสอดรับกับมาตรการของประเทศ ในช่องทางบก ที่ด่านท่าฉัตรไชย เดิมเป็นด่านความมั่นคงจะให้เป็นด่านควบคุมโรคด้วย ได้หารือกับกรมควบคุมโรค ต้องการยกระดับด่านท่าฉัตรไชย ขึ้นมา จะนำเครื่องมือและเจ้าหน้าที่เข้า ไปประจำที่ด่านฯ ให้เกิดความมั่นใจในการคัดกรองคนเข้าจังหวัดชัดเจนยิ่งขึ้น สร้างความมั่นใจต่างๆมากขึ้น
ในเรื่องแรงงานต่างด้าวที่อยู่ตามแคมป์ต่างๆ ให้มีการแต่งตั้ง แคมป์แมเนเจอร์ขึ้นมา ได้ข้อมูลแต่งตั้งแล้ว ประมาณ 100 แคมป์ เป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่างภาครัฐกับเอกชน นำระบบSHA Plus Manager เข้ามาปรับใช้ในแคมป์แรงงานต่างด้าว ได้ปฏิบัติการแล้วในการควบคุมจัดการให้วิเคราะห์การทำงานของแต่ละแคมป์ให้ลงปฏิบัติ ถ้าแคมป์ที่มีมาตรฐานจะมีการจัดการที่เข้มแข็งมาก ได้สั่งการแล้วว่า ขอให้มีการรายงานผลการปฏิบัติทุกวัน ซึ่ง ต่อไปจะเอาเป็นพื้นฐานวางระบบฐานข้อมูลของคนต่างชาติในภูเก็ตทั้งหมด
” ตอนนี้เราอยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมได้อยู่ ตัวเลขเพิ่มขึ้นมา ติดขึ้นมารู้ว่าติดจากตรงไหน เช่น เมื่อวันที่ 29 ก.ค.มีตัวเลขติดเชื้อไปถึง 50 ราย มาจากอยู่ในสถานที่กักของเรา 30 ราย โอกาสที่จะแพร่เชื้อออกไปจึงลดน้อยลง ซึ่งเชื้อโรคโควิด มองไม่เห็นตัว มีการขยายตัวไปได้เร็วขึ้นเหมือนผีเราไม่เห็นตัวต้องรบกับมันด้วยความระมัดระวังตนเองตั้งการ์ดสูง
ขอให้ไม่ต้องกังวลว่าจังหวัดจะปกปิดข้อมูลเราต้องการรู้ปัญหาเพื่อหาทางแก้ไข มีมาตรการออกไปมากขึ้นเพื่อหาแนวทางแก้ไข รวมทั้ง ได้ตรวจคัดกรองเชิงรุกมากขึ้นจะหารือกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตให้ร่วมกันตรวจให้มากที่สุดเพื่อป้องกันดูแลรักษาภูเก็ตรักษาแซนด์บอกซ์ ถ้าทำได้ดีประเทศไทยไปได้ด้วยดี ” นายณรงค์ กล่าวและว่า
ด้วยความตั้งใจของทุกภาคส่วนที่มุ่งมั่นกันเชื่อมั่นว่าจะทำให้สถานการณ์ของเราดีขึ้นเรื่อยๆด้วยความร่วมมือกัน ขอย้ำว่ามาตรการที่ทำตลอด ใส่หน้ากาก รักษาระยะห่าง จะช่วยได้เยอะ ถ้ามีเบาะแสตรงไหนให้รีบแจ้งมาจะได้เข้าไปทันทีอย่างรวดเร็ว เพื่อจะลดปัญหาต่างๆได้เยอะขึ้น ซึ่ง มาตรการที่ออกไปจะรักษาภูเก็ต รักษาภูเก็ต แซนด์บอกซ์ ให้เดินหน้าต่อไปได้
