ปัตตานี เร่งตรวจเชิงรุก ยอดยังพุ่ง 344 ราย เสียชีวิต 2 ราย ขยายมาตรการโควิดเข้มอีก  

ปัตตานี เร่งตรวจเชิงรุก ยอดยังพุ่ง 344 ราย เสียชีวิต 2 ราย ขยายมาตรการโควิดเข้มอีก

เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ยังวิกฤต ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังคงไม่นิ่ง และเพิ่มขึ้นสูงทุกวัน โดยล่าสุดยอดผู้ติดเชื้อของปัตตานี วันที่ 31 ก.ค. พบผู้ป่วยรายใหม่มากถึง 344 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย ซึ่งขณะนี้มียอดผู้ป่วยสะสม 9,303 ราย รักษาหายแล้ว 6,192 ราย และเสียชีวิตสะสม 120 ราย

โดยสาเหตุที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นสูงต่อเนื่อง สืบเนื่องจากสาธารณสุขปัตตานีได้ลงพื้นที่ทุกอำเภอ ทุกหมู่บ้าน ทุกชุมชน เพื่อทำการตรวจเชิงรุกแบบ ATK ส่งผลให้พบประชาชนมีผลเป็นบวกจำนวนมาก ทั้งนี้ก็จะดำเนินตามขั้นตอนรักษาต่อไป แยกเป็นสีแดง สีเหลือง สีเขียว เน้นวิธีกักตัวที่บ้าน HQ และภายในชุมชน

ขณะที่จังหวัดปัตตานี ด้วยสถานการณ์ยังคงระบาดอย่างหนักและไม่น่าไว้วางใจ ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีและ ศบค.จังหวัด ออกคำสั่งยายเวลาคำสั่งของมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรค เพิ่มอีก 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 สค.- 31 สค. 2564

โดยมาตรการขยายเวลาประกอบด้วย ด่านคัดกรองโควิดให้มีการตรวจเข้ม ผู้ที่จะเดินทางออกนอกจังหวัดต้องยื่นเอกสารรับรองความจำเป็น ส่วนผู้เดินทางเข้าจังหวัดปัตตานีต้องลงจากรถ เพื่อสอบสวนและคัดกรอง
โรงเรียนหรือสถาบันต่างๆ งดเปิดการเรียนการสอน งดใช้อากคารจัดกิจกรรม หรือรวมกลุ่มจัดกิจกรรม
ร้านอาหาร เครื่องดื่ม งดรับประทานในร้าน ตลาดนัด โต้รุ่ง ตลาดกลางคืนเปิดให้บริการจนถึง 20.00 น.
งดใช้สนามกีฬา หรือสถานที่ออกกำลังกายต่าง และงดจัดกิจกรรมทางสังคม

Advertisement

ว่าที่ร้อยตรีตระกูล โทธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า ส่วนมาตรการโควิด-19 ในจังหวัดปัตตานี การห้ามออกนอก หรือเข้ามาในจังหวัดปัตตานี ยังคงมีการปฏิบัติอย่างเข้มงวด จะต้องมีหนังสือรับรองการออกนอกเขตจังหวัด ซึ่งจะต้องเป็นผู้ที่มีความจำเป็นจริงๆ ส่วนการออกมาจับจ่ายต่างๆ ให้วางแผนให้ดี ไปซื้อให้เพียงพอในการดำรงชีวิต และลดการออกนอกบ้านให้มากที่สุด เพื่อช่วยลดในการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 ส่วนมาตรการอื่นๆ จังหวัดก็ได้เร่งเดินหน้าฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มคนอายุ 60 ปีขึ้นไป กลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง และกลุ่มตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป เพื่อให้กลุ่มนี้ได้รับวัคซีน สร้างภูมิคุ้มกันให้ได้มากที่สุด เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวมีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อและเสียชีวิต

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image