สกู๊ปหน้า 1 : ‘นครศรีฯ’ สู้โควิด พลิกพื้นที่แดงเป็น ‘สีฟ้า’

สกู๊ปหน้า 1 : ‘นครศรีฯ’ สู้โควิด พลิกพื้นที่แดงเป็น ‘สีฟ้า’

ในการประชุมทางไกลร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด 12 จังหวัดในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 หรือสีแดงเข้ม เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้มอบนโยบายให้กับจังหวัดต่างๆ โดยแนะนำผู้เข้าร่วมประชุมว่าจะทำอย่างไรจะสร้างความเข้าใจให้ได้ว่า หากเราประกาศพื้นที่สีแดงดูแล้วน่ากลัว จึงให้ไปดูเรื่องชุมชนสีฟ้าเป็นพื้นที่ปลอดเชื้อ และจะเป็นแบบอย่างให้ชุมชนอื่น สำหรับจังหวัดที่ถูกจับตามอง เพราะจัดให้มีพื้นที่สีฟ้าดังกล่าว

อย่างเช่นจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นหนึ่งในจังหวัดพื้นที่ควบคุมสีแดง มีมาตรการเข้มงวดต่างๆ เคยเจอการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกแรก ระลอกที่สอง อย่างหนักมาแล้ว แต่ในวันนี้นครศรีธรรมราชขึ้นชื่อว่าเป็นจังหวัดที่มีความปลอดภัยมากที่สุดจังหวัดหนึ่ง จนทำให้ภาวะเศรษฐกิจของนครศรีธรรมราชยังพอไปได้ ถ้าเทียบกับหลายๆ จังหวัด ยังคงมีนักท่องเที่ยวต้องการจะเดินมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของนครศรีธรรมราช ตลอดจนสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ส่งผลให้เที่ยวบินนครศรีธรรมราชมีผู้โดยสารสูงสุดในประเทศติดต่อกันกว่า 2 ไตรมาส เมื่อเข้าสู่การระบาดระลอกสาม

ในระยะแรกยอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเร็วมาก อาจเป็นเพราะคนชะล่าใจ ทำให้วันนี้นครศรีธรรมราชจึงมุ่งหามาตรการเพื่อหยุดเชื้อโควิด-19 ด้วยการเดินหน้าใช้แนวคิด นำสมุนไพรไทยผสมภูมิปัญญาท้องถิ่น สร้างวัคซีนใจให้ประชาชนเพิ่มพื้นที่สีฟ้า “คนคอน รวมใจสู้ภัยโควิด” ตั้งเป้าลบพื้นที่สีแดง สร้างพื้นที่สีฟ้าทั่วจังหวัดให้ได้ร้อยละ 95 ภายใน 30 วัน

นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า “การบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีแนวโน้มความรุนแรงของสถานการณ์เพิ่มขึ้น จังหวัดนครศรีธรรมราชได้ปรับแนวทางเพื่อแก้ไขปัญหา แบ่งพื้นที่ 23 อำเภอของจังหวัดออกเป็น 3 สี คือ พื้นที่สีแดงคือ พื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของโรค มีจำนวน 216 หมู่บ้าน 28 ชุมชน พื้นที่สีเหลืองคือพื้นที่มีกลุ่มเสี่ยง และยังพบการแพร่ระบาด มี 133 หมู่บ้าน และพื้นที่สีฟ้า คือพื้นที่ไม่พบการติดเชื้อหรือแพร่ระบาดต่อเนื่องมาอย่างน้อย 14 วัน มี 1,203 หมู่บ้าน 80 ชุมชน

Advertisement

ภายใต้ความร่วมมือระหว่างฝ่ายปกครอง องค์การบริหารส่วนจังหวัด และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ได้ปรับแนวทางการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค จากเดิมเป็นการตั้งรับ มุ่งเน้นการดูแลรักษาผู้ป่วยเป็นหลัก เปลี่ยนเป็นการปฏิบัติการแบบคู่ขนานทั้งการเฝ้าระวัง การป้องกัน การควบคุมโรคและการรักษาที่ดีที่สุด ภายใต้โครงการ “คนคอน รวมใจสู้ภัยโควิด”

การดำเนินงานตามโครงการ คนคอน รวมใจสู้ภัยโควิด จะเป็นการสร้างวัคซีนทางใจแก่ประชาชนในพื้นที่ ลดความวิตกกังวลจากสถานการณ์การแพร่ระบาด มาเป็นการตั้งรับและเฝ้าระวังด้วยตัวเอง นำพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยามาผสมผสานกับภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อป้องกันตนเอง ชุมชนและสังคม สร้างทางเลือกเพิ่ม และเป็นการเติมวัคซีนทางใจแก่ประชาชน

“จะมีฝ่ายปกครอง นายอำเภอ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และมีชมรมแพทย์แผนไทย เป็นปราชญ์ชาวบ้าน และภูมิปัญญาท้องถิ่น จะคอยสนับสนุนขับเคลื่อนการดำเนินการ ให้คำแนะนำเพื่อให้มีการใช้สมุนไพรอย่างถูกวิธี ถูกต้องตามภูมิปัญญาของแต่ละท้องถิ่น จะไม่มีการกำหนดรูปแบบตายตัว แต่จะให้เป็นลักษณะของการนำมาใช้ตามวิถี ประเพณีนิยมของแต่ละท้องที่ท้องถิ่น ทั้งในรูปแบบของอาหารการกิน หรือยาพื้นบ้าน ควบคู่กับการปฏิบัติตามมาตรการ DMHTT อย่างเคร่งครัด รวมทั้งการเปิดโอกาสให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถในการใช้ระบบสารสนเทศ หรือโซเชียลมีเดีย เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาและกำหนดรูปแบบการดำเนินการด้วย หรือจะเป็นการกำหนดแนวทางอื่นตามความเห็นชอบของสมาชิกในหมู่บ้าน ชุมชน ตามที่ได้ตกลงกันก็ได้ เป้าหมายสำคัญคือการลดพื้นที่สีแดงให้เป็นศูนย์ และเพิ่มพื้นที่สีฟ้าให้ได้ร้อยละ 95 ภายใน 30 วัน”

วันนี้จึงไม่เพียงแต่จังหวัดเท่านั้นที่ต้องการให้พื้นทีนครศรีธรรมราชเป็นพื้นที่สีฟ้าเร็ววัน แต่ยังมีอีกหลายภาคส่วนร่วมมือสู่เป้าหมาย อย่างเช่น พระปลัดธันวา วิชชากะโร เจ้าอาวาสวัดท่าช้าง ต.ช้างซ้าย อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ทางวัดรวมกับญาติโยมที่เป็นหมอแพทย์แผนไทย ผลิตยาสมุนไพร 2 ตำรับ แก้วห้าดวง หรือเบญจโลกวิเชียร และจันทลีลา แจกจ่ายให้กับกลุ่มเสี่ยง มีผู้สนใจสอบถามมาเป็นจำนวนมาก จากกรุงเทพมหานครก็มี ดีใจที่วัดจะได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือประชาชนกำลังเดือดร้อน และหากทางจังหวัดต้องการโรงพยาบาลสนาม อาตมายินดีให้ใช้ศาลาโรงธรรม 2 โรง น่าจะได้ 100 เตียง กั้นบริเวณให้เรียบร้อย ทางวัดก็ยินดี นอกจากนี้ ยังมีศูนย์แพทย์แผนไทย ศาลามีชัยนครศรีธรรมราช ได้ทำการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ด้วยการกินยาสมุนไพร ตามอาการ

นายประชา สุวรรณวงศ์ ประธานศูนย์แพทย์แผนไทยศาลามีชัยนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ศูนย์แพทย์แผนไทยศาลามีชัยนครศรีธรรมราชจัดตั้งมากว่า 40 ปี เริ่มให้ความรู้ด้านแพทย์แผนไทยและแจกยาไทย เพื่อเตรียมรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด ตั้งแต่การระบาดในระลอกแรก โดยเริ่มโครงการ วันที่ 20 มีนาคม 2563 แจกยาไทยไป 3,000 ชุด มีหลายตำรับ เช่น แก้วห้าดวง หรือเบญจโลกวิเชียร จันทลีลา ฯลฯ ศูนย์แพทย์แผนไทยได้ศึกษาและวิเคราะห์มาโดยตลอดว่า การแพร่ระบาดนั้นจะทวีความรุนแรงขึ้นอย่างน่ากังวล จึงได้เตรียมความพร้อมและศึกษาในด้านตำรับยามาโดยตลอด ล่าสุดผลิตยาสมุนไพร 4 ตำรับ แจกฟรี เพื่อผู้ป่วยโควิด-19

“ส่วนใหญ่ผู้ที่ได้รับเชื้อโควิดนั้น การระบาดระลอกล่าสุดเชื้อดังกล่าวจะเข้าไปทำลายปอดเร็ว จึงเตรียมตำรับยารักษาปอดเพิ่ม ปัจจุบันทางศูนย์ได้ผลิตยาที่สำคัญ เช่น แก้วห้าดวงจันทลีลา ฟ้าทะลายโจร ยาปอดบรรเทาโรคปอดพิการ ฯลฯ จัดส่งไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ระบาดหนัก เช่น กรุงเทพมหานคร สมุทรสาคร ฯลฯ โดยมีนักเรียนในโครงการอารักษ์พรรณพืชและหมอแผนไทยในศูนย์แพทย์ฯ ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง”

“ทางศูนย์แพทย์แผนไทยศาลามีชัย นครศรีธรรมราช มีข้อแนะนำว่า การใช้ยาไทยในการรักษานั้น ต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง ต้องดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญ มีความรู้อย่างแท้จริง ถึงจะดำเนินการในเรื่องดังกล่าวได้ เช่น การรับประทานฟ้าทะลายโจรนั้นมีข้อห้ามเรื่องใด ห้ามรับประทานติดต่อกันเกิน 5 วัน หากเกินจะส่งผลอันตรายในส่วนใด กระชายขาวเป็นยารสเย็นจะนำมาปรุงรวมกับฟ้าทะลายโจรที่มีรสร้อนไม่ได้ และการกินยาในแต่ละตำรับ ต้องมีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำถึงจะปลอดภัยและรักษาโรคต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

นี่คือความร่วมแรงร่วมใจของคนในพื้นที่ เพื่อเร่งเปลี่ยนพื้นที่สีแดงเป็นพื้นที่สีฟ้า ภายใน 30 วัน ทุกหน่วยงาน ทุกองค์กร ต่างช่วยกันคนละไม้คนละมือในสิ่งที่ตัวเองถนัด เพื่อเร่งหามาตรการและวิธีการรับมือการแพร่เชื้อโควิด-19 ให้หมดไปจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image