สสจ.โคราช ไม่ขัดข้องหลักเกณฑ์ใหม่จัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ – สสจ.สมุทรสาคร ล็อคดาวน์หยุดเชื้อได้จริง

สสจ.โคราช ไม่ขัดข้องหลักเกณฑ์ใหม่จัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ ด้าน สสจ.สมุทรสาคร มีแพทย์ต้องการไฟเซอร์ราว 60% ล็อคดาวน์หยุดเชื้อได้จริง

เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม นพ.นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์ สสจ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า จากกรณีคณะทำงานด้านบริหารจัดการให้บริการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 กรณีวัคซีนโควิดไฟเซอร์ ได้มีการปรับเกณฑ์การจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ใหม่ โดยมีมติล่าสุด เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ให้จัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ใน 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ไม่เคยได้รับวัคซีนเลย จะได้รับไฟเซอร์ 2 เข็ม และกลุ่มที่เคยได้รับวัคซีนแล้ว 1 เข็ม ไม่ว่ายี่ห้อใด รวมทั้งซิโนฟาร์มด้วย จะได้รับไฟเซอร์ 1 เข็ม ส่วนกลุ่มที่จะไม่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ในล็อตนี้ จะเป็นกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ที่ฉีดแอสตร้าเซนเนก้า ครบ 2 เข็ม หรือฉีดวัคซีนไขว้ ซิโนแวค 1 เข็มและแอสตร้าเซนเนก้า 1 เข็มแล้ว หรือ ฉีดแอสตร้าเซนเนก้า เป็นที่เข็ม 3 ไปแล้ว

เห็นด้วยกับเกณฑ์ที่ปรับใหม่นี้ แต่เนื่องจากคณะทำงานด้านบริหารจัดการการให้บริการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 กรณีวัคซีนโควิดไฟเซอร์ กำลังดำเนินการจัดสรรตามหลักเกณฑ์อยู่ ตอนนี้จึงยังไม่ได้แจ้งยอดมาให้กับสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมาได้ทราบ ซึ่งหากทางกระทรวงสาธารณสุข ระบุยอดจัดสรรในแต่ละกลุ่มมาให้แล้ว ทางสาธารณสุขจังหวัดฯ ก็จะเร่งดำเนินการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับบุคลากรทางการแพทย์กลุ่มเป้าหมายทันที

ส่วนกรณีที่ศบค.ส่วนกลาง จัดให้จังหวัดนครราชสีมาเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดสีแดงเข้ม และนาย กอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้ลงนามในคำสั่งจังหวัดนครราชสีมา ที่7912/2564 เรื่องมาตรการในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยมีมาตรการที่สอดคล้องกับคำสั่งของ ศบค.ส่วนกลางนั้น ตนมองว่า เป็นการปรับมาตรการให้สอดรับกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของพื้นที่ ซึ่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ จะประเมินสถานการณ์ทุกๆ 14 วัน เพื่อเอ็กซเรย์พื้นที่และเข้าไปควบคุมแต่ละจุดที่มีการแพร่ระบาดอย่างละเอียด เพราะหากควบคุมสถานการณ์ได้เร็วขึ้นเท่าไหร่ ก็จะสามารถปลดล็อคได้เร็วเท่านั้น แต่หากพบว่า ยังมีคลัสเตอร์ยังระบาดไม่หยุด ก็ต้องโฟกัสค้นหาให้ได้ว่า ปัจจัยที่ทำให้มีการระบาดอยู่ มาจากสาเหตุหลักอะไร เพื่อจะได้เพิ่มมาตรการตรงนั้นให้เข้มข้นและสอดรับมากขึ้น จะได้ยุติการระบาดให้ได้โดยเร็ว ซึ่งทุกพื้นที่ในจังหวัดจะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคกันอย่างเข้มข้น และต้องขอดูแนวโน้มเป็นรายสัปดาห์ เพื่อประกอบการเพิ่มหรือลดมาตรการป้องกันควบคุม

ในภาพรวมทั้งจังหวัดยังมีคลัสเตอร์ในโรงงาน และคลัสเตอร์ประชาชนในพื้นที่อำเภอปากช่อง สีคิ้ว สูงเนิน ด่านขุนทด และอำเภอโชคชัย ที่ยังต้องจับตาเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เพราะเป็นพื้นที่ที่มีโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่ง ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฯ ได้เชิญผู้ประกอบการมาประชุมเพื่อวางมาตรการป้องกันดูแลอย่างเข้มข้น โดยโรงงานอุตสาหกรรมและแค้มป์ทุกแคมป์ ในพื้นที่จังหวัดทั้งที่พบผู้ติดเชื้อโควิด 19 และมีการแพร่ระบาดแล้ว และที่ยังไม่ติดเชื้อ จะต้องดำเนินมาตรการ บับเบิ้ล แอนด์ ซีล เพื่อควบคุมโรค โดยเน้นย้ำจัดกลุ่ม คุมไว ลดแพร่กระจาย รายได้ไม่สูญเสียตามหลักการบับเบิ้ลแอนด์ซีล ของกรมควบคุมโรค ซึ่งสถานประกอบการจะต้องศึกษารายละเอียดเพื่อให้การปฏิบัติเกิดผลสัมฤทธิ์ในการควบคุมและจำกัดการแพร่ระบาดของโรคให้ได้เร็วที่สุด

Advertisement

ต้องขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ทุกคน ได้ระมัดระวังตนเอง สวมแมส รักษาระยะห่างระหว่างบุคคล ลดการเคลื่อนย้าย ไม่จำเป็นอย่าออกจากบ้าน ถ้าออกไปภายนอกเมื่อกลับมาก็ต้องรีบชำระล้างร่างกายให้สะอาด และสำหรับผู้ที่จะเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงต่างๆ เข้ามาในจังหวัดนครราชสีมา ขอให้แจ้งคอลเซ็นเตอร์ ศูนย์คิด 19 โคราช สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฯ ได้ทราบก่อน โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงสูง จะต้องขออนุญาตก่อนและรายงานตัว เพื่อจะได้เข้ากักตัวในสถานที่กัก ที่ทางจังหวัดฯ ได้เตรียมเอาไว้ ส่วนหน่วยงาน องค์กร สถานประกอบกิจการ ต้องขอให้ผู้ประกอบการ รวมถึงพนักงาน เจ้าหน้าที่ในแต่ละหน่วยงาน ให้เพิ่มความระมัดระวังอย่างเข้มข้น และขอให้มีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม อย่าไปทำกิจกรรมใดที่ทำให้เกิดความเสี่ยง เพราะจะทำให้ตนเอง เพื่อนร่วมงาน และองค์กรเดือดร้อนไปด้วย และหากมีความเสี่ยงหรือมีความเกี่ยวข้องกับผู้ติดเชื้อโควิด 19 ต้องรีบแจ้งหน่วยงานให้ทราบ เพื่อขอพักงานกักตัวเอง ซึ่งทางหน่วยงานจะได้รีบแจ้งให้สาธารณสุขจังหวัดทราบ จะได้จัดเจ้าหน้าที่สอบสวนโรคเข้าไปควบคุมดูแล และคัดกรอง ตรวจหาเชื้อกลุ่มเสี่ยงเชิงรุก เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคให้เร็วที่สุด ซึ่งถ้า ทุกคน-ทุกภาคส่วนในจังหวัดร่วมมือร่วมใจกัน เชื่อว่าสถานการณ์ก็จะดีขึ้นโดยเร็ว” นพ.นรินทร์รัชต์ กล่าว

นพ.นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์ สสจ.สมุทรสาคร
“มีแพทย์ต้องการไฟเซอร์ราว 60% ล็อคดาวน์หยุดเชื้อได้จริง”

ตามที่รัฐบาลจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ให้กับบุคลากรทางการแพทย์นั้น ส่วนของจังหวัดสมุทรสาคร ขณะนี้ยังไม่ได้รับการจัดสรรวัคซีนมา เบื้องต้นอยู่ระหว่างการสำรวจจำนวนของทางกระทรวงฯ ว่ามีบุคลากรทางแพทย์จังหวัดสมุทรสาคร มีความประสงค์จะรับวัคซีนบูสเตอร์โดสจากวัคซีนไฟเซอร์ทั้งหมดกี่คน โดยตัวเลขประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ จากทั้งหมดราวๆ 8,000 คน หรือ 4,000 – 5,000 คนที่ต้องการวัคซีนไฟเซอร์ แต่สุดท้ายจะขึ้นอยู่กับการจัดสรรมาตามลำดับ และตามจำนวนที่ร้องขอไป ส่วนที่เหลือได้รับการบูสเตอร์วัคซีนแอสตราฯ ไปแล้ว ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับความสมัครใจของเจ้าหน้าที่ว่าต้องการจะรับวัคซีนชนิดไหน

Advertisement

สำหรับตัวเลขที่มีผู้ติดเชื้อสูงนั้น บุคลากรทางการแพทย์มีความเสี่ยงทุกคน และติดเชื้อไปแล้วจำนวนมาก ส่วนบุคลากรทางการแพทย์ที่เสียชีวิตขณะนี้มี 2 ท่านคือ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 1 ท่าน และ พยาบาลวิชาชีพอีก 1 ท่าน

ในเรื่องความเข้มข้นของมาตรการล็อคดาวน์นั้น ในมุมมองของสาธารณสุข ถ้าจะแก้ปัญหาในครั้งนี้ได้อย่างรวดเร็ว จากมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขได้นำตัวเลขมาคำนวณแล้ว ถ้าสามารถมีมาตรการล็อคดาวน์ที่มีประสิทธิภาพจากเดิม 20 เปอร์เซ็นต์ เป็น 25 เปอร์เซ็นต์ คือ ทำให้ดีเพิ่มมากขึ้นอีก 5 เปอร์เซ็นต์ จะช่วยลดระยะเวลาและลดจำนวนผู้ป่วยได้จริงๆ ฉะนั้นกระบวนการล็อคดาวน์จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพื่อหยุดการเคลื่อนของประชาชน แยกคนที่มีเชื้อ กับคนไม่มีเชื้อ ชให้อยู่คนละที่ หยุดการแพร่เชื้อ 14 วัน ถ้าสามารถทำได้ให้ทุกคนอยู่นิ่งกับที่เป็นเวลา 14 วัน เชื้อจะไม่ติดต่อกัน ทำให้สามารถหยุดการแพร่ระบาดของโรคนี้ได้

ส่วนของจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมการหยุดการเคลื่อนไหว ยังคงสามารถใช้แนวคิด Bubble&Sealed มาใช้ โดยไม่ต้องปิดโรงงาน ไม่ต้องการให้เศรษฐกิจหยุดชะงัก แต่จะทำอย่างไรให้โรงงานยังคงทำงานได้ พนักงานมีงานทำ ภายใต้กระบวนการที่มีความปลอดภัย ไม่ใช่เกิดโรคแล้วค่อยมาควบคุม แต่เราสามารถออกแบบให้ทุกคนอยู่ทำงานกับที่เสมือนอยู่กับครอบครัวได้ โดยออกแบบโรงงานให้มีระบบที่พักและที่ทำงานอยู่ด้วยกัน ทำให้สามารถขับเคลื่อนการทำงานและป้องกันการติดเชื้อไม่ให้เกิดขึ้นได้ หรือถ้าจะเกิดการติดเชื้อ ก็เกิดในวงจำกัดเฉพาะในโรงงานเท่านั้น ฉะนั้นถ้าผู้ประกอบการมีความเข้าใจในมิติที่กล่าวมานี้ ก็ไม่จำเป็นต้องวิ่งตามมาตรการควบคุมโรค แต่ให้ใช้หลักควบคุมโรคก่อนเกิดการระบาด ซึ่งเป็นหลักการที่ยังคงใช้ได้ผลดีและมีประสิทธิภาพ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image