สสจ.เลย แจงฉีดไฟเซอร์นายทหารยศ ส.อ. เพราะเป็นด่านหน้า ดูแลผู้ป่วยใน รพ.ค่าย ย้ำสมควรได้รับวัคซีน
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพและข้อความเข้ารับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ เข็มที่ 1 ที่โรงพยาบาลเลย ด้วยสิทธิโครงการพิเศษ โดยบัตรบริการปรากฏยศ “สิบเอก” พร้อมใส่แคปชั่นภาพ “Moderna จ๋าพี่คงรอน้องต่อไหว วันนี้พี่ขอนอกใจมาซบน้อง Pfizer ก่อนนะ”
ไม่นาน ภาพดังกล่าวถูกแคปมาแชร์ต่อในเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ พร้อมตั้งคำถามถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ผู้โพสต์ได้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ด้วยสิทธิอะไร เป็นบุคลากรด่านหน้าหรือไม่ ก่อนจะมีผู้ระบุว่าผู้โพสต์เป็นทหารประจำอยู่ในค่ายทหารแห่งหนึ่งในจังหวัดเลย
ล่าสุด วันนี้ (9 สิงหาคม) ผู้สื่อข่าวสอบถาม นายแพทย์ปรีดา วรหาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย เปิดเผยว่า กรณีที่มีการแชร์ในโลกโซเซียลที่เป็นข่าวไปนั้น นายทหารคนดังกล่าวคือบุคลากรด่านหน้าที่ประจำอยู่ในโรงพยาบาลค่ายศรีสองรัก มณฑลทหารบกที่ 28 โดยการฉีควัคซีนไฟเซอร์นั้น ทางสาธารณสุขจังหวัดเลย ได้ฉีดให้กับบุคลากรจริงๆ ไม่มีนอกกลุ่มแน่นอน
นายแพทย์ปรีดากล่าวว่า ช่วงเช้าวานนี้ (8 สิงหาคม) ทุกโรงพยาบาลในเขตอำเภอเมืองได้มีบุคลากรได้เดินทางมาฉีดที่โรงพยาบาลเลยทั้งหมด โดยนายทหารนายนี้คือบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานในโรงพยาบาลค่ายศรีสองรัก ภายในค่ายทหาร โดยในค่ายทหารเป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลสนาม มีทั้งหมด 400 เตียง และบุคคลดังกล่าวมีหน้าที่ดูแลผู้ป่วย รับผู้ป่วย ฉะนั้น บุคลากรเหล่านี้ก็สมควรที่จะได้รับวัคซีน ถึงเขาไม่ใช่วิชาชีพทางการแพทย์ก็ตาม
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่ จ.เลย ได้ลงทะเบียนขอรับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ไว้ทั้งหมด 2,586 คน โดย จ.เลย เป็น 1 ในจังหวัดที่อยู่ในเขตสุขภาพที่ 8 ประกอบด้วย จ.อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู เลย สกลนคร และ จ.นครพนม ได้รับวัคซีนมาทั้งหมด 24,240 โดส ฉีดพร้อมกันวานนี้ (8 สิงหาคม) ทั้งหมด
อย่างไรก็ดี ผู้มีความประสงค์รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ทั้งหมด 1,157 คน มีความประสงค์รับวัคซีนไฟเซอร์ เข็มที่ 1 ทั้งหมด 337 คน มีความประสงค์ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ เข็มที่ 2 จำนวน 169 คน และมีความประสงค์ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ เข็มที่ 3 จำนวน 2,220 คน
