ผู้ว่าฯ กาญจน์ ล็อกดาวน์ ‘บ้านพระเจดีย์สามองค์’ หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ขยายวงกว้าง

ผู้ว่าฯ กาญจน์ ประกาศล็อกดาวน์ ‘บ้านพระเจดีย์สามองค์’ ไม่มีกำหนด ห้ามเข้า-ออก หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ขยายวงกว้าง หวั่นลามเข้าเมือง

เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี ประกาศคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 3901/2564 เรื่อง ปิดหมู่บ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ที่ 9 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เป็นการชั่วคราว

ทั้งนี้ เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน 2019 (COVID – 19) ในพื้นที่หมู่บ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ที่ 9 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี พบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับเป็นพื้นที่ชายแดนติดกับกิ่งอำเภอพญาตองชู สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ซึ่งปัจจุบันมีการแพร่ระบาดของโรคเป็นจำนวนมาก พบว่ามีการแพร่ระบาดของโรคอย่างกว้างขวาง
ซึ่งหากไม่มีการระงับยับยั้งหรือการสกัดการแพร่กระจายของโรค คาดว่าจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโรคออกไปเป็นวงกว้าง เพื่อเป็นการสกัดกั้นไม่ให้มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) เข้าสู่ที่ตอนใน อาศัยอำนาจตาความในมาตรา 22 (1) และ (7) มาตรา 35 (1) แห่งพระราชบัญญัติ พ.ศ.2558 ประกอบข้อ 2 ข้อ 7 (1) ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2563 และข้อ 9 (ฉบับที่ 20) ลงวันที่ 16 เมษายน พ.ศ.2564 และ (ฉบับที่ 30) ลงวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ.2564 ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี จึงมีคำสั่ง ดังนี้

ข้อ 1 กำหนดปิดหมู่บ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ที่ 9 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป เพื่อเป็นการตัดวงจรการแพร่ระบาด

ข้อ 2 ห้ามบุคคล ยานพาหนะเข้า – ออก พื้นที่ หมู่บ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ที่ 9 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป โดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน ยกเว้น เจ้าหน้าที่ที่ต้องไปปฏิบัติงานในพื้นที่ โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่เทศบาล อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม) ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ) อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร./ และหัวหน้าคุ้มบ้านเป็นผู้ปฏิบัติงานในจุดควบคุมดังกล่าว หรือผู้ที่ได้รับอนุญาตจากพนักงานควบคุมโรคติดต่ออำเภอ (นายอำเภอ) หรือผู้ที่นายอำเภอมอบหมาย โดยไม่เว้นวันหยุดราชการ

Advertisement

ข้อ 3 มอบหมายให้อำเภอสังชละบุรี บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดกั้น จุดควบคุมการเข้า – ออก บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 323 ณ บริเวณแยกหกพันไร่ หมู่ที่ 9 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

ข้อ 4 การขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค พัสดุภัณฑ์ สิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวัน ให้ขนถ่าย ณ บริเวณจุดควบคุมการเข้า-ออกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 323 บริเวณสามแยกหกพันไร่ โดยผ่อนปรนให้รถบรรทุกขนส่งสิ่งของที่มีน้ำหนักมากหรือมีขนาดใหญ่ สิ่งของที่เปราะบางแตกหักง่าย หรือสิ่งของที่อาจเสียหายเพราะความเปียกขึ้นเข้า – ออกได้ ทุกวันอังคารและวันพฤหัสบดี โดยผู้ขับขี่และผู้ติดตามต้องลงทะเบียนที่จุดควบคุมการเข้า – ออก ก่อนถึงวันที่ผ่อนปรน และต้องตรวจด้วย Antigen Test Kit (ATK) ทุกครั้ง โดยเจ้าของกิจการเป็นผู้รับผิดชอบคำใช้จ่าย ทั้งนี้ มอบหมายให้นายอำเภอสังขละบุรี เป็นผู้บริหารจัดการในพื้นที่

ข้อ 5 ให้หน่วยงานสาธารณสุข ตรวจค้นหาผู้ที่อาจจะติดเชื้อในเชิงรุก และรณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่หมู่บ้านพระเจดีย์สามองค์ ได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึง

Advertisement

ข้อ 6 ให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานบูรณาการร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบแรงงานในสถานประกอบการให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย และมาตรการที่เกี่ยวข้อง หากพบการกระทำความผิดให้ดำเนินการตามกฎหมายโดยทันที

ข้อ 7 ให้ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงผนึกพื้นที่ชายแดนให้เข้มข้นมากขึ้น ไม่ให้มีการลักลอบข้ามแดนไป – มา โดยเพิ่มความเข้มงวดการป้องกันและปราบปรามการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของชาวเมียนมา โดยให้ปฏิบัติตามแนวทางที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) กำหนดอย่างเคร่งครัด

อนึ่ง เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นรีบด่วน หากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชน หรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้งตามมาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ อาจมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image