ภูเก็ต ขยายระยะเวลามาตรการคัดกรองเข้า-ออก 17-31 ส.ค.นี้ หลังสายพันธุ์เดลต้าระบาดหนัก

ภูเก็ต ขยายระยะเวลามาตรการคัดกรองเข้า-ออก 17-31 ส.ค.นี้ หลังสายพันธุ์เดลต้าระบาดหนัก

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ยังคงทวีความรุนแรง โดยเฉพาะไวรัสกลายพันธุ์ชนิดสายพันธุ์เดลต้าที่เชื้อโรคสามารถแพร่กระจายและติดต่อกันได้โดยง่าย ทำให้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด

จังหวัดภูเก็ตจึงจำเป็นต้องกำหนดมาตรการและข้อปฏิบัติเพื่อป้องกันและควบคุมโรคอย่างต่อเนื่องออกไปอีกช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ตามมติที่ประชุมครั้งที่ 48/2564 เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2564 จึงลงนามคำสั่งที่ 4627/2564 กำหนดมาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

สาระสำคัญ ดังนี้

ห้ามบุคคลและผู้ขับขี่ยานพาหนะทุกประเภท ยกเว้น เด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ที่เดินทางมากับผู้ปกครองหรือผู้ดูแล เข้าจังหวัดภูเก็ต ทั้งทางบก (ด่านตรวจท่าฉัตรไชย) ทางน้ำ (ท่าเรือ ทุกท่า) ในจังหวัดภูเก็ต และช่องทางภายในประเทศ (ท่าอากาศยานภูเก็ต)

Advertisement

เว้นแต่ เป็นบุคคล หรือผู้ขับขี่ยานพาหนะ ดังต่อไปนี้ รถฉุกเฉินทางการแพทย์ ผู้ป่วยฉุกเฉิน กู้ชีพ กู้ภัย ขนส่งยา วัสดุอุปกรณ์ เวชภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ทางการแพทย์ ขนส่งสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภค สินค้าทางการเกษตร ปศุสัตว์ อาหารสัตว์ หรือการขนส่งที่จำเป็นอื่นๆ ต่อการดำรงชีพ ขนส่งแก๊สหุงต้ม น้ำมันเชื้อเพลิง ขนส่งเงินของธนาคาร สถาบันทางการเงิน ขนส่งพัสดุและสิ่งพิมพ์ ขนส่งวัสดุก่อสร้าง เครื่องจักร และอะไหล่ที่ใช้ในการซ่อมบำรุง

ผู้ขนส่งสินค้าทางเรือ เพื่อนำเข้า-ส่งออกสินค้า ณ ท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต, ท่าเรือคลังน้ำมัน ปตท.ภูเก็ต และพื้นที่ขนถ่ายสินค้าอื่นๆ ขนส่งเครื่องมืออุปกรณ์ วัสดุ วัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์ ชิ้นส่วนประกอบซ่อมบำรุงพื้นฐานด้านโทรคมนาคม พลังงาน ยานยนต์ อากาศยาน และการอุตสาหกรรมอื่นๆ ผู้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านหรือปฏิบัติงานในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเป็นการประจำ มีเอกสารยืนยันผู้เดินทางมาตามโครงการเปิดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และผู้ขับขี่ยานพาหนะ (มีเอกสารยืนยัน)

ผู้ที่ได้รับคำสั่งหรือมีหนังสือมอบหมายจากต้นสังกัดให้ปฏิบัติหน้าที่ในด้านการป้องกันและควบคุมโรคในจังหวัดภูเก็ต ผู้ที่ได้รับคำสั่งจากส่วนราชการให้ไปหรือมาปฏิบัติภารกิจจำเป็นเร่งด่วนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ผู้มีความจำเป็นในการเดินทางออกทางช่องทางระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต (ต้องมีตั๋วโดยสาร ของวันที่เดินทางเท่านั้น)

Advertisement

ผู้ที่มีนัดหมายตามกระบวนการพิจารณาในชั้นศาล พนักงานอัยการ หรือพนักงานสอบสวน ซึ่งต้องมีเอกสารหลักฐานที่ชัดเจนว่าหากเลื่อนเวลานัดหมายดังกล่าวจะทำให้กระบวนการพิจารณาเสียหายอย่างร้ายแรง หรือมีนัดหมายการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเฉพาะกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ มิฉะนั้นจะเกิดความเสียหายแก่คู่กรณีหรือส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นอย่างยิ่ง

กรณีผู้มีเหตุจำเป็นอื่นๆ ที่ไม่สามารถเลื่อนกำหนดนัดหมายได้ หรือกรณีอื่นใดซึ่งมีปัญหาในทางปฏิบัติที่ต้องวินิจฉัยสั่งการ ให้ผู้บัญชาการเหตุการณ์ประจำด่านตรวจเป็นผู้มีอำนาจพิจารณาเป็นรายกรณี โดยผู้ได้รับการยกเว้นตามกรณีดังกล่าวข้างต้น ต้องได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิดซิโนแวค (SIinovac), ซิโนฟาร์ม (Snopham) ครบ 2 เข็ม หรือซิโนแวค (Snovac) เข็ม 1 แอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) เข็ม 2 หรือได้รับวัคชีนชนิดแอสตร้าเซนเนก้า (Astrazeneca), ไฟเซอร์ (Pfizer), โมเดอร์นา (Modemna) จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน (Johnson and Johnson) จำนวน 1 เข็ม มาแล้วเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน หรือเป็นผู้ที่หายจากอาการป่วยด้วยโรคโควิด-19 มาแล้วไม่เกิน 90 วัน และต้องได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีการ RT – PCR หรือวิธีการ Antigen Test มาจากนอกพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 70 ชั่วโมง ก่อนการเดินทางถึงเด็กอายุตั้งแต่ 6 ปี จนถึงผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่ไม่อยู่ในเกณฑ์การได้รับวัคซีน ต้องได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีการ RT – PCR หรือวิธีการ Antigen Test มาจากนอกพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนการเดินทางถึง

กรณี นักเรียนนักศึกษาอายุไม่ถึง 18 ปี ที่ไม่สามารถข้ารับการฉีดวัคชีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้และมีความจำเป็นต้องเดินทางผ่านเข้า-ออกจังหวัดภูเก็ตเพื่อการเรียนการศึกษา ให้หน่วยงานต้นสังกัดของสถานศึกษาหรือศึกษาธิการจังหวัดออกบัตรประจำตัวเป็นรูปแบบเดียวกัน แสดงต่อเจ้าหน้าที่เมื่อเดินทาง
ผ่านเข้า-ออกจังหวัดภูเก็ต และให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีการ RT – PCR และออกใบรับรองการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้มีผลใช้ได้ครั้งละไม่เกิน 1 เดือน

กรณี ผู้มีนัดหมายฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็ม 2 (ต้องมีใบนัดหมายการฉีดวัคซีนเข็ม 2 ที่จังหวัดภูเก็ต) และต้องได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีการ RT – PCR หรือวิธีการ Antigen Test มาจากนอกพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนการเดินทางถึง

ต้องลงทะเบียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.gophuget.com เพื่อแจ้งข้อมูลในการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตล่วงหน้า และแสดงคิวอาร์โค้ด (QR Code) ต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อก่อนเข้าจังหวัดภูเก็ต

การใช้เส้นทางคมนาคมและการตรวจคัดกรองการเดินทาง ผ่านทางด่านตรวจท่าฉัตรไชย ห้ามบุคคลและยานพาหนะทุกประเภทเข้าจังหวัดภูเก็ต ระหว่างเวลา 23.00 นาฬิกา ถึงเวลา 04.00 นาฬิกา
ของวันรุ่งขึ้น ยกเว้น เมื่อมีความจำเป็นเร่งด่วนหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ ผู้ติดเชื้อที่จงใจปกปิดข้อมูลการเดินทางหรือแจ้งข้อมูลเท็จ ต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อทำให้เป็นอุปสรรคต่อการสอบสวนและควบคุมโรคเป็นผลให้เชื้อโรคแพร่ออกไป อาจเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ด้วย

ขอความร่วมมือผู้ที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ต ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 (D-M-H-T-T-A)

หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ อาจเป็นความผิดตามมาตรา 51 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือมาตรา 52 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับแห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และอาจได้รับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2558 ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม ถึงวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ.2564

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image