สลด สาวหัวหินวัย 15 ปี ตั้งครรภ์ 21 สัปดาห์ ป่วยโควิด ปอดบวมเสียชีวิต
เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ร้อยละ 41.49 กลุ่มผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคร้อยละ 43.18 กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป ร้อยละ 5.10 หรือ 117 คนจากเป้าหมายกว่า 2,000 คน ที่ผ่านมาพบปัญหากลุ่มเสี่ยงไม่มารับการฉีดวัคซีนด้วยหลายเหตุผล
เช่น เลือกวัคซีน มีโรคประจำตัวมากกลัวฉีดวัคซีนแล้วเสียชีวิต ลูกหลานไม่ยอมให้ฉีดเพราะกลัวผลกระทบของวัคซีน กลัวอาการแท้ง ซึ่งในความเป็นจริงกลุ่มเสี่ยงทั้งหมดนี้ควรรับการฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงต่อการป่วยหนักและเสียชีวิตหากติดเชื้อ
โดยจากผลการศึกษา พบว่าการฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม ศึกษาจากคน 79 คน สร้างภูมิคุ้มกันเฉลี่ย 1,006 ไอยูต่อเอ็มแอล ฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม ศึกษาจากคน 80 คน สร้างภูมิคุ้มกันเฉลี่ย 1,207 ไอยูต่อเอ็มแอล ส่วนการฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็ม 1 แอสตร้าเซนเนก้า เข็ม 2 ศึกษาจากคน 77 คน สร้างภูมิคุ้มกันเฉลี่ย 3,962 ไอยูต่อเอ็มแอล มากกว่ากลุ่มที่ฉีดซิโนแวคกับซิโนแวคและแอสตร้าฯ กับแอสตร้าฯ เกือบ 4 เท่า
“วัคซีนที่ใช้ในประเทศไทยขณะนี้ ทั้งซิโนแวคครบ 2 เข็ม แอสตร้าเซนเนก้าที่ฉีดเข็มเดียวหรือครบ 2 เข็ม มีประสิทธิภาพช่วยลดทั้งการติดเชื้อ การป่วยรุนแรง และการเสียชีวิต สามารถใช้ต่อไปได้ โดยการปรับสูตรการฉีดสลับชนิดเพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันระดับสูงในเวลารวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมกลุ่มเสี่ยงเพื่อลดโอกาสการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตยังค่อนข้างต่ำโดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ จึงขอเชิญชวนทุกคนพาผู้สูงอายุไปฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันการติดเชื้อและลดการเสียชีวิตจากโควิด-19” นายแพทย์สุริยะกล่าว
มีรายงานว่าล่าสุดมีผู้เสียชีวิตสะสมรายที่ 36 ผู้ป่วยตามไทม์ไลน์ที่ 5,176 เพศหญิง อายุ 15 ปี ชาว ต.หนองแก อ.หัวหิน เสียชีวิตด้วยอาการปอดบวมรุนแรง หลังจากตั้งครรภ์แรก อายุครรภ์ 21 สัปดาห์ มีประวัติไม่เคยรับวัคซีน ก่อนหน้านี้เดินทางจาก จ.ชลบุรี กลับบ้านที่ อ.หัวหิน
