‘เชียงใหม่’ พบคลัสเตอร์ใหม่ ‘ต.แม่ปูคา-สันกำแพง’ ห่วงยังมีปัญหาจากคนเดินทางไปพื้นที่เสี่ยงไม่กักตัว วอนอย่าปิดบังไทม์ไลน์

วันที่ 21 สิงหาคม นายทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงสถานการณ์การระบาดโรคโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ประจำวันนี้ว่า เมื่อวานนี้ (20 สิงหาคม) มีการตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มผู้สัมผัสหรือผู้เสี่ยงสูง จำนวน 2,225 ราย พบผู้มีผลบวก 30 ราย คิดเป็น 1.35% ที่เหลือเป็นผู้ที่มีผลบวกมาแล้วจากต่างจังหวัด และเดินทางกลับมารักษาตัวที่ภูมิลำเนา ส่วนการตรวจคัดกรองเชิงรุกในพื้นที่เสี่ยง แรงงานต่างด้าว คนงานเก็บลำไย ดำเนินการแล้ว 13 อำเภอ โดยวานนี้ มีการตรวจคนงานเก็บลำไยที่อำเภอแม่แตงเพิ่มอีก 11 ราย ทั้งหมดผลเป็นลบ ด้านการตรวจผู้ที่เดินทางเข้ามาในจังหวัด ที่สนามบินเชียงใหม่ ไม่มีเที่ยวบินเข้ามา ที่สถานีรถไฟ 39 ราย สถานีขนส่งอาเขต 5 ราย รถยนต์ส่วนตัวที่ด่านดอนจั่น 29 ราย ผลเป็นลบทั้งหมด ส่วนการตรวจพนักงานขับรถบรรทุกและผู้ติดตาม ที่ด่านสารภี 94 ราย และด่านดอยเต่าตรวจ 12 ราย ยังไม่พบผู้มีผลบวก ด้านการตรวจเชิงรุกในชุมชนช้างคลาน 86 ราย พบมีผลเป็นบวก 6 ราย ส่วนในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ (Local quarantine) 13 ราย และกาดเมืองใหม่ 66 ราย ผลเป็นลบทั้งหมด

นายทรงยศ กล่าวอีกว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 35 รายในวันนี้ เป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด เพียง 9 ราย โดยมาจากกรุงเทพมหานคร 4 ราย ปทุมธานี 1 ลำพูน 1 ราย เชียงราย 1 ราย และสมุทรปราการอีก 2 ราย ส่วนอีก 26 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัด โดยมาจากคลัสเตอร์ต่างๆ ได้แก่ คลัสเตอร์ตำบลหางดง อำเภอฮอด 4 ราย เป็นผู้สัมผัสของกลุ่มวัยรุ่นที่ไปรวมกลุ่มกันที่ปั๊มน้ำมัน Shell คลัสเตอร์โกดังลำไยบ้านเป้า อำเภอแม่แตง 1 ราย เป็นผู้สัมผัสในชุมชน ประวัติการสัมผัสยังไม่ชัด อาศัยอยู่หมู่ 6 บ้านก๊างหงส์ ให้ประวัติว่าเก็บลำไยคนเดียว และนำไปส่งขายที่ล้งลำไยตำบลช่อแล อยู่ระหว่างการสอบสวนโรคเพิ่มเติม คลัสเตอร์กิจกรรมชุมชนสันป่าตอง-แม่วาง 1 ราย เป็นผู้สัมผัสร่วมบ้านตรวจพบเชื้อระหว่างการกักตัว

คลัสเตอร์ชุมชนช้างคลาน 7 ราย เป็นผู้ที่อยู่ในครอบครัวที่สัมผัสต่อเนื่องมาจากญาติที่ไปซื้อหมากและยังกระจายเชื้อสู่ญาติ ซึ่งอาศัยอยู่ในชุมชนเดียวกันที่มีความเป็นอยู่แออัดมาก สำหรับคลัสเตอร์นี้ทางคณะกรรมการโรคติดต่อสั่งการให้เทศบาลนครเชียงใหม่เร่งตรวจคัดกรองทุกหลังคาเรือนในชุมชนช้างคลาน และดำเนินการแยกกลุ่มเสี่ยงสูงออกมากักตัวนอกชุมชนอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเป็นวงกว้าง

นายทรงยศ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังพบคลัสเตอร์ใหม่คือ คลัสเตอร์กิจกรรมตำบลแม่ปูคา อำเภอสันกำแพงอีก 1 ราย เป็นภรรยาของผู้ป่วยเดิม มีประวัติป่วยเป็นโรคไต และเดินทางไปฟอกไตที่หน่วยฟอกไต 2 โรงพยาบาลนครพิงค์ ร่วมกับเพื่อนบ้าน ต้องปิดหน่วยฟอกไต 2 และสั่งกักตัวผู้สัมผัสร่วมบ้านทั้งหมด ส่วนผู้ติดเชื้อที่เหลือเป็นการติดเชื้อจากการสัมผัสในครอบครัว ที่ตำบลหนองจ๊อม 2 ราย ตำบลสันโป่ง 2 ราย ตำบลต้นเปา 3 ราย และติดเชื้อในที่ทำงานที่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ลิ้มเกียรติเจริญ 1 ราย บริษัท KP แพ็คกิ้ง ตำบลหนองผึ้ง อำเภอสารภี 2 ราย และอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 2 ราย อย่างไรก็ตามสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในจังหวัดเชียงใหม่นั้น มีแนวโน้มที่จะดีขึ้น แต่ยังมีปัญหาในการแพร่ระบาดของจังหวัดที่มาจากผู้ที่มีประวัติเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงและไม่กักตัว หรือกักตัวไม่ถูกต้อง รวมทั้งการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ และปกปิดไทม์ไลน์ของตนเอง ทำให้การสอบสวนและควบคุมโรคทำได้ช้าและผิดประเด็น จึงขอความร่วมมือกับผู้ที่มีประวัติเดินทางไปยังสถานที่เสี่ยงทุกคนให้ความร่วมมือในการกักตัวอย่างเคร่งครัดและให้ข้อมูลที่เป็นจริงกับเจ้าหน้าที่ เพื่อที่จะสามารถควบคุมโรคโควิด-19 ได้โดยเร็ว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image