ทวงสัญญาผู้ว่าประจวบฯ สั่งโยธาปรับปรุงภูมิทัศน์โครงการร้าง หน้าศาลากลางจังหวัดก่อนเกษียณ 30 กันยายน 64
เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม จ่าเอกเสกสรรค์ จันทร แกนนำเครือข่ายต่อต้านการทุจริต จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า หลังจากนายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สั่งการด่วนเพื่อแก้ไขปัญหา กรณีใช้ประโยชน์จากงบพัฒนาจังหวัด งบกรมโยธาธิการจังหวัด จัดทำโครงสร้างพื้นฐาน ปรับปรุงภูมิทัศน์ ในเขตเทศบาลเมืองประจวบฯใช้งบมากกว่า 200 ล้านบาทในระยะ 15 ปีที่ผ่านมา บางโครงการถูกปล่อยทิ้งร้าง โดยเฉพาะทัศนอุจาดจากโครงการร้างหน้าศาลากลางจังหวัด ถือว่าประจานความล้มเหลวในระบบราชการบริหารส่วนภูมิภาค
เมื่อเดือนมิถุนายน ผู้ว่าราชการจังหวัดกำชับผ่านรองผู้ว่าฯ ที่รับผิดชอบเร่งแก้ไขปัญหาให้เสร็จโดยเร็ว ก่อนจะเกษียณราชการในเดือนกันยายน 2564 ล่าสุดเหลือเวลาอีกไม่ถึง 40 วัน คาดว่าไม่น่าจะประสบความสำเร็จ การใช้งบไม่เกิดประโยชน์กับประชาชน และน่าจะเป็นภาระเร่งด่วนของผู้ว่าราชการจังหวัดคนต่อไปที่จะมารับตั้งตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564
จ่าเอกเสกสรรค์ กล่าวว่า สาเหตุที่บางโครงการถูกปล่อยร้าง เนื่องจากเมื่อปี 2563 โยธาจังหวัดทำหนังสือแจ้งให้สภาเทศบาลรับมอบ 13 โครงการ แต่เทศบาลรับ 3 โครงการ จากนั้นในที่ประชุมสภาขอให้กองช่างประสานกับโยธาจังหวัดตั้งกรรมการสำรวจและศึกษา ขณะนั้นนายกเทศมนตรีคนปัจจุบันทำหน้าที่ ส.ท.ได้ร่วมยกมือเสียงข้างมากไม่เห็นด้วยกับการรับโครงการ
“ส่วนกรณีที่สำนักงานโยธาจังหวัดอ้างว่าจะมีงบด่วนเพื่อซ่อมก่อนผู้ว่าฯเกษียณ หากมีงบจริง ก็ไม่มีความจำเป็นต้องสอบถามความเห็นจาก ส.ท. หรือ อ้างว่าจะต้องซ่อมตามความต้องการของ ส.ท. เพื่อให้เป็นเงื่อนไขขอให้ยกมือรับมอบโครงการในภายหลัง โดยเฉพาะการปรับปรุงภูมิทัศน์หน้าศาลากลางจังหวัด มีปัญหามานานหลายปี สำนักงานโยธาควรสำรวจสิ่งปลูกสร้างทุกปี เพื่อซ่อม เพราะทราบว่าไม่เคยมีหน่วยงานใดรับมอบไปดูแล”
“โครงการร้างทั้งหมดหลังก่อสร้างเสร็จ สำนักงานโยธาฯไม่ได้ส่งมอบโครงการให้เทศบาลดูแล โดยเฉพาะโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ที่เขาช่องกระจกครั้งล่าสุดใช้งบ 16.9 ล้านบาท หน้าศาลากลางจังหวัด นอกจากนั้นยังมีการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นในพื้นที่ของกรมเจ้าท่าใช้งบจำนวนมากต่อเนื่องหลายปี การปรับปรุงภูมิทัศน์ที่ค่ายลูกเสือชุมชนม่องล่ายในที่ดินโฉนดของหน่วยงานอื่น ขณะที่การตรวจสอบรายงานการประชุมสภา พบว่าโครงการส่วนใหญ่มีปัญหาในการใช้งบซ่อมที่ระบุเหตุผลและสภาพปัญหาไว้ชัดเจน เนื่องจากเกินศักยภาพของเทศบาลในการใช้งบประมาณ โดยเฉพาะเขื่อนกันคลื่นที่ก่อสร้างในพื้นที่ของกรมเจ้าท่า และบางโครงการไม่สอดคล้องกับการรับมอบตามระเบียบพัสดุ” จ่าเอกเสกสรรค์ กล่าว