‘ซินแสเข่ง’ ผ่าดวงเมืองไม่พ้นเคราะห์ผู้คนก้าวร้าว แตกแยก ขัดแย้ง
เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม นายชนม์ทรรศน์ ฤทัยผ่อง (ซินแสเข่ง) ผู้อำนวยการสถาบันโหราศาสตร์พยากรณ์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้วิเคราะห์ดวงเมืองประเทศไทยที่ถูกครอบงำด้วยดาวแห่งความหายนะ ดาวแห่งความชั่วร้าย ดาวแห่งความวิบัติ ดาวมฤตยูที่มีอานุภาพร้ายแรงสร้างตัวตาย ตัวแทนไม่หยุดหย่อนคนหนึ่งถูกจับอีกคนขึ้นมาแทนหนักขึ้นกว่าเดิม และเป็นตัวกำหนดสะท้อนเหตุการณ์ให้ชาติบ้านเมืองเกิดเหตุอาเพศลูกฆ่าพ่อ พี่ฆ่าน้อง เหตุการณ์วิปริตเหมือนไฟบรรลัยกันต์เผาผลาญชีวิตและจิตใจมนุษย์ให้เปลี่ยนไป ก่อให้เกิดความลุ่มหลงแก่งแย่งชิงในอำนาจเข้าครอบงำ เกิดโทสะโมหะจริตใช้ความรุนแรงพยาบาท เกิดความผันผวนทางอารมณ์คุ้มดีคุ้มร้าย ทรยศหักหลัง อันธพาลให้ร้ายป้ายสีเป็นศัตรู
ซินแสเข่งกล่าวว่า ผู้คนใช้ความคิดของตนเป็นใหญ่เข้าใจยากเก็บกด คิดก้าวร้าว จิตวิตถาร รุกราน ก่อการกบฏจลาจลตกอยู่ในดาวพระเคราะห์มฤตยูเทพแห่งความตาย แต่ก็ไม่ใช่จะไม่ดีทุกอย่าง และอาจมีดีได้เหมือนกัน เช่น การค้นคว้าโบราณคดี ด้านอิเล็กทรอนิกส์ นักสถิติมีความคิดล้ำหน้ามีตั้งใจทำแต่ไม่รู้ว่าสิ่งนั้นผิดหรือถูก
“ มูลเหตุต่างๆ ที่เกิดขึ้นปัญหาจากโรคระบาดโควิดที่รุนแรงจากเชื้อไวรัสที่ยากจะแก้ไข เพราะมีการกลายพันธุ์ตลอดเวลา และเนื่องจากอานุภาพทำลายดวงเมืองจากดาวมฤตยูที่เข้าครอบงำ ให้จิตใจคนเปลี่ยนแปลงยากที่จะแก้ไขกับสิ่งที่มองไม่เห็นจนลุกลามทำให้เกิดการแตกแยกขัดแย้งในหมู่ประชาชน ทำลายเศรษฐกิจไทยส่อพังทั้งระบบ คนจนพุ่ง และวิกฤตการณ์พยุงตนเองของชนชั้นกลางจะหนักมากขึ้น หากรัฐบาลไม่วางแผนแก้ไขปรับนโยบายให้ดีประเทศจะเสี่ยงมืดมน ” ซินแสเข่งกล่าว
