กรณีนายชัยวัฒน์ สายสีแก้ว แกนนำจัดกิจกรรมคาร์ม็อบยโสธร โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า “ได้เดินทางไป สภ.เมืองยโสธร เพื่อรับทราบ 3 ข้อกล่าวหา จากกรณีที่เข้าร่วมคาร์ม็อบยโสธร ที่มีการแถลงการณ์เรียกร้องต่อรัฐบาล และขอบคุณนายนพดล ชำนาญค้า (ปลัดแดง) ว่าที่ผู้สมัครสมาชิก ส.ส.พรรคก้าวไกล เขต 1 ยโสธร เข้าร่วมสังเกตการณ์พร้อมทั้งชำระเงินค่าปรับให้” นั้น
ล่าสุดวันที่ 26 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามไปยังนายชัยวัฒน์ ซึ่งได้เปิดเผยว่า เรื่องที่โพสต์ดังกล่าวเป็นความจริง ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองยโสธร เพื่อรับทราบ 3 ข้อกล่าวหากรณีจัดคาร์ม็อบยโสธร เมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยประกอบด้วยข้อหาร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่, ร่วมกันกระทำด้วยประการใดๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางทางจราจร และร่วมกันส่งเสียงทำให้เกิดเสียงอื้ออึง โดยไม่มีเหตุสมควร จนทำให้ประชาชนตกใจหรือเดือดร้อน ซึ่งก็มีนายนพดล ชำนาญค้า ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล ยโสธร เขต 1 เดินทางเข้าร่วมสังเกตการณ์ในการรับทราบข้อกล่าวหาและจ่ายค่าเปรียบเทียบปรับให้ในคดีดังกล่าวด้วย
นายชัยวัฒน์กล่าวต่อว่า การเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าว ยอมรับได้ เพราะถือว่าเป็นการเข้าร่วมเรียกร้องข้อเสนอต่อรัฐบาล ตามสิทธิ และเสรีภาพของพลเมืองคนหนึ่ง ในสถานการณ์ที่รัฐบาลบริหารบ้านเมืองที่ล้มเหลว สถานการณ์ที่ประชาชนไม่สามารถหวังพึ่งระบอบรัฐสภาได้ หรือแม้แต่ผู้แทนที่เราเลือกไปเพื่อเป็นปากเป็นเสียงแทน ที่ไม่ได้เห็นความสำคัญเรื่องคุณภาพชีวิตประชาชน ความมั่นคงในชีวิตของประชาชนเป็นหลัก กลับมุ่งเน้นพัฒนาแต่โครงสร้างพื้นฐานในวิกฤตที่ประชาชนกำลังลำบาก พวกเขากลับใช้โอกาสฉกฉวยหาผลประโยชน์เข้าหาตัวเอง รัฐบาลที่สามารถบริหารจัดการได้ แต่กลับไม่ทำ วัคซีนที่ดีมีคุณภาพประชาชนเรียกร้องทั้งประเทศ กลับได้วัคซีนคุณภาพต่ำ บุคลากรด่านหน้าที่ทำงานใกล้ชิดผู้ป่วยยังไม่สามารถเลือกวัคซีนเองได้ แล้วจะให้ประชาชนเชื่อมั่นในรัฐบาลอีกต่อไปได้อย่างไร
