ปิดวัดสวนแก้วหลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 หวั่นกลายเป็นคลัสเตอร์ใหม่ ด้านเจ้าหน้าที่ลงตรวจเข้ม
เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่วัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี จำนวน 47 ราย ผู้สื่อข่าวจึงเข้าพบพระราชธรรมนิเทศ หรือพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เพื่อสอบถามข้อมูล หลังทราบว่ามีคำสั่งจากเทศบาลตำบลบางเลนเพื่อปิดวัดสวนแก้ว และส่วนงานภายในวัดที่เกี่ยวข้อง ให้ผู้ปฏิบัติงานหยุดปฏิบัติงานเป็นการชั่วคราวโดยเด็ดขาด รวมทั้งบังคับให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.64 ถึงวันที่ 3 ก.ย.64 เพื่อให้ทำความสะอาดพื้นที่ในเขตวัดสวนแก้ว ดำเนินการพ่นยาฆ่าเชื้อในเขตวัด และดำเนินการตรวจเชิงรุกผู้ปฏิบัติงานในวัดสวนแก้ว
ล่าสุดวันนี้ นายวิทยา ชพานนท์ นายอำเภอบางใหญ่ ร่วมด้วย นายวรพจ พวงแย้ม นายกเทศบาลตำบลบางเลน อ.บางใหญ่ กำนันผู้ใหญ่บ้าน สาธารณสุขอำเภอบางใหญ่ พร้อมฝ่ายปกครอง พร้อมเจ้าหน้าที่เทศบาลบางเลน ลงพื้นที่ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโควิด-19 และตรวจที่กักตัวผู้ที่มีความเสี่ยงสูงบริเวณในสวนวัดสวนแก้วเพิ่ม
นายวิทยากล่าวว่า ขณะนี้ภาพรวมสถานการณ์ของ อ.บางใหญ่ ถือว่าดีขึ้น มีผู้ติดเชื้อรายวันก็ลดลงตามลำดับ ในส่วนพื้นที่บริเวณวัดสวนแก้วที่พบผู้ติดเชื้อโควิดตามที่มีข่าวออกไป ทางเทศบาล ต.บางเลน มีแผนงานจะทำการตรวจแบบ ATK (Antigent test kit) ซึ่งแผนงานดังกล่าวทางเทศบาล ต.บางเลน จะตรวจไปจนถึงสิ้นเดือน ส.ค.64 นี้ จำนวนสี่พันกว่าคน และทำการตรวจในพื้นที่บริเวณวัดสวนแก้วเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาจำนวนห้าร้อยกว่าราย พบผู้ติดเชื้อ จำนวน 49 ราย และได้ส่งตรวจ RP-TCR เพื่อยืนยันผลการตรวจ จึงได้ข้อสรุปคือการปิดวัดสวนแก้ว โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.64 ไปจนถึงวันที่ 3 ก.ย.64 และมีมาตรการควบคุมที่ค่อนข้างสูง เพราะจะแยกผู้มีความเสี่ยงสูงไว้อีกที่หนึ่ง ผู้ติดเชื้อก็แยกไว้อีกที่หนึ่ง ส่วนกลุ่มที่ไม่มีความเสี่ยงก็แยกไว้อีกที่หนึ่ง ในส่วนของผู้ติดเชื้อจะถูกแยกและพาไปรักษาที่ศูนย์ CI ที่โรงเรียนราชวินิตส่วนหนึ่ง และรักษาตัวอยู่ที่วัดส่วนหนึ่ง ซึ่งทางศูนย์จะมีเตียงรองรับถึง 490 เตียง แต่ตอนนี้มีผู้เข้ารับการรักษาแค่ 330 ราย
นายวรพจกล่าวว่า จากการที่พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ได้มีการให้ข้อมูลตามที่เป็นข่าวเมื่อวานนี้ถึงเรื่องที่หน่วยงานราชการได้มีการออกคำสั่งให้ปิดวัดซึ่งตนเองก็ไม่สบายใจ และในวันนี้จึงได้เดินทางมาเพื่อชี้แจง และนำเจ้าหน้าที่เข้ามาเพื่อทำการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อในบริเวณวัดสวนแก้ว ซึ่งในวันนี้จะมีการพูดคุยและแนะนำการปฏิบัติตัว เนื่องจากตอนนี้ได้มีคำสั่งจากทางราชการให้ปิดวัดสวนแก้วเป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.ไปถึงวันที่ 3 ก.ย.นี้ ซึ่งหลังจากวันที่ 3 ก.ย.64 ไปแล้วก็จะมีการลงพื้นที่ตรวจแบบสวอบอีกครั้ง เนื่องจากในเบื้องต้นได้มีการตรวจคัดกรองและพบผู้ติดเชื้อถึง 47 ราย ซึ่งทางวัดสวนแก้วเองมีเจ้าหน้าที่และหน่วยงานของทางวัดหลายหน่วย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่ขับรถรับของบริจาคต่างๆ ซึ่งในส่วนนี้หากมีการติดเชื้อก็จะเป็นการแพร่เชื้อให้ออกไปสู่ภายนอก ซึ่งอาจจะทำให้เกิดเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ขึ้นมาอีก
ในเบื้องต้นตอนนี้ได้มีการพูดคุยกับพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้วแล้วถึงแนวทางการแก้ไขหากพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก ในส่วนของการช่วยเหลือเยียวยานั้นคงต้องรอให้มีการพูดคุยของหน่วยงานที่ดูแลในด้านการช่วยเหลือและดูแลต่อไป
ขณะที่พระพยอม เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวว่า ทางวัดยินดีให้ความร่วมมือกับทางหน่วยงานราชการอยู่แล้ว และคิดว่าวิกฤตในครั้งจะต้องผ่านไปได้ เพราะเชื่อว่าความเป็นปกติย่อมมีมากกว่าความวิกฤตแน่นอน ซึ่งต้องถือว่าตั้งแต่ตั้งวัดมาเจอความยากลำบากที่สุดคือวิกฤตในครั้งนี้ ตอนน้ำท่วมเสียหายไปร้อยกว่าล้านเราก็ยังผ่านมาได้ ยุคฟองสบู่แตกเราก็ยังรอดมาได้ แต่ครั้งนี้ต้องยอมรับว่าหนักจริงเพราะมีเรื่องของการซื้อที่ดินให้คนยากจนเพื่อจะได้เพาะปลูก ทีนี้จะมีเรื่องของค่างวด เช่น ของเดือน ก.ย.นี้ 10 ล้าน และงวดของเดือน ธ.ค.64 อีก 30 ล้าน ถ้าหากหาไม่ทันไม่รู้ว่าเขาจะยึดที่รึเปล่า เพราะถ้าหากเขายึดที่คืนไปก็จะลำบาก ถ้าหากไม่เกิดสถานการณ์โควิด-19 ทางวัดก็สามารถหามาจ่ายได้สบาย ซึ่งในส่วนของการพบผู้ติดเชื้อโควิดในครั้งนี้ พระพยอมกล่าวอีกว่า ตอนนี้มีเจ้าหน้าที่เข้ามาแนะนำวิธีปฏิบัติและได้กักตัวผู้มีความเสี่ยงตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดแล้ว ในส่วนของการช่วยเหลือเยียวยานั้นก็แล้วแต่ความเมตตาของรัฐว่าจะช่วยเหลืออย่างไร ซึ่งทางวัดไม่ได้เรียกร้องอะไร และไม่ฟ้องเรียกค่าเสียหายอะไรทั้งนั้น พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวทิ้งท้ายว่า มีปัญหามา เราก็ช่วยกันแก้ไขไป ปัญหามีไว้แก้ ไม่ได้มีไว้กลุ้ม
