‘สสจ.ชัยภูมิ’ สั่งดำเนินคดี ร.ต.ท.เมืองปทุม รู้ตัวติดโควิด แต่ยังนำเชื้อไปที่บ้านแม่ยายพ่อตาในชัยภูมิ

“สสจ.ชัยภูมิ” สั่งดำเนินคดี ร.ต.ท.เมืองปทุมรู้ตัวติดโควิด แต่ยังนำเชื้อไปที่บ้านแม่ยายพ่อตาในชัยภูมิ

ล่าสุด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ มอบหมายให้นิติกรสำนักงานร่วมกับสาธารณสุขอำเภอเมืองชัยภูมิ เข้าแจ้งความเอาความผิดกับ ร.ต.ท.เมืองปทุมธานี ที่รู้ว่าตัวเองติดโควิด-19 แล้ว กลับบ้านภรรยาที่ จ.ชัยภูมิ จนนำเชื้อมาติดญาติคนในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ซึ่งมีทั้งภรรยา แม่ยาย พ่อตา ตรวจพบติดเชื้อโควิดร่วมไปด้วยแล้ว ขณะนี้ทั้งหมดรวม 4 ราย ด้านล่าสุดสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดภายในจังหวัดยังพุ่งสะสมแล้วกว่า 8,056 ราย เสียชีวิตรายวันเพิ่มอีก 1 ราย รวมแล้ว 68 ศพ ยังต้องจับตาเข้มคลัสเตอร์ปิดล็อกดาวน์ชุมชนขี้เหล็กใหญ่ ยังป่วยเพิ่มอีก 2 รายเป็นพนักงานเก็บขยะ ทม.

( 31 ส.ค.64 ) ล่าสุดวันนี้ กรณี ร.ต.ท.ติดโควิด นายแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ ในฐานะโฆษกคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชัยภูมิ ได้เปิดเผยถึง กรณีเมื่อวันที่ 28 ส.ค.2564 ที่ผ่านมา ได้มี ร.ต.ท สังกัด สภ.อ.เมืองปทุมธานี ที่มีผลรู้ว่าตัวเองติดโควิด-19 เมื่อวันที่ 25 ส.ค.2564 ที่ รพ.ตำรวจ ได้ขับรถกลับมาบ้านภรรยาที่ชัยภูมิ บ้านเลขที่ 66 หมู่ 11 บ้านคร้อ ต.นาฝาย อ.เมืองชัยภูมิ อยู่ร่วมกับญาติคนในบ้านดังกล่าวรวม 5 คน มีทั้งภรรยา แม่ยาย พ่อตา และพี่ชายภรรยา และเมื่อวันที่ 26 ส.ค.2564 ลูกชายที่กรุงเทพฯ ได้โทรมาแจ้งผู้ใหญ่บ้านทราบเรื่อง เร่งประสานให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมโรคติดต่ออำเภอและจังหวัดตรวจสอบ ว่าพ่อซึ่งเป็น ร.ต.ท.ตรวจพบเชื้อโควิด-19 ทำให้เกิดเรื่องวุ่นแตกตื่นให้กับชาวบ้านในพื้นที่ไปทั้งหมู่บ้าน

ทางผู้ใหญ่บ้านคร้อ หมู่ 11 ต.นาฝาย ได้ประสานนายอนุชา เจริญรักษ์ นายอำเภอเมืองชัยภูมิ และประสาน รพ.สต.ลงพื้นที่ บ้านดังกล่าวที่มีผู้อาศัยอยู่ด้วยกันทั้งหมดรวม 5 คน มีทั้งพ่อตา แม่ยาย ญาติ ภรรยา และตัว ร.ต.ท.ที่เดินทางมาจาก สภ.เมืองปทุมธานี และเมื่อวันที่ 27 ส.ค.64 ผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันได้เข้าตรวจโควิด-19 แล้ว 2 คน คือแม่ยายและญาติที่อยู่ด้วยกัน ผลตรวจออกมาแม่ยายเป็น positive ติดโควิด-19 ส่วนญาติที่อาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกันเป็น neg ซึ่งอีก 7 วัน ระหว่างนี้ให้กักตัวอยู่ที่บ้านรอดูอาการ 14 วัน และจะต้องเข้าตรวจโควิด-19 ซ้ำอีก 2 ครั้ง

Advertisement

 

ส่วนพ่อตาเป็นผู้ป่วยติดเตียง ยังไม่ได้เข้าตรวจโควิด-19 ส่วนภรรยาและ ร.ต.ท.มงคล ผู้ป่วยโควิด-19 แจ้งว่าตนเองเป็นผู้ป่วยโควิด-19 ในกลุ่มสีเขียว ขอมารักษาตัวอยู่ที่บ้านพร้อมภรรยา และยังไม่ยอมเข้าตรวจโควิด-19 อีกครั้ง และเก็บตัวอยู่ในบ้านไม่ยอมออกมาพบใคร ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ รพ.สต.นาฝาย ผู้ใหญ่บ้าน ได้พยายามจัดชุดเจ้าหน้าที่เข้าไปพูดคุย จนถึงเวลา 20.30 น.วันที่ 27 ส.ค.64 ทั้งตำรวจ สภ.เมืองชัยภูมิ เจ้าหน้าที่ รพ.สต.นาฝาย ผู้นำชุมชน และนายแพทย์จาก รพ.ชัยภูมิ ได้เข้าพบกับตัว ร.ต.ท.พูดคุยกันอีกครั้ง จนถึงเวลา 21.00น. ทั้งตำรวจ ร.ต.ท. และตัวภรรยา ที่มีผลตรวจว่าพบติดโควิด-19 แล้ว ได้ยอมออกมาขึ้นรถพยาบาลโรงพยาบาลชัยภูมิ ไปรักษาตัวผู้ป่วยโควิด-19 ที่โรงพยาบาลชัยภูมิแล้ว ท่ามกลางความโล่งใจของชาวบ้านในละแวกบ้านใกล้เคียง

Advertisement

และต่อมาทางชุดเจ้าหน้าที่ในวันที่ 28 ส.ค.64 เจ้าหน้าที่ ได้ขอเข้าไปนำทั้งตัวแม่ยาย และพ่อตา ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงเข้าตรวจหาเชื้อโควิด-19 และช่วยเหลือดูรักษาอาการป่วย ซึ่งผลตรวจยืนยันก็พบว่าติดโควิด -19 ทั้ง 2 คน ด้วยแล้ว ซึ่งรวมแล้วจากการเดินทางมาจาก จ.ปทุมธานี เพื่อกลับบ้านที่ จ.ชัยภูมิ ของ ร.ต.ท. รายนี้ที่รู้ว่าตัวเองติดโควิด-19 แล้ว มาอยู่ร่วมกับคนในบ้านหลังเดียวกันกับญาติดังกล่าวรวม 5 คน พบติด  โควิด-19 แล้วรวม 4 คน ส่วนพี่ชายภรรยาที่อยู่บ้านหลังเดียวกัน ผลตรวจครั้งแรกผลเป็นลบยังไม่ติด อยู่ระหว่างถูกกักตัว 14 วัน และรอตรวจหาโควิด-19 อีกยืนยันซ้ำอีกระยะ หากไม่ติด จึงจะให้ออกมาใช้ชีวิตตามปกติกับคนในชุมชนได้ต่อไป

ซึ่งกรณีของ ร.ต.ท.รู้ว่าตัวเองติดเชื้อแล้ว ที่เกิดขึ้น นายแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ ในฐานะโฆษกคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า กรณีนี้ถือว่าผู้ป่วยที่รู้ว่าตัวเองป่วยแล้ว ยังเดินทางมาจากต่างจังหวัดแล้วไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะนี้ สสจ.ชัยภูมิ ได้มอบให้ฝ่ายนิติกรประจำสำนักงานร่วมกับสาธารณสุขอำเภอเมืองชัยภูมิ ดำเนินการเข้าแจ้งความเอาความผิดกับ ร.ต.ท.เมืองปทุมธานี รายนี้ตามกฎหมายต่อไปด้วย ตามความผิด พ.ร.ก.ควบคุมโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ตามมาตรา 34 ที่ไม่ยอมแยกตัวเข้ารับการรักษา หากเป็นข้าราชการที่ควรจะรู้กฎหมายข้อระเบียบดีอยู่แล้ว ยังทำผิดเสียเองก็ต้องถือว่ามีความผิดเป็น 2 เท่า ทั้งวินัย และอาญา ซึ่งถึงแม้จะมีหนังสือส่งตัวมา ก็ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล สถานที่ปลอดภัยตามระเบียบคำสั่งของจังหวัดชัยภูมิ ด้วยหากไม่เข้ารับการรักษาจะเป็นการจงใจนำเชื้อมาติดให้กับคนอื่นอย่างเลี่ยงไม่ได้ในทุกกรณีจากนี้ต่อไปด้วย

ขณะที่ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ล่าสุดวันนี้ (31ส.ค.64) ยังพบผู้ป่วย โควิด-19 รายใหม่เพิ่มอีก 50 ราย ติดเชื้อในจังหวัดยังสูงรวมกว่า 18 ราย ซึ่งยังต้องจับตาติดตามสถานการณ์ล็อกดาวน์ปิดชุมชนขี้เหล็กใหญ่ บางส่วนใน 5 คุ้มหลังมาต่อเนื่องเป็นวันที่สาม เพื่อเร่งตรวจคัดกรองหาเชื้อคนในชุมชนกว่า 520 ครอบครัว ล่าสุดยังพบผู้ป่วยเพิ่มอีก 2 ราย ซึ่งเป็นพนักงานเก็บขยะของเทศบาลเมืองชัยภูมิ และในส่วนผู้ป่วยมาจากต่างจังหวัดเริ่มลดลงจากวันละมากกว่าหลักร้อยวันนี้ลดลงเหลือเพิ่ม 32 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมมีผู้เสียชีวิตสะสมแล้ว 68 ราย ผู้ป่วยสะสมแล้ว 8,056 ราย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image