เดือดร้อนกันหมด เจ้าของธุรกิจเอกชน แนะรัฐต้องช่วยทั้งประเทศ ไม่ใช่เฉพาะกลุ่ม

เดือดร้อนกันหมด เจ้าของธุรกิจเอกชน แนะรัฐต้องช่วยทั้งประเทศ ไม่ใช่เฉพาะกลุ่ม

วันที่ 31 สิงหาคม นายภาค วราธนานันท์ ประธานกรรมการบริษัท วราธนานันทน์ จำกัด บริษัท เค อาร์ โรจนทรัพย์ จำกัด และ บริษัท กิจชัยออโต้เวิคส จำกัด กล่าวว่า ในส่วนที่ภาครัฐได้กำหนดว่าจะคลายล็อกมองว่าเป็นเรื่องที่ดีทำให้ทุกคนมีความกระชุ่มกระชวยขึ้นมา ส่วนที่จะได้อะไรขึ้นมานั้นยังมองไม่เห็น แต่ท่านควรจะให้ยาบำรุงแบบทั้งประเทศ อย่าไปให้เพียงกลุ่มเดียว

นายภาคระบุว่า เอากันตรงๆเลยคือในกรณีที่รัฐบาลคลายล็อก อยากจะให้ส่วนพิเศษก็คืออุตสาหกรรม EEC ทางตะวันออกในเขต 4 จังหวัดที่ท่านทำอยู่ เพราะฉะนั้นอุตสาหกรรมทั้งประเทศที่ทำอยู่ ถ้าท่านให้สิทธิพิเศษเท่ากับ EC ทุกๆบริษัทสามารถทำแล้วสามารถเอาสินค้าไปแข่งขันกับต่างประเทศได้โดยที่ไม่มีคำจำกัดความที่มากเหมือนอย่างทุกวันนี้ ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มากเนื่องจากว่ารัฐให้เฉพาะกลุ่ม EECในกลุ่มของพวกผมทำงานกันมา 40-50 ปีต้องปิดแล้วไปอยู่กับอีซีหรือจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อที่ดินราคาหลักเป็นล้านทุกท้องที่ในประเทศไทยควรยกระดับขึ้นมาเหมือนกันหมดเพื่อการขับเคลื่อนยกระดับไม่มีเหลื่อมล้ำไม่มี 2 มาตรฐานวันนี้ที่รัฐบาลทำอยู่นี้มาตรฐานต่ำมาก

“พวกผมเป็นเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมผลักดันกันมาตั้งแต่ต้นจนรัฐบาลได้รับภาษีมาถึงขนาดนี้ แต่ขณะเดียวกันท่านไปให้จับ EEC เพียงน้อยนิดแต่ภาคอุตสาหกรรมอื่นไม่ต้องไปเลี้ยงเขาเหรอ และจะสู้เขาได้อย่างไร ถ้าไม่เหมือนกันมันสู้ไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าท่านยังลำเอียงและสองมาตรฐานเพราะฉะนั้นทั้งประเทศต้อง EEC เหมือนกันหมด ทุกอย่างที่จะเดินได้คนงานทั่วประเทศจะยกระดับรัฐบาลจะได้ภาษีมีธุรกิจที่หมุนเวียนคนงานจะมีงานทำภาคอุตสาหกรรมมีงานทำถามว่ารัฐบาลจะขาดทุนไม่มีภาษีได้อย่างไร ทุกอย่างมันมีรายได้มาจากภาคเอกชนไปสู่รัฐบาล”

Advertisement

นายภาค กล่าวว่า ส่วนอีกข้อหนึ่งขอเรียนไปถึงท่านนายกเลยว่าการที่ท่านประกาศเริ่มลดภาษีบาท 2 บาทประมาณนี้ท่านสั่งแล้วก็จะต้องปฏิบัติเลย ท่านสั่งแล้วก็ขอให้ปฏิบัติวันนี้เลย ไม่ใช่จะให้รอไป 6 เดือน 8 เดือน ขอย้อนไปถึงสรรพากรอีกว่า เวลาคุณเก็บภาษีผิดวันสองวันคุณเรียกภาษีเพิ่ม แต่เวลาคุณคืนภาษีล่าช้าเป็นปีอะไรที่ควรจะทำให้มันมีการพัฒนามากกว่านี้ได้หรือไม่บริการประชาชนให้รวดเร็วกว่านี้ ก็ขอฝากด้วยส่วนที่ทุกคนมุ่งหวังรอคอยท่านอยู่ก็คือระดับความเป็นอยู่ของประชาชนทั้งประเทศไปพร้อมกันใน ส่วนตัวยังไงก็สนับสนุนรัฐบาลให้ทำหน้าที่ไปตลอดรอดฝั่ง ขอให้ทำงานไวกว่านี้ เมื่อประกาศอะไรออกมาก็ให้ลงมือทำเลยไม่ต้องรอไป 6 เดือน 8 เดือนมันช้าเกินไป

ส่วนในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่าลืมว่าไหนว่าโรงแรมหรือสวนอาหารเขามีดอกเบี้ยที่จะต้องเสียไม่ใช่ท่านสั่งเปิดแล้วก็สั่งปิดสั่งเปิดแล้วก็สั่งปิดเอาคนงานมาทำได้ 2-3 วันของที่ซื้อมาก็เน่าเสียคาตู้เย็นท่านควรจะมองหรือให้การสนับสนุนเขาเต็มที่ไม่ว่าจะผ่อนปรนเรื่องภาษีหรืออะไรต่างๆ รวมทั้งเงินกู้ต่างๆในกลุ่มพวกผมไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวหรืออุตสาหกรรมต่างๆ ที่เป็นอยู่ที่ได้อานิสงส์จากท่าน ขอให้ท่านทำด้วยความจริงใจทำด้วยความรวดเร็ว สิ่งที่ท่านทำนี้ถูกแล้วแต่ก็ต้องรวดเร็ว เพราะโอกาสมันเดินแต่ละวันนี้พวกเรามีแรงหายใจทีละนิดทีละนิดมันไม่ท่วมปอด จะช่วยก็ขอให้ช่วยอย่างมีเหตุผลและศึกษาด้วย อย่างเช่นรถจอด 1 คันให้ 3,000 ซึ่งรถที่จอดวันเดียวเขามีรายได้ 4 – 5,000 บาทจะให้พวกผมช่วยตรงไหนเงินเดือนก็ต้องจ่ายลูกน้องเดี๋ยวก็มีสรรพากรประเมินภาษี เหตุการณ์อย่างนี้ประเมินกลางปีถ้าประเมินผิดก็ต้องมาเสียค่าเบี้ยปรับแล้วจะช่วยกันแบบไหน

ก็ขอให้รัฐบาลมีความจริงใจให้กลับภาคธุรกิจทั้งประเทศด้วย เนื่องจากทุกภาคส่วนมีความมุ่งหวังอยากให้เศรษฐกิจมันเดินไปได้ แม้แต่คนงานเพื่อนบ้านของประเทศเราเปรียบเสมือนเครื่องจักรตัวน้อยตัวหนึ่งถ้าเราไม่มีแรงงานเพื่อนบ้านมาช่วยอุตสาหกรรมภาคธุรกิจ

Advertisement

“ต่อข้อถามโควิดรอบแรกจนถึงรอนนี้มีผลกระทบมากน้อยเพียงใด เริ่มจากราคา NGV ซึ่งเป็นพลังงานทางเลือก จากเริ่มต้น start เราลงมือทำงานแปลงรถดีเซลเป็นรถ NGV ราคา 8 .50 บาท ตอนนี้ขึ้นไป 15 บาทกว่าเกือบเท่าตัวแล้ว แปลงรถดีเซลมาเป็น NGV หมดไปคันละ 500,000 บาท แต่ถ้าแปลง NGV กลับไปใช้น้ำมันดีเซลยกเครื่องทิ้งไปเลย หรือไม่ต่ำกว่า 4-5 แสนเหมือนกันถามว่ารัฐบาลทำอะไรอยู่ ทั้งค่าน้ำ ค่ามันน้ำ ค่าไฟฟ้ารัฐบาลคอนโทรลได้ ถ้ามันถูกลงเศรษฐกิจก็จะเดินไปได้คล่องไม่ใช่ไปติดกับทุกๆรัฐวิสหกิจอยากได้กำไรอยากได้กำไรประชาชนตายอย่างเดียว”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image