สกู๊ปหน้า 1 : เสียงจากร้านอาหาร หลังผ่อนปรนให้นั่งกินได้ ยอมเสี่ยงแลกมีเงินหมุน

สกู๊ปหน้า 1 : เสียงจากร้านอาหาร หลังผ่อนปรนให้นั่งกินได้ ยอมเสี่ยงแลกมีเงินหมุน

หลังศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ผ่อนคลายมาตรการในพื้นที่สีแดงเข้ม หรือพื้นที่ควบคุมสูงสุดและ

เข้มงวด 29 จังหวัด โดยให้กิจกรรม/กิจการบางประเภท กลับมาเปิดบริการได้อีกครั้ง โดยเฉพาะร้านอาหาร ที่ให้นั่งทานในร้านได้ถึงเวลา 20.00 น. แต่จำกัดจำนวนลูกค้าสำหรับร้านที่เปิดโล่งไม่เกิน 75% ของ

ที่นั่งทั้งหมด ส่วนร้านที่มีเครื่องปรับอากาศไม่เกิน 50% โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนนั้น ร้านอาหารในพื้นที่ต่างๆ เริ่มกลับมาเปิดบริการให้ลูกค้านั่งทานในร้านมากน้อยแค่ไหน ลองไปฟังนายกสมาคมภัตตาคารไทยและบรรยากาศร้านอาหารในจังหวัดต่างๆ

“ฐนิวรรณ กุลมงคล” นายกสมาคมภัตตาคารไทย ระบุว่า หลังรัฐบาลผ่อนคลายให้นั่งทานที่ร้านได้ จากการสำรวจภาพรวมนั้น พบว่าบรรยากาศการกลับมาเปิดร้านขายอาหารค่อนข้างดี ประเมินว่าน่าจะมี
ผู้ประกอบการทยอยกลับมาเปิดร้านเพิ่มขึ้นกว่า 80% ทั้งเดือนกันยายนนี้

Advertisement

โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่รอพนักงานกลับมาจาก ต่างจังหวัด เพราะต้องตรวจหาเชื้อโควิดรวมถึงต้องกักตัวดูอาการ 14 วันด้วยทำให้บางร้านยังไม่พร้อมที่จะเปิดร้านทันทีในวันที่ 1 กันยายน ส่วนผู้ประกอบการที่จะยังไม่กลับมาเปิดอีกครั้ง มีประมาณ 20% มีหลายสาเหตุ โดยเฉพาะร้านที่ปรับตัวขายอาหารผ่านออนไลน์ได้ ก็ยังเน้นขายดิลิเวอรีต่อไป เนื่องจากไม่ต้องเพิ่มต้นทุนในการเปิดหน้าร้าน และลดความเสี่ยง เพราะผู้ประกอบการบางส่วนเกรงว่าหากเปิดให้ลูกค้านั่งทานที่ร้านได้ อาจเสี่ยงติดเชื้อโควิดระหว่างลูกค้า พนักงาน และเจ้าของร้านได้ ส่วนการปฏิบัติตามมาตรการของสาธารณสุข ทำให้มีต้นทุนเพิ่ม อาทิ ทำความสะอาดทุก 1-2 ชั่วโมง การแยกอุปกรณ์ให้ลูกค้าใช้ส่วนตัว แต่พร้อมปฏิบัติตาม เพราะการเปิดร้านแล้วมีต้นทุนเพิ่ม ก็ดีกว่าต้องปิดร้านไม่มีรายได้เข้ามาหมุนเวียนเลย โดยเฉพาะร้านขนาดกลางขึ้นไป ที่มีลูกจ้างต้องดูแล ส่วนข้อจำกัดการเปิดร้านบุฟเฟต์จากที่ลงพื้นที่เห็นร้านเปิดให้บริการนั้นมีมาตรการป้องกันดีมาก อาทิ จำกัดคนเข้าต่อรอบไม่ได้เปิดให้ตักอาหารเอง และเว้นระยะห่างระหว่างโต๊ะ หากปฏิบัติอย่างเข้มข้นก็คงไม่น่ามีความน่ากังวลอะไร “ประเมินว่าธุรกิจร้านอาหารจะกลับมาฟื้นตัวอย่างเร็วที่สุดคงเป็นช่วงเดือนธันวาคม เพราะต้องใช้เวลาฟื้นตัวประมาณ 2 เดือน หากจะฟื้นตัวได้จริงๆ จะเป็นช่วงปีใหม่ เนื่องจากมีวันหยุดยาวต่อเนื่องหลายวัน มีการฉลองและจัดงานสังสรรค์ส่วนในระยะ 1-2 เดือนนี้ ความกังวลติดโควิดยังมีอยู่ ทำให้การฟื้นตัวยังไม่เต็มที่มากนัก”ฐนิวรรณระบุ

ลองไปสำรวจบรรยากาศร้านอาหารในจังหวัดต่างๆ “สงขลา”…ร้านก๋วยเตี๋ยว เจ๊เช็งเย็นตาโฟ อ.เมืองสงขลา เปิดให้นั่งรับประทานในร้านได้ โดยจำกัดให้นั่งโต๊ะละ 2 คน อีกทั้งจัดโต๊ะน้อยลง จากปกติมี 12 โต๊ะ เหลือเพียง 6 โต๊ะ

“ประพันธ์ ฉลวยธนาพร” เจ้าของร้านเจ๊เช็งเย็นตาโฟ ระบุว่า ปกติจะมีลูกค้าเต็มร้านช่วงเวลา 11.00-13.00 น. แต่เมื่อโควิดระบาด เราก็ปรับลดโต๊ะลง ต่อมา ศบค.ห้ามนั่งรับประทานในร้าน ก็เปิดขายเฉพาะหน้าร้าน ให้ซื้อกลับบ้าน ทำให้ยอดขายลดลง 50-70% เมื่อศบค.ผ่อนคลายให้นั่งทานในร้านได้ ก็มีลูกค้ากลับมาใช้บริกาเช่นเดิม แต่ยังไม่เหมือนปกติ เพราะลูกค้าบางส่วนยังคงกังวลกับการติดโควิด

Advertisement

“ร้านอาหารศิรดา” ร้านอาหารชื่อดังในตำบลเกาะยอ ก็กลับมาเปิดให้ลูกค้านั่งทานในร้านได้อีกครั้ง “สุภาพร สุวรรณโชติ” เจ้าของร้านศิรดาเล่าว่า การเปิดให้นั่งทานในร้านได้ ทำให้มีลูกค้ามาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น เพราะร้านเราตั้งอยู่ริมทะเลสาบสงขลา ลูกค้าชื่นชอบการ
นั่งรับประทานอาหารพร้อมชมทิวทัศน์ไปด้วย อีกทั้งร้านเปิดโล่ง จัดโต๊ะไม่แออัด พนักงานก็ฉีดวัคซีนแล้ว และสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า อย่างไรก็ตาม ใน จ.สงขลา ยังมีร้านอาหารบางส่วนยังไม่เปิดให้นั่งรับประทานในร้านได้ เนื่องจากยังกังวล เพราะในพื้นที่ยังพบผู้ป่วยติดเชื้อเฉลี่ยวันละ 100-300 คน

“ชลบุรี”…“สุริยัน เผื่อนผัน” เจ้าของร้านร้านโพธิ์ทะเลหลวง ซีฟู้ด ต.อ่างศิลา เผยว่า เมื่อโควิดระบาด ร้านต้องปิดไปแล้ว 4 ครั้ง
สถานการณ์แย่มาก ต้องปรับกลยุทธ์เพื่อความอยู่รอด เมื่อนั่งทานในร้านไม่ได้ ก็ขายผ่านออนไลน์ และขายหน้าร้านให้ซื้อกลับบ้าน โชคดีที่ยังมีลูกค้าเก่าๆ มาซื้อกลับไปทานที่บ้าน ทำให้อยู่รอดมาได้ การห้ามนั่งรับประทานในร้านส่งรับผลกระทบมาก แต่ต้องทนเพื่อเลี้ยงพนักงานกว่า 10 คนให้อยู่รอด จังหวัดชลบุรีให้นั่งรับประทานได้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน ก็พอมีลูกค้าบ้าง ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ และพื้นที่ใกล้เคียง ต้องลุ้นช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์นี้จะมีลูกค้ามากน้อยแค่ไหน “อยากฝากจังหวัดชลบุรีด้วย ขอให้ขยายเวลาปิดจาก 2 ทุ่มเป็น 3-4 ทุ่ม เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ทำงานเลิก 5 โมงเย็น กว่าจะกลับบ้านไปพาลูก-เมียออกมาทานอาหารนอกบ้าน
กว่าจะมาถึงร้านก็เกือบ 1 ทุ่ม กว่าอาหารจะเสร็จก็เกือบ 2 ทุ่มแล้ว ไม่มีเวลาทานอาหารแล้ว และต้องเผื่อเวลาเคอร์ฟิวอีกหลายคนจึงตัดสินใจอยู่บ้านดีกว่า” สุริยันฝากถึงจังหวัดชลบุรี

ขณะที่ “ประนอม ธีระทีป” เจ้าของร้านกินปูเจ้ต้อ ถนนสายอ่างศิลา เล่าให้ฟังว่า ช่วงโควิดระบาดส่งผลกระทบต่อร้านอาหารอย่างมาก หลังปิดร้านไปต้องกู้หนี้ยืมสินมาลงทุนรอบใหม่ เมื่อให้นั่งรับประทานในร้านได้ ก็มีลูกค้ามานั่งในร้านถึง 10 โต๊ะ ต้องลุ้นช่วงวันเสาร์-อาทิตย์นี้ จะมีนักท่องเที่ยวมามากน้อยแค่ไหน “ยืนยันว่าร้านนี้ฉีดวัคซีนครบทุกคนแล้ว ต้องดูแลตัวเองไม่ให้แพร่เชื้อไปสู่คนอื่น นอกจากนี้ลูกค้าก็ต้องดูแลให้ดีด้วยไม่เช่นนั้นหากโควิดระบาดในร้านอาหาร จะเดือดร้อนไปหมด อย่างไรก็ตามไม่อยากให้สั่งเหมาปิดทั้งหมดอีก แต่ควรปิดเป็นรายๆ ไป ไม่เช่นนั้นจะเดือดร้อนไปหมด และอยากให้ขยายเวลาให้ร้านอาหารปิด 4 ทุ่ม เพื่อจะมีเวลาขายมากขึ้น เพราะปิด 2 ทุ่มเร็วเกินไป ยังไม่ทันนั่งทานอาหารเลยก็หมดเวลาแล้ว” เจ้าของร้านกินปูเจ้ต้อแนะนำ

“นครปฐม”…“ภาสกร สุจริตบรรณ” หรือ “เสี่ยตุ้ม” เจ้าของแซ่บนัว ครัวศาลายา อ.พุทธมณฑล บอกว่าหลังรัฐผ่อนปรน ให้นั่งรับประทานที่ร้านได้ ทางร้านไม่เปิดบริการในห้องแอร์ และจัดลดโต๊ะลงเหลือ 70 โต๊ะ บนเนื้อที่ 5 ไร่ เว้นระยะห่างชัดเจน พนักงานบริการโซนใครโซนมัน

“การเปิดให้ร้านอาหารค้าขายได้ปกติ ผู้ประกอบการค้าเขารู้ว่าจะต้องปฏิบัติอย่างไร ร้านอาหารไม่ใช่คลัสเตอร์ ทุกคนที่มาใช้บริการก็เซฟตัวเอง ดังนั้น มั่นใจร้านอาหารได้ส่วนใหญ่สะอาด และอยากให้เปิดตลอดไป” เสี่ยตุ้มระบุ

“ขัตพันธ์ ชุมนุสนธิ์” หรือ “ดอกเตอร์ป้อง” เจ้าของร้านลิ้ม 2499 ในเขตเทศบาลนครนครปฐม บอกว่า ที่รัฐผ่อนปรนให้นั่งรับประทานในร้านได้นั้น ในเดือนกันยายนนี้เป็นการยืดหยุ่นทั้งลูกค้า และผู้ประกอบการ ส่วนการฉีดวัคซีน 2 เข็ม การตรวจเอทีเคจะไปบังคับในเดือนตุลาคม อย่างไรก็ตามหากร้านใดมีผู้ติดเชื้อ ก็ควรจะปิดเป็นรายๆ ไป ไม่ใช่สั่งเหมาปิดทั้งหมด

“การเปิดให้นั่งทานในร้านได้ เป็นความหวังครั้งใหม่ของผู้ประกอบการที่จะลุกขึ้นสู้ต่อ แต่เป็นโอกาสที่ปะปนด้วยความเสี่ยง ต้องปรับตัว ปรับมาตรการมากมาย มีต้นทุนสูงขึ้นทั้งเรื่องการจัดสถานที่แบบแนวนิวนอร์มอล การจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์การทำความสะอาดฆ่าเชื้อ การลดพื้นที่ใช้สอยลง อีกทั้งพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไป เริ่มเคยชินกับเทกโฮม” ดอกเตอร์ป้องสรุป

เป็นความเห็นและความหวังของผู้ประกอบการร้านอาหาร หลังผ่อนปรนให้ลูกค้านั่งรับประทานในร้านได้ ภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุขที่ยังเข้มงวด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image