กรณีเพจข่าวท้องถิ่นบึงกาฬได้รับเรื่องร้องเรียนว่า สาวบึงกาฬร้องสื่อ บ้านถูกปาระเบิด 4 ครั้ง แจ้งความ 2 ครั้ง คดีไม่คืบ ทั้งที่มีภาพวงจรปิดชัดเจน ที่เกิดเหตุบ้านเลขที่ 9849 หมู่ 9 บ้านโพธิ์ทอง ต.โนนสมบูรณ์ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ
เมื่อวันที่ 6 กันยายน ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุดังกล่าวพบ นายอารี บุตรดา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 บ้านโพธิ์ทอง ซึ่งเป็นลูกชายคนโตของบ้าน นายสุกัน กุมลา อายุ 52 ปี นางดำดี กุมลา อายุ 49 ปี เจ้าของบ้านเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า คืนวันเสาร์ที่ 16 พ.ค. เวลาประมาณ 01.30 น. ได้มีกลุ่มชาย 5-6 คน ขับขี่จักรยานยนต์มาจอดที่หน้าบ้าน แล้วลงจากรถโยนขวดพร้อมก้อนอิฐเข้ามาในบ้าน แต่ไม่มีใครตื่นมาดู จนถึงเช้าออกมาเปิดประตูหน้าบ้านพบเศษขวดเต็มหน้าบ้าน และยังค้างอยู่บนหลังคา
มีกระจกหน้าบ้านแตกเสียหาย โชคดีที่ยายกัญญา บุตรดา อายุ 83 ปี ที่นอนอยู่ข้างหน้าต่างไม่โดนเศษกระจกบาด และในทุกวันเสาร์ถัดไปกลุ่มชายดังกล่าวก็กลับมาก่อเหตุอีก โดยเวลาก็ประมาณ 01.42 น. ไล่เลี่ยกัน ครั้งที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ก็นำระเบิดแสวงเครื่องมาปาใส่หน้าบ้านตามคลิป หลังคาพัง ซึ่งได้ลงทุนซื้อกล้องวงจรปิดมาติดจนได้เห็นคลิปและติดไฟส่องสว่างเพิ่มเติม
หลังแจ้งความร้อยเวรก็ได้มาเก็บหลักฐานไปแล้ว ที่ผ่านมาก็ให้เวลาเจ้าหน้าที่ได้ทำงานแต่ไม่คิดว่าจะนานขนาดนี้ ก่อนหน้านี้ก็ได้ข่าวว่าจับตัวได้แล้วแต่ก็ปล่อยตัวไป ไม่เข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่เช่นกัน ทุกวันนี้ครอบครัวของตนอยู่ด้วยความหวาดระแวง ซึ่งทุกวันเสาร์จะพายายที่อายุมากแล้วเข้าไปนอนในหมู่บ้านกับลูกอีกคน กลัวว่ากลุ่มคนดังกล่าวจะกลับมาก่อเหตุอีก เกรงจะได้รับบาดเจ็บและช็อกด้วยความตกใจ
นายอารี บุตรดา (ใส่หมวก) ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 บ้านโพธิ์ทอง กล่าวว่า บ้านหลังนี้เป็นบ้านของแม่ อยากให้เจ้าหน้าที่เร่งหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยเร็วเนื่องจากเหตุนี้ปล่อยมานานจนเข้าเดือนที่ 4 แล้ว จับคนได้ก็ไม่ดำเนินการใดๆ กลับปล่อยออกไป ซึ่งก็ขอความเป็นธรรมและเห็นใจประชาชนที่เดือดร้อนด้วย
ด้านสถานีตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ ได้ออกชี้แจงผ่านทางเฟซบุ๊กของ สภ.เมืองบึงกาฬ ว่า สภ.เมืองบึงกาฬ ขอเรียนว่าคดีนี้ทุกฝ่ายพยายามแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานมาโดยตลอด แม้กระทั่งไปซุ่มดักในบริเวณที่เกิดเหตุอยู่หลายครั้ง จนกระทั่งได้ตัวผู้ต้องสงสัยและรถ จยย.มาให้ผู้เสียหายดูแต่ก็ไม่ยืนยัน และไม่ได้แจ้งข้อเท็จจริงที่เป็นประโยชน์ได้ทราบ หากแต่ขณะนี้ได้รวบรวมพยานหลักฐานค่อนข้างมีน้ำหนักพอที่จะขอความเห็นชอบต่อศาลเพื่อออกหมายจับผู้ก่อเหตุได้ในเร็วๆ นี้
อนึ่ง ขอให้ทุกท่านเข้าใจขั้นตอนในการดำเนินคดีตามกฎหมาย ต้องใช้เวลาในการรอผลตรวจของกลาง, พยานหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้แจ้งความคืบหน้าให้ผู้เสียหายรับทราบเป็นระยะแล้ว และหากมีการจับผู้ก่อเหตุโดยหลักฐานอ่อนไม่เพียงพอต่อการรับฟังของอัยการหรือศาลจะยิ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อทุกฝ่ายขึ้นได้ครับ
ล่าสุด ได้รับการยืนยันว่าศาลจังหวัดบึงกาฬได้ยกคำร้องออกหมายจับ แต่ให้ สภ.เมืองบึงกาฬ ทำหมายเรียกให้ผู้ต้องสงสัยมารายงานตัวภายใน 3 วัน หากไม่มาตามหมายเรียก ศาลจะดำเนินการออกหมายจับให้ทันที
