หอการค้าประจวบฯหวั่นซ้ำรอย ‘ภูเก็ตแชนด์บ็อกซ์’ แนะเลื่อนเปิด ‘หัวหินรีชาร์จ’

หอการค้าประจวบฯหวั่นซ้ำรอยภูเก็ตแชนด์บ็อกซ์ แนะเลื่อนเปิดโครงการหัวหินรีชาร์จ ประเมินพบยังไม่พร้อม หวั่นคลัสเตอร์โควิดพุ่ง

วันที่ 7 กันยายน นายนิพนธ์ สุวรรณนาวา ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์หอการค้าและสภาอุตสาหกรรมจ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ก่อนที่รัฐบาลจะตัดสินใจเปิดโครงการหัวหิน รีชาร์จ ตามเป้าหมายในเดือนตุลาคม 2564 เพื่อเปิดเมืองหัวหินต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่กักตัว ขอให้ย้อนไปศึกษาบทเรียนจากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ก่อนหน้านี้หลายฝ่ายคาดว่าเปิดพื้นที่เกาะที่มีการควบคุมแล้วจะได้ผลดีในการควบคุมโรค แต่ปรากฏว่ายังมีผู้ติดเชื้อโควิดจำนวนมาก ขณะที่ปัจจุบัน อ.หัวหินมีผู้ติดเชื้อโควิดมากที่สุดในจังหวัด มีคลัสเตอร์ใหม่ต่อเนื่อง

“จากการประเมินพบว่าหัวหินยังไม่พร้อม 100% เนื่องจากขาดการมีส่วนร่วมจากประชาชน ผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหารส่วนใหญ่ ต้องปรับตัวให้มีมาตรฐาน ต้องใช้งบลงทุนเพื่อรับนักท่องเที่ยว หน่วยงานภาครัฐยังไม่พร้อมในการใช้กฎหมายควบคุม ขณะที่การเปิดเมืองจะมีอานิสงส์โดยตรงกับผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีทุนสูง ประกอบกับ จ.ประจวบคีรีขันธ์กับมีพื้นที่ชายแดนติดกับประเทศพม่ายาวกว่า 200กิโลเมตร จึงมีความเสี่ยงกับคลัสเตอร์ใหม่ จากแรงงานเถื่อนหลบหนีเข้าเมืองไปทำงานในโรงงานสับปะรดหรือแคมป์คนงานก่อสร้างได้ตลอดเวลา ดังนั้นหัวหินควรเลื่อนการเปิดเมืองออกไปก่อนจนกว่าจะมีความพร้อม สามารถเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวกับ อ.ปราณบุรี และ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี” นายนิพนธ์ กล่าว

นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า การเปิดเมืองหัวหินในไตรมาส 4 มีการประมาณการรายได้ไว้ 1,200 ล้าน เชื่อว่าไม่น่าจะเป็นไปตามเป้าหมาย เพราะต่างชาติโดยเฉพาะจีนและยุโรปมีคำเตือนสำหรับการเดินทางมาประเทศไทย นอกจากนั้นการระบาดของโควิดใน กทม .และจังหวัดรอบปริมณฑลยังมีปัญหาในการเดินทางและมีมาตรการเข้มงวดจาก ศบค. รวมทั้งการเดินทางผ่าน จ.สมุทรสาคร จ.สมุทรสงคราม ที่มีการโรคระบาดค่อนข้างสูง เชื่อว่าบรรยากาศการท่องเที่ยวในไตรมาส 4 โดยภาพรวมในจังหวัดภาคตะวันตก ยังไม่สามารถทำกิจกรรมการท่องเที่ยวได้ตามปกติ ขณะที่การฉีดวัคซีนให้ครบตามเป้าหมายยังเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการควบคู่ไปกับการสกัดกั้นเชื้อกลายพันธ์สายพันธ์ใหม่ที่พบว่ามีการระบาดแล้วในบางประเทศ

นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุข( สสจ.)ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า โครงการเปิดเมืองหัวหินติดขัดปัญหากรณีผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหารที่หัวหินผ่านเกณฑ์มาตรฐาน SHA และ SHA+ ค่อนข้างน้อยไม่ถึงร้อยละ 50 ดังนั้นผู้ประกอบการควรร่วมกันปฏิบัติตามมาตรฐานดังกล่าวโดยเร็วเพราะเป็นเรื่องสำคัญในการเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยว เนื่องจากมาตรฐาน SHA และ SHA+ จะมีข้อกำหนดการปฏิบัติตัวสำหรับผู้ให้บริการและลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ รวมถึงการจัดสถานที่ตามหลักการด้านสาธารณสุขซึ่งช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของโรค

Advertisement

นายอุดม ศรีมหาโชตะ อุปนายกสมาคมโรงแรมไทย ที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวหัวหิน – ชะอำ กล่าวว่า ไม่ต้องการให้การเปิดเมืองหัวหินมีปัญหาเหมือน จ. ภูเก็ต ซึ่งมีการประกาศมาตรการเข้าออกเมืองเข้มงวด ส่งผลกระทบกับกลุ่มนักท่องเที่ยวคนไทยจะไม่เดินทางมาท่องเที่ยวหัวหิน ผู้ประกอบการได้พิจารณาผลดีผลเสีย ผลกระทบกับนักท่องเที่ยวคนไทยที่จะลดลง แต่ชาวต่างชาติจะเข้ามาทดแทนได้จริงหรือไม่ มีรายได้ตามเป้าหมาย 1200 ล้านบาทในไตรมาส 4 หรือไม่ ยังมีปัจจัยชี้วัดอีกหลายประการ สำหรับหัวหินมีสัดส่วนนักท่องเที่ยวไทย 75% ต่างชาติเพียง 25% ไม่เหมือนภูเก็ตที่เน้นนักท่องเที่ยวต่างชาติเกือบ 90-100% ยืนยันว่าช่วงเดือนตุลาคมเป็นต้นไปคนไทยจะมาเที่ยวหัวหินมากกว่าชาวต่างชาติ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image