นาทีระทึก! เจ้าหน้าที่ปีนหลังคาช่วยชายคลุ้มคลั่งเสพยาเกินขนาด ได้อย่างปลอดภัย
ภาพเหตุการณ์นาทีระทึก เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอจะนะ ขึ้นไปควบคุมตัวชายคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้าเกินขนาด ปีนขึ้นไปนอนบนหลังคาบ้าน 12 ชั่วโมง นำตัวลงมาได้อย่างปลอดภัย ยังอยู่ในอาการหลอน บอกว่ามีคนส่งกระแสจิตให้หนีขึ้นไปบนหลังคาเพื่อความปลอดภัย และได้ส่งกระแสจิตไปบอกอำเภอและตำรวจทราบให้รีบหนีขึ้นหลังคา เคยเข้าบำบัดยาเสพติดและอาการทางจิตมาแล้วและอาการดีขึ้นจนออกมาบวช 15 วัน และกลับมาอยู่กับย่า แต่ไม่ยอมกินยา กลับไปเสพยาบ้าแทนจนหลอนและคลั่งหนัก
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 7 กันยายน มีเหตุการณ์นาทีระทึก นายยุทธนา เจ้าดูรี นายอำเภอจะนะ นายอภิสิทธิ์ ดิสรังโส ปลัดอำเภองานป้องกัน และนายสุรพงค์ สุวรรณเจริญ ปลัดอำเภองานปกครอง นำกำลังสมาชิก อส.อำเภอจะนะที่ 9 จำนวน 9 นาย และผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านบ้านท่าล้อ หมู่ 3 ต.สะพานไม้แก่น อ.จะนะ จ.สงขลา
ช่วยกันขึ้นไปควบคุมตัว นายอนุชิต รุ่นนวล อายุ 23 ปี ซึ่งเกิดอาการคลุ้มคลั่งจากฤทธิ์ยาบ้าที่เสพเข้าไป และเปิดหลังคาบ้านพักในพื้นที่หมู่ 3 บ้านท่าล้อ ต.สะพานไม้แก่ ขึ้นไปนอนอยู่บนหลังคาบ้านนานเกือบ 12 ชั่วโมง ตั้งแต่ 20.00 น.จนถึง 08.00 น.
รายงานข่าวว่า เจ้าหน้าที่ตัดสินใจขึ้นไปควบคุมตัวลงมาได้ด้วยความทุลักทุเล และต้องทำอย่างรัดกุมและปลอดภัยที่สุดเพราะเสี่ยงกระเบื้องหลังคาแตกและร่วงตกลงมาได้ สุดท้ายก็สามารถพาตัวลงมาได้อย่างปลอดภัยทางช่องกระเบื้องที่นายอนุชิตเปิดออกและปีนขึ้นไป
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นายอนุชิตยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่ง โวยวายพูดจาไม่รู้เรื่อง บอกว่าได้รับสัญญาณลึกลับทางกระแสจิตให้หนีขึ้นไปบนหลังคาบ้านเพื่อความปลอดภัย และ ตัวเองยังได้ส่งสัญญาณทางจิตไปบอกที่เจ้าหน้าที่อำเภอจะนะและตำรวจ สภ.จะนะแล้วด้วยว่าให้เจ้าหน้าที่รีบหนีขึ้นไปบนหลังคาด้วย เล่นเอาเจ้าหน้าที่มึนตึ้บไปตามๆ กัน
รายงานข่าวว่า เจ้าหน้าที่นำตัวลงมาจากหลังคาบ้านได้ และได้พาตัวขึ้นรถกระบะไปส่งที่โรงพยาบาลจะนะเพื่อให้แพทย์จิตเวชรักษาอาการทางจิตที่เกิดจากการเสพยาบ้าเกินขนาดจนทำให้ประสาทหลอน
นายอภิสิทธิ์เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วง 2 ทุ่มเมื่อคืน ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอจะนะได้รับแจ้งจากทางผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 บ้านท่าล้อ ว่ามีชายคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้าปีนขึ้นไปนอนบนหลังคาบ้านหลังนี้ และไม่ยอมให้ใครขึ้นไปช่วยหรือเข้าใกล้
เจ้าหน้าที่จึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบแต่ตอนเกิดเหตุไม่สามารถขึ้นไปบนหลังคาได้เพราะมืด และไม่รู้ว่ามีอาวุธหรือไม่ และนายอนุชิตยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งอย่างหนักพูดไม่รู้เรื่องกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย
ได้ให้ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและญาติเฝ้าดูนายอนุชิตทั้งคืนต่อเนื่องจนถึงเช้าเพื่อให้คลายอาการจากฤทธิ์ยาและอาการคลุ้มคลั่ง กระทั่งนายอนุชิตเริ่มมีท่าทีอ่อนล้าและอ่อนเพลีย เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจขึ้นไปล็อกตัวนำตัวลงมาได้อย่างปลอดภัย
จากการสอบถามญาติทราบว่า ก่อนหน้านี้นายอนุชิตเคยเข้ารับการบำบัดยาเสพติดและอาการทางจิตจากแพทย์จิตเวชจนอาการดีขึ้น และออกจากโรงพยาบาลไปบวชพระที่ จ.นครศรีธรรมราช 15 วัน และสึกออกมาได้ 1 เดือน โดยมาอาศัยอยู่กับย่าที่บ้านเกิดเหตุสองคนได้ประมาณ 1 เดือน ปรากฏว่าไม่ได้กินยาจิตเวชตามที่แพทย์สั่ง และหันมาเสพยาบ้าแทน จึงทำให้เกิดอาการหลอนจนคลุ้มคลั่ง และเมื่อถามถึงลูกถึงเมียนายอนุชิตก็ถึงกับนิ่งเงียบและน้ำตาซึมออกมา
