หนุ่ม 21 ซิ่งกระบะแซงซ้าย แต่ไม่พ้นชนท้ายจยย.2 ผัวเมียเจ็บหนัก ก่อนพุ่งอัดเสาไฟฟ้า
เมื่อเวลา 13.10 น. วันที่ 7 กันยายน ร.ต.ท.ชัยสิทธิ์ วิบูลย์ธรรม รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองจันทบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุกู้ภัย สมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถาน จันทบุรี ว่ามีอุบัติเหตุ รถกระบะเฉี่ยวชน รถ จยย. และเสาไฟฟ้าแรงสูง ทำให้มีผู้บาดเจ็บถึง 3 ราย โดย 1 ใน 3 ราย บาดเจ็บอาการสาหัส โดยเหตุเกิดบนถนนรักศักดิ์ชมูล หมู่ 4 ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.จันทบุรี
หลังรับแจ้ง ได้ประสานทีมเวชกรฉุกเฉิน รพ.พระปกเกล้าฯ และกำลัง เจ้าหน้าที่กู้ภัย ฯ ร่วมเดินทางตรวจสอบ และให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
ที่เกิดเหตุ เป็นถนนขาเข้าตัวเมือง พบรถ จยย.ยามาฮ่า ฟีโน่ สีขาวคาดเขียว หมายเลขทะเบียน ขงข-338 จันทบุรี ล้มคว่ำอยู่ข้างถนน สภาพมีร่องรอยถูกชน ด้านท้ายพังเสียหาย โดยมี นายทวีวัฒน์ ชนะมูล อายุ 47 ปี คนขี่ได้รับบาดเจ็บที่ขาขวาทางเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น
ใกล้กัน พบผู้บาดเจ็บอีกราย ทราบชื่อคือ น.ส.อรุณี ชนะมูล อายุ 39 ปี ภรรยา
นายทวีวัฒน์ ที่นั่งซ้อนท้ายมาด้วย ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทีมเวชกรฉุกเฉินและเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนรีบนำตัวส่ง รพ.พระปกเกล้าฯ เพื่อให้แพทย์ทำการรักษาต่อ
ห่างกันเล็กน้อย พบรถกระบะ อีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน บษ-2149 จันทบุรี เสียหลักจอดขวางกลางถนน สภาพหน้ารถ ถูกแรงชนจนล้อแม็กแตกพังเสียหาย โดยมี นายชาญยุทธ สุขยิ่ง อายุ 21 ปี คนขับคู่กรณี ได้รับบาดเจ็บที่แขนขวา ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ระหว่างรอให้ปากคำกับตำรวจ นอกจากนี้ ในที่เกิดเหตุ ยังพบเสาไฟฟ้าแรงสูงข้างทาง มีร่องรอยถูกรถกระบะพุ่งชนจนแตกร้าวเสียหาย ทางเจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนของ ร.ต.ท.ชัยสิทธิ์ วิบูลย์ธรรม ร้อยเวรเจ้าของคดี เบื้องต้น นายทวีวัฒน์ คนขี่รถ จยย.ให้การว่า ขณะเกิดเหตุได้ขี่รถซ้อนภรรยา ออกมาจากบ้านเพื่อจะไปซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบริเวณที่เหตุ ได้มีรถกระบะคู่กรณี ขับตามหลังมาด้วยความเร็ว พร้อมพยายามเร่งเครื่องแซงขึ้นมาทางด้านซ้าย แต่เนื่องจากฝนที่เพิ่งหยุดตก ทำให้พื้นถนนลื่น ส่งผลทำให้รถกระบะ แซงไม่พ้นได้พุ่งชนท้ายรถตนเองจนล้มลง ทำให้ตนและภรรยา ไถลไปกับพื้นถนนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่รถกระบะได้เสียหลักพุ่งไปชนเสาไฟฟ้าแรงสูงซ้ำ
อย่างไรก็ตาม สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ อยู่ในระหว่างการสอบสวนของทางตำรวจ ทั้งนี้จะได้ทำการตรวจสอบร่องรอยในที่เกิดเหตุ พร้อมกับสอบปากคำพยานแวดล้อมไว้เป็นหลักฐาน ตลอดจนตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดใกล้เคียง ในการสรุปสาเหตุที่แน่ชัด เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดี แก่ผู้ที่กระทำความผิดต่อไป
