ระดมทีมค้นหา ชายวัย 56 เข้าป่าหาเห็ดกลางคืน หายตัวนาน 3 วันแล้ว

ระดมทีมค้นหา ชายวัย 56 เข้าป่าหาเห็ดกลางคืน หายตัวนาน 3 วันแล้ว

เมื่อวันที่ 15 กันยายน ที่บริเวณแปลงเกษตรอินทรีย์ บ้านโพธิ์ศรีสำราญ หมู่ที่ 13 ต.หัวนา อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันประชุมวางแผน ติดตามหา นายวัชระ สิงห์ทอง อายุ 56 ปี ที่ได้ออกเดินทางเข้าป่าภูเก้า ภูเขาทางทิศตะวันออกของหมู่บ้าน ตั้งแต่เมื่อเวลา 17.00 น.ของวันที่ 13 กันยายน 2564 กับเพื่อนบ้านอีก 2 คน เพื่อหาเก็บเห็ดในช่วงเวลากลางคืน

แต่ด้วยฝนตก และสภาพป่ารก ทำให้มองหากันไม่เห็น กระทั่งรุ่งเช้าของวันที่ 14 กันยายน เพื่อนยังไม่มา เพื่อนอีก 2 คนที่ไปด้วยกันจึงได้นำเห็ดลงมาขาย และแจ้งเรื่องที่นายวัชระหายไป ให้ทางผู้ใหญ่บ้านทราบ และได้ระดมค้นหาอย่างต่อเนื่อง ทั้งทีม เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลหัวนา และ กู้ภัยนเรศวร กู้ภัยคุณธรรม พร้อมผู้ชำนาญการเดินป่า

นายพิทักษ์ สุภา นายกเทศมนตรีตำบลหัวนา กล่าวว่า นายวัชระ สิงห์ทอง กับเพื่อนรวม 3 คน ที่พลัดหลงเพื่อนนั้น ไม่ค่อยเคยเข้าป่าและไม่มีความชำนาญทาง ไปด้วยกันมีความชำนาญทาง 2 คน ส่วนคนที่หายไปนั้นไม่มีความชำนาญทาง ประกอบกับป่าแห่งนี้มีพื้นที่กว้างใหญ่มาก จากภูเก้า ภูหัน ภูเมย ลำน้ำบอง หากไม่มีความชำนาญแล้วจะหลงได้ ทราบว่าในช่วงค่ำ ทั้ง 3 คนได้ไปนั่งกินข้าว บริเวณลานหินที่กว้างก่อนที่จะออกส่องหาเห็ด เมื่อพลัดหลงกัน เพื่อนที่ไปด้วยกัน 2 คน ก็มานั่งคอยตั้งแต่เที่ยงคืนรอจนกระทั่งเช้าก็ยังไม่เห็นมา จึงได้นำเอาเห็ดลงมาขายก่อน และแจ้งให้ ผู้ใหญ่บ้านทราบ ก็ยังหนักใจอยู่ว่า ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ฟ้าปิดมองไม่เห็นทิศทาง โดยทางเทศบาลหลังจากที่ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้าน ก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกค้นหา

Advertisement

ทางด้าน นายกิตติพงษ์ บุรีเลิศ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านดอนหัน ที่มีความชำนาญในการเดินป่าในพื้นที่ บริเวณดังกล่าว เล่าว่า พื้นที่นี้ผู้หลงป่าหากันไม่เจอนั้น ในช่วงเวลา 2-3 ทุ่มนั้น ทั้ง 3 คน ได้ไปนั่งกินข้าวอยู่ด้วยกัน บริเวณลานหิน ที่เรียกว่าถ้ำเม่น จะมีที่พักสงฆ์ ถ้ำพระ หรือจะเรียกว่าอ่างกบบ้านทรายงาม จะมีอ่างน้ำ มีน้ำใช้ตลอดปี ภูมิศาสตร์แถวนี้จะมีแต่หินก้อนใหญ่ๆ เดินไปมาก็มองหากันไม่เห็นแล้ว มีโอกาสพลัดหลงได้ มองเห็นกันในระยะ 1 เมตรกว่า เสียงน้ำดัง ฝนตกตลอด คนที่ไม่ชำนาญทางจะหลงได้ ส่วนเรื่องความเชื่อของเจ้าป่า เจ้าของนั้นชาวบ้านแถวนี้เชื่ออยู่แล้ว

ส่วน ส.อ.เศกสรรณ์ โทไข เจ้าพนักงานป้องกันเทศบาลตำบลหัวนา ชี้แจงว่า ในช่วงนี้เป็นฤดูฝนวิสัยทัศน์ในการมองเห็นน้อย ด้วยผู้ประสบภัยไม่เคยขึ้นบนเขา ไม่ชินทาง ไม่คุ้นเคยกับภูเขา และเป็นเวลากลางคืน ทำให้เกิดการพลัดหลงได้ง่าย โดยขณะที่ออกหาเห็ดนั้น เพื่อนที่ไปด้วยกัน จะเรียกหากันเป็นระยะป้องกันการหลงป่า แต่ฝ่ายผู้ที่หลงป่าหากันไม่เจอนั้น จะเป็นคนไม่ค่อยพูดด้วย เรียกแล้วก็ไม่ค่อยขานรับเพื่อนก็คิดว่าน่าจะอยู่บริเวณนั้น แต่เมื่อหากันไม่เจอ ก็เลยกลับมานนั่งรอที่กินข้าวก่อนออกหาเห็ด แต่ก็ไม่มา จนกระทั่งเช้า เพื่อน 2 คน จึงเดินทางกลับ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image