มวลน้ำเอ่อล้นหลายพื้นที่ในสุโขทัย พระเณรต้องจูงควายลุยหนีน้ำที่สูง 1.5 ม.
เมื่อวันที่ 22 กันยายน หลังจากมวลน้ำจากอ่างเก็บน้ำแม่มอก อ.เถิน จ.ลำปาง เอ่อล้นสปิลเวย์ เนื่องจากมีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน จนมวลน้ำไหลทะลักลงมาที่ อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย แผ่ขยายวงกว้างมากขึ้น
โดยไหลเข้าท่วมในพื้นที่ ต.บ้านไร่ ต.ทับผึ้ง ต.วังใหญ่ของ อ.ศรีสำโรง และพื้นที่ ต.บ้านกล้วย ของ อ.เมืองสุโขทัย อีกทั้งในเขต อ.เมืองสุโขทัย ที่ ต.บ้านกล้วย ยังได้รับผลกระทบจากน้ำอ่างเก็บน้ำแม่ลำพัย อ.บ้านด่านลานหอยที่เกิดมีฝนตกต่อเนื่องจนน้ำล้นสปิลเวย์เช่นกัน ทำให้น้ำไหลลงมายังพื้นที่ตำกว่าเข้าท่วม ใน ต.เมืองเก่า และ ต.บ้านกล้วย อ.เมืองสุโขทัย ทำให้บ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรต้องจมอยู่ใต้น้ำ สูงประมาณ 70 ซม.- 1เมตร ชาวบ้านกว่า 500 หลังคาเรือน ได้รับความเดือดร้อน
มวลน้ำดังกล่าวได้ไหลทะลักเข้าท่วมในพื้นที่ บ้านหางคลอง ม.5 ต.บ้านกล้วย อ.เมืองสุโขทัย ทำให้ชาวบ้านต้องรีบขนย้ายข้าวของจำเป็นขึ้นที่สูง นอกจากนี้ที่วัดพลายชุมพล ม.5 ต.บ้านกล้วย พระปลัดวัฒนา สิริสุวัณโณ เจ้าอาวาส พร้อมพระลูกวัด ช่วยกันขนกระสอบทรายมาทำเป็นแนวกั้นน้ำ และต้องรีบขนย้ายควายเผือก ที่ทางวัดเลี้ยงไว้ในคอกหลังวัดที่เป็นพื้นที่ต่ำ จำนวน 6 ตัว มีหนึ่งตัวที่ท้องแก่ใกล้คลอด และลูกควายเผือกอีก 1 ตัว ลุยหนีน้ำสูงกว่า 1.50 เมตร ออกมาอยู่บนที่สูงที่ทางวัดจัดเตรียมไว้ให้ควายเผือกทั้ง 6 ตัวอยู่ เป็นการชั่วคราว จนกว่าน้ำจะลดลง
ขณะที่นายสุชาติ ทีคะสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ได้นำเรือไฟเบอร์จากป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยมาช่วยเหลือวัดเพื่อให้วัดได้ใช้ในการเดินทางเข้าออกวัด เนื่องจะในช่วงนี้ ระดับน้ำในลำน้ำแม่ลำพัน ณ บริเวณนี้ ยังคงมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอยู่ในช่วงนี้ ขอประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ ให้ระมัดระวังเรื่องระดับน้ำที่มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นในช่วงนี้
ขณะนี้ปริมาณน้ำจากลำน้ำแม่ลำพันและแม่มอก ได้แผ่ขยายออกเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะที่ อ.ศรีสำโรง น้ำจากลำน้ำแม่มอกได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่ทางกาเกษตร ต.บ้านนาต้นจันทร์ ต.บ้านไร่ ต.วังใหญ่ อ.ศรีสำโรง สุดลูกหูลูกตา มองไปทางไหนก็จะเห็นแต่ท้องน้ำ โดยในขณะนี้ทาง อ.ศรีสำโรง ได้เร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนต่อไป ขณะที่ในส่วนของ อ.เมืองสุโขทัย ระดับน้ำที่ท่วมขังใน ต.เมืองเก่าเริ่มลดลง และได้ไหลไปเพิ่มปริมาณน้ำ ที่ ม.5 ต.บ้านกล้วย ชาวบ้านกว่า 20 ครอบครัวยังคงได้รับความเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้
