‘ชัยภูมิ’ ประกาศเขตภัยพิบัติน้ำท่วมหนัก 8 อำเภอ จับตาสถานการณ์ 3 พื้นที่ต่อเนื่อง เร่งช่วยผู้ได้รับความเดือดร้อน
เมื่อวันที่ 26 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ หลังจากได้รับอิทธิพลพายุ “เตี้ยนหมู่” ทำให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา โดยมีประชาชนระบุว่า น้ำท่วมครั้งนี้หนักสุดในรอบกว่า 50 ปี นอกจากนี้ยังเกิดน้ำป่าหลากไปหลายทิศทาง ท่วมทั้งหมด 16 อำเภอของ จ.ชัยภูมิ แล้ว
ด้าน อ.บำเหน็จณรงค์ เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าไปในพื้นที่โรงพยาบาลประจำอำเภอบำเหน็จณรงค์ และทั่วตัวอำเภอโซนเศรษฐกิจ ตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา (25 ก.ย.) มีระดับน้ำท่วมสูงอย่างรวดเร็ว ขณะนี้เฉลี่ยสูงกว่า 1-2 เมตร ขณะที่นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ สั่งให้เฝ้าระวังพื้นที่ที่อาจมีน้ำป่าหลากมาจากเทือกเขาพังเหยจาก อ.เทพสถิต เนื่องจากเกิดฝนตกหนักสูงสุด โดยเกินกว่า 104 มิลลิเมตร หลากเข้าท่วม อ.บำเหน็จณรงค์ เพิ่มเติม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่กลางดึกวานนี้ (25 ก.ย.) ต่อเนื่องเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องต้องเร่งอพยพผู้ป่วย แพทย์ พยาบาล ออกจากพื้นที่อย่างอลหม่าน ซึ่งนายแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์ สสจ.ชัยภูมิ แจ้งว่ามีผู้ป่วยโควิด-19 รักษาตัวอยู่ภายในโรงพยาบาลที่ถูกน้ำท่วม รวม 10 ราย และมีผู้ป่วยทั่วไป 30 ราย พร้อมเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล รวมอีกกว่า 120 คน ซึ่งเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิได้ระดมชุดเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเร่งอพยพคนที่ติดอยู่ในชั้น 2 ของ รพ.บำเหน็จณรงค์ ออกมาได้ทั้งหมดแล้ว
ด้านการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยในพื้นที่ อ.บำเหน็จณรงค์ เป็นไปอย่างลำบาก โดยเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าถึงผู้ได้รับความเดือดร้อนอีกหลายพันครอบครัว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังคงกระจายกำลังออกให้การช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะเข้าช่วยทั้งหมดอย่างรวดเร็วภายใน 24 ชม.จากนี้ไป
ขณะที่ อ.จัตุรัส เกิดน้ำป่าหลากเข้าท่วมพื้นที่หนักสุดไม่แพ้กัน ซึ่งตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมาได้มีประกาศเตือนให้ผู้ใช้เส้นทางบนถนนทางหลวงหมายเลข 201 ชัยภูมิ-สีคิ้ว ช่วงก่อนเข้าถึงตัว อ.จัตุรัส เชื่อมผ่านเข้าออก จ.ชัยภูมิ และ จ.นครราชสีมา รถเล็กทุกชนิดไม่สามารถใช้เส้นทางผ่านจุดนี้ได้ ล่าสุด เกิดน้ำป่าหลากท่วมสูงจนเกือบมิดหลังคาบ้านเข้ามาในพื้นที่ในตัว อ.จัตุรัส โซนเศรษฐกิจกลางตัวอำเภอได้รับความเสียหายเป็นวงกว้างทั้งหมดแล้ว ปัจจุบันมีการแจ้งประสานมูลนิธิกู้ภัยต่างๆ ใน จ.ชัยภูมิ, จ.นครราชสีมา, จ.อุดรธานี, จ.เลย และ จ.ขอนแก่น นำอุปกรณ์เรือเข้ามาช่วยเหลือประชาชน ผู้ป่วยติดเตียงที่ติดอยู่ภายในบ้านถูกน้ำท่วมสูงเข้าออกบ้านไม่ได้อีกเป็นจำนวนมากในหลายตำบลแล้ว ซึ่งขณะนี้มีผู้เดือดร้อนไม่น้อยกว่าพันคน
สำหรับ อ.เมืองชัยภูมิ ยังเกิดฝนตกหนัก เกิดน้ำป่าหลากจากเขื่อนลำปะทาว และลำน้ำชียังทะลักลงมาเข้าท่วมพื้นที่โซนเศรษฐกิจย่านใจกลางเมือง ระดับน้ำท่วมขยายวงท่วมบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายไม่น้อยกว่า 1,000 ครอบครัว โดยเฉพาะจุดหน้าโรงพยาบาลชัยภูมิ รถยนต์ทุกชนิดไม่สามารถผ่านเข้าออก รพ.ได้ และต้องระดมเจ้าหน้าที่คอยใช้เรือและรถขนาดสูงของกองทัพภาคที่ 2 เข้ามาช่วยเหลือให้บริการเพิ่มเติมในการรับส่งผู้ป่วยเข้าออก รพ. ระหว่างที่ต้องเร่งระบายน้ำออกนอกตัวเมืองในตลอด 24 ชม. เพื่อลดความเสียหายในโซนเศรษฐกิจใจกลางเมืองชัยภูมิให้ได้โดยเร็วที่สุดต่อไป
ล่าสุด จ.ชัยภูมิ มีพื้นที่ถูกน้ำท่วมทั้งจังหวัด รวม 16 อำเภอ และได้ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติน้ำท่วมหนักแล้วใน 8 อำเภอ ตั้งแต่พื้นที่ อ.บำเหน็จณรงค์ อ.เทพสถิต อ.จัตุรัส อ.หนองบัวระเหว อ.บ้านเขว้า อ.เนิ่นสง่า อ.เมือง และ อ.เกษตรสมบูรณ์ และยังต้องเฝ้าระวังต่อเนื่องหนักสุดที่ อ.บำเหน็จณรงค์ อ.จัตุรัส และ อ.เมืองชัยภูมิ ที่มีการตั้งครัวพระราชทานจากในหลวงรัชกาลที่ 10
นอกจากนี้ ทางจังหวัดได้ประสานขอกำลังทหาร เครื่องมือต่างๆ มาช่วยเหลือเป็นการเพิ่มเติมโดยด่วน ซึ่งขณะนี้เริ่มทยอยเดินทางเข้าพื้นที่แล้ว
