สระบุรีอ่วม น้ำไหลท่วมมิดบ้านปชช. ถนนตัดขาด ประปาไม่ไหล ต้องย้ายหนีพักริมถนน
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม เวลาประมาณ 02.00 น. ปริมาณน้ำจากคลองเพรียว ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี ได้เอ่อล้นท่วมสะพานคลองเพรียว บริเวณสะพานดำ รถเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านได้ เป็นถนนจาก ต.ตะกุด สู่ตัวเมืองสระบุรี มีร้านค้าหลายร้านที่ตั้งอยู่ริมถนน มีหลายร้านขนสิ่งของหนีน้ำไม่ทัน ทั้งนี้ปริมาณน้ำยังเพิ่มระดับสูงขึ้นเรื่อยไป คลองเพรียวหรือคลองปากเพรียว เชื่อมต่อกับแม่น้ำป่าสักสระบุรี และอ่างเก็บน้ำคลองเพรียว ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี เจ้าหน้าที่ต้องมาปิดกั้นทางให้ใช้เส้นทางอื่นแทน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระแสน้ำบริเวณแม่ป่าสักไหลแรง เนื่องจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีการระบายน้ำออกจากเขื่อน 1200 ลูกบาศก์เมตร ต่อวินาที ส่งผลให้ปริมาณน้ำจำนวนมากไหลลงสู่แม่น้ำป่าสัก ทำให้เกิดน้ำเอ่อท่วมในหลายพื้นที่ ส่วนบริเวณชุมชนเขาคูบา ซึ่งอยู่ติดกับคลองชลประทานคลองเพรียว ทางคลองชลประทานได้ปล่อยกระแสน้ำลงแม่น้ำป่าสักเพิ่มอีก ทำให้มีมวลน้ำจำนวนมาก ไหลท่วมบ้านเรือนประชาชน ต้องอพยพ ขนย้ายข้าวของออกจากบ้านกัน อลม่าน มาอาศัยพักอยู่ริมถนน ซึ่งก็ไม่มีเต๊นท์ หรือที่บังแดดให้พักพิงต้องนำข้าวของเครื่องใช้วางกองอยู่ริมถนน และตากแดดอญู่อย่างนั้น
บ้างก็ไปอาศัยอยู่ภายในบริเวณ โรงเรียนเทศบาล 9 เนื่องจากกระแสน้ำได้มีระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านได้รับผลกระทบกว่า 100 หลังคาเรือน ส่วนบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำได้ถูกน้ำท่วมจนมิดหลังคาบ้านแล้ว สร้างความยากลำบากให้กับชาวบ้าน ซึ่งน้ำยังคงมีปริมาณสูงขึ้นเรื่อยๆ ชาวบ้านเกรงว่าจะสูงท่วมถนนที่ตนเองพักอาศัยอยู่ คงจะต้องย้ายหนีไปอีก
ประกอบกับชาวบ้านร้องว่า ขณะนี้การประปาเทศบาลเมืองสระบุรีไม่ไหล โดยไม่มีการแจ้งเตือนให้ชาวบ้านได้รับทราบ ชาวบ้านไม่รู้จะเอาน้ำที่ไหนมาใช้ อุปโภค บริโภคได้ พ่อค้า แม่ค้าที่ขายของภายในตลาดต้องมาตักน้ำที่ไหลท่วมนำไปล้างอาหารทะเล ซึ่งน้ำที่ท่วมก็ไม่สะอาด
ส่วนบริเวณสะพานดำ ซึ่งเป็นชุมชนมีชาวบ้านอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และถนนเชื่อมต่อไปยังศูนย์ราชการจังหวัดสระบุรี ได้ถูกน้ำท่วมสูง รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้
นางเฉลย สีแย้ม อายุ 63 ปี เล่าว่า น้ำไหลขึ้นท่วมรวดเร็วมาก ตนเองค่อยๆไล่เก็บของมา 2 วันแล้ว บ้านของตนท่วมมิดหลังคาเลย ตนจึงต้องมาอาศัยพักอยู่ที่ภายในโรงเรียนเทศบาล 9 รู้สึกได้รับความเดือดร้อนมากไปไหนมาไหนลำบากมาก หากินก็ไม่ได้
ส่วนนาง นารี ด้วงซื่อ แม่ค้าขายข้าวแกง เล่าว่า ตนเองมาเตรียมตั้งร้านเมื่อตอนตี 2 ยังไม่มีน้ำไหลเข้ามามีน้ำอยู่แค่คอสะพาน จากนั้นไม่นานน้ำได้เอ่อท่วมล้นสะพาน ตนเองตกใจทำไมน้ำมาแรงจังท่วมสะพาน ทำการสัญจรไปมาไม่ได้ ซึ่งตนเองว่าถ้ารู้ว่าน้ำจะขึ้นขนาดนี้ ตนเองก็จะไม่ขายของ ซึ่งตอนนี้ตนเองแย่เลย ขายของได้น้อยมาก คาดว่าพรุ่งนี้ไม่น่าจะขายของได้แล้ว เนื่องจากเกิดน้ำท่วม ถ้าพรุ่งนี้ทางกรมชลประทานไม่ปิดประตูน้ำ
